Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

ปฎิเวธ: การได้รับผลแห่งการปฎิบัติเป็นอย่างไร?


mp3: ปฎิเวธ: การได้รับผลแห่งการปฎิบัติเป็นอย่างไร?

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : ในขณะที่จะเกิดปฏิเวธ   องค์ธรรมสำคัญคือสัมมาสมาธิ   จิตจะรวมเข้าอัปปนาสมาธิโดยอัตโนมัติเลย   ถึงคนไม่เคยเข้าฌานเลย   เจริญสติถูกต้องรู้กายรู้ใจ   ด้วยจิตที่เป็นกลางไปเรื่อย   ถึงจุดที่เขาพอนะเจ้ารวมเข้าอัปปนาสมาธิเอง   ตัวสัมมาสมาธิในระดับอัปปนาสมาธิ จะทำหน้าที่เป็นตัวรวบรวมองค์ธรรมฝ่ายกุศลทั้งหลายให้ผนึกกำลังเข้าเป็นหนึ่ง   เพราะหน้าที่ของสมาธิก็คือการรวบรวมธรรมะที่เกิดร่วมกันให้มาทำงานร่วมกันได้   เพราะฉะนั้นในขณะที่สัมมาสมาธิเกิดขึ้น   ในขณะนั้นมีสัมมาสติ มีสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ  สัมมาวาจา  สัมมากัมมันตะ มีหมดเลย   ในขณะนั้นจะเกิดขึ้นพร้อมกันเลย   องค์ธรรมฝ่ายกุศลทั้งหลายทั้งปวงจะประชุมกันในขณะนั้นเลย   ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา   เกิดขึ้นพร้อมๆกันในขณะนั้น   คุณธรรมฝ่ายดีทั้งหลายเรียกโพธิปักขยธรรม  เกิดขึ้นในขณะนั้น 37 ประการ   เมื่อคุณธรรมฝ่ายดีทั้งหลายเกิดขึ้นในขณะเดียวกัน   ตัวที่เป็นตัวรวบรวม ผนึกกำลังของธรรมะฝ่ายดีไว้ด้วยกัน เป็นกองทัพธรรมะ   พอธรรมะถูกผนึกกำลังไว้ด้วยอำนาจสัมมาสมาธิแล้ว   ธรรมะจะมีพลังยิ่งใหญ่มาก   ลำพังธรรมะกุศลแต่ละตัวๆ   ไม่สามารถล้างกิเลสขั้นละเอียดชั้นสังโยชน์ได้เลย   ต้องอาศัยการผนึกกำลังของกุศลทั้งหลาย ผนึกเข้าเป็นหนึ่งเลย   ฉะนั้นสัมมาสมาธิเป็นตัวหลักเลย   ผนึกกำลังเป็นหนึ่งแล้วก็ทำลาย เกิดอริยมรรคขึ้น   มันทำลายสังโยชน์ลงไป ขาดแล้วขาดเลย ขาดแล้วไม่กลับมาอีก   ถ้ายังผลุบๆโผล่ๆ อย่างเราขั้นทำวิปัสสนาอยู่   มีกิเลสขึ้นมามีสติรู้ทันมันก็ดับลงไปชั่วคราวเดี๋ยวก็เกิดอีก   ตัณหาเกิดขึ้นมามีสติรู้ทันเดี๋ยวมันก็เกิดอีก   นี่ขั้นทำวิปัสสนา   ถ้าขั้นสมถะก็เหมือนกันทำได้ชั้วคราว   ใจฟุ้งซ่านทำความสงบ   มันก็สงบชั่วคราว   ใจโกรธขึ้นมาเจริญเมตตาไว้ก็สงบชั่วคราว   มีแต่ของชั่วคราวทั้งนั้น   ระหว่างทางเดินยังมีของชั่วคราวอยู่   แต่ตอนที่เกิดอริยมรรคแล้วตัดแล้วตัดเลย   ไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว   ตัวไหนถูกฆ่าทำลายแล้วไม่มีอีกแล้ว

หมายเหตุ

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 91 times, 1 visits today)

Comments are closed.