Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

Dhammada News: ประเด็นแถลงข้อเท็จจริง ครั้งที่ 2 กรณีของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช


ประเด็นแถลงข้อเท็จจริง ครั้งที่ 2
กรณีของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
และอุบาสิกาอรนุช สันตยากร ถูกกล่าวหา
วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553

1. เรื่องกุฏิอยู่ใกล้กัน
1.1 ในชั้นแรกที่ไปดูที่ดินเพื่อสร้างสวนสันติธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ได้กำหนดที่ตั้งกุฏิว่าให้ตั้งบนยอดเนินใกล้เชิงเขา ถัดลงมาให้เป็นกุฏิของพระอุปัฏฐาก และให้คุณฐิตินาถไปหาที่ตั้งกุฏิของอุบาสิกาอรนุชตามความเหมาะสม ซึ่งในเอกสารประกอบการประชุมกรรมการก่อสร้างเมื่อ 4 กันยายน 2548 ระบุชัดเกี่ยวกับที่ตั้งกุฏิของหลวงพ่อว่า

  • บริเวณกุฏิพระอาจารย์
    • อยู่ด้านในสุดของที่ดิน บนเนิน และติดน้ำ ติดเขา
    • มีรั้วกั้นโดยรอบและมีประตูปิดหนาแน่นกั้นอีกชั้นหนึ่ง
    • อาจขุดสระน้ำ หรือบึงบัวขนาดใหญ่กั้นขอบด้านนอก (2 ขอบ) ดังนั้นอาจทำกุฏิเป็น over water
    • มีทิวไม้ปิดกั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุดขอบที่ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
    • มีทางเดินจงกรมบนดิน (เรียบทางน้ำ ถ้าเป็นไปได้) พร้อมที่ล้างเท้า
    • ยกพื้น 2 ระดับ
      ระดับที่ 1 จากพื้นขึ้นชานชาลาพักผ่อน และรับแขก
    • ตรงติดบันไดทางขึ้นกุฏิ มีห้องแยกสำหรับผู้ดูแล โดยมีห้องน้ำด้านนอกห้อง
      ระดับที่ 2 แยกจากชานชาลามาเป็นส่วนห้องส่วนตัว

1.2 ในขั้นการจะลงมือก่อสร้างจริง คุณฐิตินาถได้ย้ายที่ตั้งกุฏิของหลวงพ่อกับพระอุปัฏฐากให้สลับที่กัน โดยอ้างเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัยว่าหลวงพ่อไม่ควรอยู่ติดรั้วสวนสันติธรรม แต่ให้อยู่กลางและแวดล้อมด้วยกุฏิพระอุปัฏฐาก กุฏิอุบาสิกาอรนุช บ้านคุณฐิตินาถ และบ้านคุณอารีย์ (ดูภาพถ่ายจากดาวเทียมประกอบ) ดังนั้นตำแหน่งที่ตั้งของกุฏิหลวงพ่อและกุฏิอุบาสิกาอรนุช จึงเป็นไปตามการกำหนดของคุณฐิตินาถเอง
1.3 ต่อมาเมื่อมีการสร้างรั้วกั้นระหว่างที่ดินของสวนสันติธรรมและที่ดินของคุณฐิตินาถ จึงดูเหมือนว่ากุฏิของพระอุปัฏฐาก กุฏิของหลวงพ่อ และกุฏิของอุบาสิกาอรนุชอยู่เรียงกันตามลำพัง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วกุฏิของพระอุปัฏฐากกับกุฏิของหลวงพ่ออยู่ใกล้ชิดกันมากขนาดร้องเรียกกันได้ แต่กุฏิของอุบาสิกาอยู่ห่างออกไปมาก และอยู่ในระดับต่ำกว่ากุฏิของหลวงพ่อมาก และมีต้นไม้กั้นอยู่มากจนมองไม่เห็นกุฏิหลวงพ่อ

2. เรื่องคำสอน
ธรรมะที่หลวงพ่อปราโมทย์สอนนั้น จะเป็นการให้หัดรู้สึกตัว หัดรู้กายบ้าง หัดรู้จิตบ้าง หัดรู้สภาวะที่กำลังปรากฏไปด้วยจิตที่ตั้งมั่น เป็นกลาง เพื่อให้เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของรูปนามหรือของขันธ์ 5 ใช้ปฏิบัติทั้งในระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน และทั้งในช่วงที่ปฏิบัติตามรูปแบบ
โดยจะเหมาะกับจริตนิสัยของผู้ปฏิบัติที่เหมาะกับชาวเมืองส่วนใหญ่ที่จะหาเวลามาปฏิบัติภาวนาในแต่ละวันได้ยากเต็มที หลวงพ่อจึงเน้นให้มาหัดเจริญสติเจริญปัญญาอยู่ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก และในแต่ละวันหลวงพ่อจะให้หัดปฏิบัติตามรูปแบบที่ถนัด จะวันสิบนาที ครึ่งชั่วโมง หนึ่งชัวโมง หรือมากกว่าแล้วแต่สะดวก เพื่อให้จิตตั้งมั่นมีสมาธิด้วย อย่างไรก็ตามแนวทางที่หลวงพ่อวางไว้ให้นี้ ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน บางคนที่มาเรียนแล้วก็อาจปฏิบัติตามไม่ได้ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ

