Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.
หลวงพ่อปราโมทย์ : ว่านี่ความเป็นตัวเป็นตนความเป็นเราขึ้นมา ผุดขึ้นมา มีเราผุดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็มีเขาผุดขึ้นมาเมื่อนั้น ต้องมีคู่กัน มีเราคนเดียวไม่ได้มันต้องมีคนอื่นด้วย มีเรามีเขามีภายในมีภายนอก มีหยาบมีละเอียด มีสิ่งที่เป็นคู่ๆเกิดขึ้นมา
เพราะฉะนั้นเรารู้สึกเอานะ เวลาความรู้สึกมีตัวมีตนอะไรผุดขึ้นมาเราก็รู้ทันเอา ร่างกายมันเดินเราก็เห็นกายมันเดินไม่ใช่เราเดินล่ะ ถ้ามันมีความรู้สึกฉันเดินเมื่อใดหลงแน่นอนตอนนั้นหลงแน่ ถ้าไม่หลงมันไม่มีชั้นเดินหรอกนะ หรือชั้นโกรธเนี่ย ต้องหลงแล้วนะ ถ้าไม่หลงจะเห็นจิตมันโกรธไม่ใช่ชั้นโกรธ ต้องหลง เพราะฉะนั้นโมหะเนี่ยตัวต้นตอเลย ตัวหลง
พอหลงแล้วมันก็มีตัวเราขึ้นมา ปรุงเราปรุงเขา ปรุงดีปรุงชั่ว ปรุงสุขปรุงทุกข์ ปรุงธรรมที่เป็นคู่ๆขึ้นมา ทั้งๆที่ธรรมทั้งหลายเป็นธรรมเดี่ยวๆนะ คือธรรมทั้งหลายไม่ว่าอะไร เกิดแล้วดับทั้งสิ้นเลย มันไม่ได้เป็นคู่กับใครหรอก แต่เราชอบไปเข้าคู่ให้มัน
ยกตัวอย่างความโกรธกับความไม่โกรธ เราบอกว่ามันเป็นคู่กัน คู่กันตรงไหนล่ะ ความโกรธเกิดแล้วก็ดับไป ก็จบตรงนั้นเอง ความไม่โกรธมันเกิดขึ้นมาใหม่ ความไม่โกรธเกิดขึ้นมาแล้วมันก็ดับไป มันเกิดความโลภขึ้นมาใหม่ ความโลภเกิดขึ้นมาแล้วก็ดับไป มันเกิดความไม่โลภขึ้นมาใหม่ ใช่มั้ย
แต่ละตัวๆเราไปจับมันคู่กันเองล่ะ จริงๆมันเกิดแล้วมันดับโดยตัวของมันเอง มีแต่เดี่ยวๆทั้งนั้นเลย สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นดับ ใช่มั้ย ไม่ใช่สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นมีคู่ๆ มีคู่ๆเพราะว่ามีสมมติบัญญัติ มีความคิดเจือปนเข้าไป
หมายเหตุ
คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่