Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

ถ้ามีสติ จากไม่มีศีลก็มีศีล จากไม่มีสมาธิก็มีสมาธิ จากไม่มีปัญญาก็มีปัญญา


mp3 (for download) : มีสติก็มีศีล มีสมาธิ มีปัญญา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช สวนสันติธรรม ชลบุรี

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช สวนสันติธรรม ชลบุรี

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าดูจิตเป็นนะ เคยไม่มีศีล ก็จะมีศีล ไม่มีสมาธิ ก็จะมีสมาธิขึ้นมา หัดดูจิตดูใจของเรา มีสติรักษาจิตไปเรื่อย รู้ทันจิตไป กิเลสเกิดขึ้นรู้ทัน กิเลสเกิดขึ้นรู้ทัน ถ้าฝึกอย่างนี้เรื่อยนะ กิเลสครอบงำจิตไม่ได้ จิตไม่ผิดศีลหรอก จิตไม่ผิดศีล กาย วาจาก็ไม่ผิดศีล รักษาใจไว้ได้ตัวเดียว กายวาจา ก็เรียบร้อยไปด้วย คนเราทำผิดศีลทางกาย ทางวาจาได้นั้น ก็เพราะว่ากิเลสครอบงำจิต กิเลสครอบงำจิตเพราะว่าไม่มีสติรู้ทัน เราอยากรักษาศีลให้สบาย ไม่ลำบาก อย่างคนไม่มีสติรักษาศีลยากที่สุดเลย เดี๋ยวก็เผลอ เดี๋ยวก็เผลอ เผลอแล้วก็ทำผิดศีลอีก ศีลกระพร่องกระแพร่ง ศีลโกโรโกโสอย่างนั้นใช้ไม่ได้ มีสติรู้ทันจิตบ่อยๆไว้ กิเลสเกิดรู้ทัน กิเลสเกิดรู้ทัน อย่างราคะเกิดแล้วรู้ทัน ราคะครอบงำจิตไม่ได้ ก็ไม่เป็นชู้กับใคร ไม่มีกิ๊ก มีอะไรหรอก ไม่ขโมยใครหรอก มันอัตโนมัติขึ้นมาอย่างนี้ โทสะเกิดขึ้นมีสติรู้ทันนะ โทสะครอบงำจิตไม่ได้ มันก็ไม่ฆ่าไม่ตีใคร เห็นมั๊ยสำคัญนะ มีสติรักษาจิตเอาไว้ คอยรู้ทันจิตไปเรื่อย กิเลสครอบงำไม่ได้ก็มีศีลขึ้นมา จิตใจฟุ้งซ่านได้ก็เพราะกิเลสนั่นแหล่ะ จิตใจทำผิดศีลได้ก็เพราะกิเลส จิตใจฟุ้งซ่านได้ก็เพราะกิเลส มันมีสติอยู่นะ จิตใจมันฟุ้งขึ้นมารู้ทัน ความฟุ้งซ่านก็ดับไป จิตมันคิดไปในเรื่องกาม มีกามฉันทะนิวรณ์ จิตมันตรึกไป คิดไปในกาม มีสติรู้ทันนะ กามฉันทะก็ดับไป ใจมันตรึกไปในทางพยาบาท คิดไปในทางพยาบาท มีสติรู้ทันนะความพยาบาทก็ดับไป มีสติรู้ทันใจมันฟุ้งซ่านรู้ทัน ใจมันหดหู่รู้ทัน ใจมันลังเลสงสัยรู้ทันขึ้น กิเลสพวกนี้จะดับไป

กิเลสระดับนี้ เรียกว่า นิวรณ์ เป็นกิเลสชั้นกลาง ถ้านิวรณ์มันทำงานขึ้นมาได้ มันจะกลายเป็นกิเลสอย่างหยาบ เป็น ราคะ โทสะ โมหะ ขึ้นมา ถ้า ราคะ โทสะ โมหะ เกิดแล้วมันครอบงำจิต จะผิดศีล แต่ถ้านิวรณ์เกิดนะ ยังไม่แรงถึงขั้น ราคะ โทสะ โมหะ จะเสียสมาธิไป จิตจะฟุ้ง จิตจะเคลื่อนไป ลืมกายลืมใจแล้ว ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว งั้นเรามีสติรู้ทันจิต จิตมีนิวรณ์เกิดขึ้น กามฉันทะ ความพอใจในกามเกิดขึ้น พยาบาทเกิดขึ้น ความฟุ้งซ่าน ความหดหู่ ความลังเลสงสัย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นคอยรู้ทันลงไป  กิเลสนิวรณ์มันก็ดับ อยู่ไม่ได้หรอก มันสู้สติไม่ได้ มีสติเมื่อไหร่มันไม่มีกิเลสหรอก

