mp 3 (for download) : อย่าประมาท ชีวิตเราเหมือนไต่ลวดอยู่บนขอบเหว
Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.
หลวงพ่อปราโมทย์ : กิเลสก็คือสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมา เหมือนแมงมุมชักใยขึ้นมา แล้วกิเลสนั่นแหละกลับมาครอบงำจิต แมงมุมไปติดใยตายแล้ว จิตมันแอบไปปรุงขึ้นมา ปรุงกิเลสขึ้นมานะ แล้วกิเลสก็กลับมามีอิทธิพลครอบงำจิต ต่อไปกิเลสก็มีกำลังกล้ามากขึ้นๆ คราวนี้บงการจิตได้ทั้งวันแล้ว เพราะฉะนั้นสู้แต่กิเลส ถอยไม่ได้นะ ต้องสู้ตายนะ สู้กันด้วยถึงเลือดถึงเนื้อเลย
ถ้าอ่อนแอท้อแท้ถดถอยเมื่อไหร่นะ ถอยไกลนะ ถอยไกล ไม่ใช่ถอยทีหนึ่งก้าวสองก้าวนะ มันถอยกันเป็นชาติๆ นะ ถ้าในคัมภีร์เขาจะถอยครั้งละห้าร้อยชาติ ห้าร้อยชาติ บางทีถอยนานมากเลย อย่างพระอานนท์ สมัยก่อนจะเป็นพระอานนท์ ไปทำบุญมา แล้วขอให้มีรูปงาม ขอให้หล่อ อีกชาติหนึ่งเกิดมาหล่อเฟี้ยวเลย คราวนี้ก็ไปทำผิดศีล ประพฤติผิดในกาม ท่านบอกท่านตายจากชาตินั้นท่านเวียนอยู่ในนรกเนิ่นนาน นี่มีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวแล้วท่านไปเวียนอยู่ในนรกนาน พ้นจากนรกขึ้นมานะ ท่านมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เกิดเป็นวัว บุญที่ทำความดีไว้นะ และก็อธิษฐานไว้ก็ส่งผลให้เป็นวัวรูปหล่อ (หัวเราะ) เป็นวัวสุดหล่อนะ ถ้าเข้าประกวดทีไรต้องชนะ สมัยโบราณเขาคงไม่ประกวดกัน งี้เวลาเจ้าของเทียมเกวียนไปไหนมาไหนวัวสาวๆ ชอบมาวิ่งตาม เจ้าของรำคาญนะเลยจับตอนไปอีก นี่ท่านบอกว่าท่านถูกตอนอยู่ห้าร้อยชาติ ห้าร้อยชาติหมายถึงถูกตอนแล้วตอนอีกอย่างงั้น ซ้ำแล้วซ้ำอีก เสร็จแล้วมาเกิดเป็นคนนะ เป็นคนที่ไม่สมประกอบละ ผิดปกติทางเพศ ท่านบอกเป็นอยู่อย่างนี้อีกนาน กว่าจะสมประกอบคืนขึ้นมาได้ ดูสิทำผิดชั่ววูบเท่านั้นนะ เวียนอยู่นับเวลาเนี่ยนับไม่ถูกเลย
หรืออย่างบางคนโกรธเศรษฐี เศรษฐีเขาไปสร้างวัด อยากไปแกล้งเศรษฐีคนนี้ ไปเผาวัดเผากุฏิของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าในอดีต เพื่อจะแก้แค้นเขานิดเดียวเท่านั้นนะไปเผาวัด ไปเผากุฏิพระพุทธเจ้า จะให้เศรษฐีนั้นเจ็บใจเพราะเป็นคนสร้างวัด เศรษฐีนั้นใจถึงนะ ดีใจใหญ่ อุ๊ย ปลื้ม จะได้สร้างอีกแล้ว ได้ถวายวัดกับพระพุทธเจ้าอีกครั้งหนึ่งแล้ว เศรษฐีนั้นก็ได้ผลดีไปนะ ตานั้นเป็นเปรตอยู่ช้านาน ตลอดพุทธันดรหนึ่ง ช่วงที่เว้นว่างจากพระพุทธเจ้าน่ะ ตกนรกอยู่นานนะ แล้วก็ขึ้นมาเป็นเปรตอีกเป็นพุทธันดร ความผิดชั่ววูบให้ผลยาวนะ
เราอย่าประมาท เราเดินอยู่บนขอบเหวแท้ๆ เลย เหมือนเราไต่ลวดอยู่บนขอบเหวนะไม่ใช่เดินอยู่บนพื้นเรียบๆ นะ เหมือนไต่เชือกไต่อะไรอยู่ พลาดพลั้งไม่ได้นะ ต้องสู้นะ มีคนหนึ่งรู้จักกัน ก็เคยพลาดพลั้ง เคยบวชเป็นพระ เป็นพระแล้วก็ถือศีลธรรมดานี่แหละ แต่ว่าไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร เพราะว่าสมัยโน้น ไม่มีการเรียนปริยัติหรือปฏิบัติอะไรเลย บวชกันตามประเพณีไปงั้น วันๆ อยู่ไปเรื่อยๆ นะ ตายจากชาตินั้นก็ไปเกิดเป็นวัว ไปใช้หนี้ชาวบ้านเขานะ แต่ว่าไม่ได้ทำกรรมชั่วอะไรนะ พอเป็นลูกวัวชาวบ้านก็เอามาปล่อยไว้ในวัด มาถวายวัดอีก กลับมาอยู่วัดเก่านี่แหละที่เคยเป็นพระนะ
ประมาทไม่ได้เลยนะสังสารวัฏเนี่ย พลาดแวบเดียวเนี่ยไปยาวมากเลย เหมือนเราไต่ภูเขา เราพลัดตกเหวลงมานะ ไม่ใช่ง่ายที่จะขึ้นไป ทุลักทุเลนะ ต้องเข้มแข็งนะ สู้กับกิเลสถอยไม่ได้ แต่สู้ต้องมีสติปัญญา เหมือนเราไต่เขาต้องมีสติปัญญา ไม่ใช่ไต่โง่ๆ ขึ้นไปนะ ตอนนี้เหนื่อยแล้วหยุดพัก หาชะง่อนหินพักก่อน มีเรี่ยวมีแรงค่อยไต่ใหม่ เราภาวนาไปแล้วช่วงนี้เหน็ดเหนื่อยแล้วทำสมถะ ทำความสงบ สงบแล้วจิตใจมีเรี่ยวมีแรงแล้วมาเจริญปัญญารู้กายรู้ใจอีก กระดึ๊บ ๆ ๆ ไปเรื่อยไม่ท้อถอยนะ จะยากลำบากแค่ไหนก็ถอยไม่ได้นะ เป็นโอกาสดีมากๆ ของพวกเราแล้วที่ได้เจอศาสนาพุทธนะ
สวนสันติธรรม
CD: 16
File: 25491116A.mp3
Time: 17m40 – 22m34
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่