3. ผลสอบของ DSI
ในวันที่ 23 กันยายน 2553  นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยกับ TNN Thailand ว่า จากการรายงานเบื้องต้นในการตรวจสอบข้อร้องเรียนของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง และกลุ่มอดีตลูกศิษย์พระปราโมทย์ ปราโมชฺโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้ตรวจสอบ พระปราโมทย์ ทั้งกรณีเรื่องของเงินบริจาค ที่ดิน ที่อ้างว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้เป็นชื่อของอุบาสิกาอรนุช สันตยากร อดีตภรรยานั้น ยังไม่พบว่า พระปราโมทย์ได้มีการกระทำความผิดจริงตามที่มีการร้องเรียน โดยพระปราโมทย์ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องของเงินบริจาคที่มีคณะกรรมการดำเนินการร่วม กรณีที่ดินที่ขอจัดตั้งเป็นวัด ตรวจสอบเรื่องความใกล้ชิดกับอุบาสิกาอรนุช ที่ถูกร้องเรียนว่า กุฏิอยู่ใกล้กัน รวมไปถึงการสอนที่ถูกร้องว่าอวดอุตริมนุษธรรม ไม่พบว่าพระปราโมทย์มีการกระทำใดๆ ที่ผิดต่อพระธรรมวินัย

4. เรื่องกรรมการลาออก
4.1 เดิมสวนสันติธรรมมีกรรมการหลายประเภท เช่นกรรมการที่ปรึกษา กรรมการบริหาร และกรรมการทั่วไป การแต่งตั้งจะพิจารณาจากความเหมาะสมหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยงานของสวนสันติธรรม (เน้นการช่วยงาน ไม่ใช่การช่วยเงิน กรรมการส่วนใหญ่จึงมีฐานะปานกลางเท่านั้น) แต่ยังมีการแต่งตั้งอีกประเภทหนึ่ง เช่น การแต่งตั้งบุคคลบางท่านที่มีความตั้งใจจริงที่จะปฏิบัติธรรมแต่ยากลำบากเรื่องการเดินทาง เพื่อให้มีสิทธิ์เข้าพักที่สวนสันติธรรมได้เป็นพิเศษ หรือแต่งตั้งเพื่อให้เกียรติและเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ทำงานด้านการเผยแผ่ธรรมะ เป็นต้น รวมแล้วสวนสันติธรรมมีกรรมการหลายสิบท่าน
4.2 เมื่อกลางเดือนมกราคม 2553 มีกรรมการของสวนสันติธรรมเพียงส่วนน้อยจำนวน 6 ท่านลาออก โดยให้เหตุผลกับสวนสันติธรรมว่ามีภารกิจส่วนตัว ท่านหนึ่งในจำนวนนี้ได้มาขอขมาหลวงพ่อปราโมทย์ในภายหลัง และให้เหตุผลว่าแม้จะได้รับการโน้มน้าวชักชวนให้ลาออก แต่ความจริงตนต้องการลาออกอยู่ก่อนแล้วเพราะมีภารกิจมากจนไม่สามารถช่วยงานทอดกฐินเมื่อปี 2552 ได้เต็มที่ และเมื่อลาออกแล้ว ตนก็ไม่ได้เข้าร่วมขบวนการโจมตีหลวงพ่อปราโมทย์แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีกรรมการส่วนมากอีก 24 ท่านที่ไม่ได้ลาออก ซึ่ง(บางท่าน)ได้เปิดเผยว่าตนเองก็ถูกโน้มน้าวชักจูงกระทั่งข่มขู่ให้ลาออกเช่นกัน

5. ประเด็นการกล่าวหาต่าง ๆ
การสร้างเรื่องใส่ร้ายรายวันเป็นเรื่องที่เกินกว่าจะตามอธิบายได้ทุกเรื่อง จึงขอฝากให้สื่อมวลชนช่วยพิจารณาด้วยว่า หากหลวงพ่อปราโมทย์มีความผิดจริง และกลุ่มที่ต่อต้านหลวงพ่อปราโมทย์รักและต้องการพิทักษ์พระพุทธศาสนารวมทั้งมีข้อมูลอยู่จริง ก็ไม่จำเป็นจะต้องอาศัยการประโคมข่าวโจมตีหลวงพ่อปราโมทย์เป็นเวลาแรมปีอย่างที่ทำอยู่ อันจะส่งผลให้พระพุทธศาสนาในองค์รวมได้รับความมัวหมองไปด้วย การสร้างกระแสโจมตีอย่างทุกวันนี้ เป็นการฟ้องตนเองอยู่แล้วว่า กระทำไปด้วยความมุ่งร้ายต่อหลวงพ่อปราโมทย์เป็นการเฉพาะ โดยหาความผิดใดๆ กับหลวงพ่อปราโมทย์ไม่ได้ และไม่คำนึงด้วยว่าจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามากขึ้นหรือไม่
การกล่าวร้ายต่างๆ นั้น ยิ่งนับวันก็ยิ่งกระทำอย่างเปิดเผยและค่อนข้างหยาบคาย เพราะเห็นว่าหลวงพ่อปราโมทย์เป็นพระที่มีแต่ความเมตตา ไม่ฟ้องร้องเอาโทษตามกฏหมายและไม่ตอบโต้ จึงกล่าวร้ายโจมตีหลวงพ่อได้อย่างสบายใจ น่าจะเป็นหน้าที่ของพวกเราชาวพุทธที่รักความเป็นธรรม จะต้องช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมและแรงจูงใจเบื้องหลังของบุคคลเหล่านี้ และไม่ช่วยประโคมข่าวที่ขาดหลักฐานให้กับบุคคลเหล่านี้ ซึ่งความจริงมีจำนวนไม่มากนัก แต่อาศัยการผลัดกันโจมตีบ้าง รุมกันโจมตีบ้าง แล้วใช้การประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือขยายผลอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ในส่วนของสวนสันติธรรม ก็คงไม่จำเป็นต้องตามแก้ข่าวใส่ร้ายเหล่านี้ทุกเรื่องไป เพราะคงไม่มีที่สิ้นสุดลงได้เลย

อ้างอิง : wimutti.net forum

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 399 times, 1 visits today)

Comments are closed.