นี่เราก็ล้างความฟุ้งซ่านของจิตไป จิตไม่หลงปรุง หลงคิด หลงนึกไป จิตอยู่กับเนื้อกับตัว ตั้งมั่น หลุดออกจากโลกของความคิดได้  แม้สมาธิทำไปนะ เราจะหลุดออกจากโลกของความคิด และนิวรณ์นั้นมันลากให้เราปรุงไป ลากให้เราคิดไป คิดไปในกาม คิดไปในพยาบาท คิดฟุ้งซ่าน คิดหดหู่ คิดสงสัย นิวรณ์มันลากให้เราหลงไปคิดให้จิตฟุ้งซ่าน มีสติรู้ทันจิตก็ตั้งมั่นขึ้นมา จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัวแล้วตอนนี้ พอจิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว คราวนี้เดินปัญญาได้ เห็นมั๊ยสำคัญนะ มีสติรู้จิตไป กิเลสหยาบครอบงำไม่ได้ กายวาจาเรียบร้อย มีสติรู้ทันกิเลสอย่างกลางๆ เรียกว่า นิวรณ์  นิวรณ์นี่เป็นตัวกระตุ้น ถ้าปล่อยมันรู้ไม่ทันมัน จะกลายเป็นกิเลสหยาบ ถ้ารู้ทันมันใจก็สงบ ใจไม่ฟุ้งซ่านไปหลงไปอยู่ในโลกของความคิด เรียบร้อยใจสบายอยู่กับเนื้อกับตัว คราวนี้ก็เดินปัญญา

หลักของการเดินปัญญาเนี้ย ต้องแยกรูป แยกนาม แยกกาย แยกใจให้ได้นะ หลายคนที่พอมีสติขึ้นมาปุ๊บ รูปนามกายใจมันแยกเอง พวกที่มีบารมีนี่ มีสะสมมาแล้วเคยภาวนามาแล้ว พอใจรู้สึกตัวปุ๊บนี่ มันจะเห็นเลยร่างกายอยู่ส่วนหนึ่ง จิตอยู่ส่วนหนึ่ง เห็นเองเลย เห็นความรู้สึกสุขทุกข์อยู่ส่วนหนึ่ง จิตอยู่ส่วนหนึ่ง เห็นเองนะ เห็นกุศล เห็นอกุศลอยู่ส่วนหนึ่ง จิตอยู่ส่วนหนึ่ง นี่มันเห็นได้เองนะ คนซึ่งมีบารมี อบรมมา อินทรีย์แก่กล้ามา บางคนไม่แก่กล้า พอรู้ตัวแล้วรู้อยู่เฉยๆ รู้ว่างๆอยู่นะ ไปเอาความว่าง น่าสงสาร ภาวนากับความว่าง เรียกว่า มักน้อยในเรื่องไม่ควรมักน้อย ต้องรู้กายต้องรู้ใจนะ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอย่างอื่นเลย งั้นบางทีทำสมาธินะรู้ตัว ใจตั้งมั่นอยู่กับเนื้อกับตัว รู้ตัว สว่าง ว่าง สบาย จิตไปค้างอยู่ตรงนี้ขี้เกียจขี้คร้านไม่เดินปัญญาต่อ อย่ามาคุยเรื่องมรรคผลนิพพาน บางคนเข้าใจผิดนะ บอกให้ประคองจิตให้ว่าง ไปงั้นนะ ว่างไปถึงที่หนึ่งแล้วบรรลุมรรคผลนิพพาน มรรคผลนิพพานไปได้ด้วยปัญญา

หลวงพ่อปราโมย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
ก่อนฉันเช้า

CD สวนสันติธรรม 33
file: 521226A
ระหว่างนาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๑๓ ถึง นาทีที่ ๑๕ วินาทีที่ ๒๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 1,951 times, 1 visits today)

Comments are closed.