อ้างอิง : Manager Online
ผู้ว่าฯ ชลบุรียืนยันผลการตรวจสอบของฝ่ายปกครอง พบสวนสันติธรรมไม่เข้าข่ายฉ้อฉลหรือหลอกลวงประชาชน พร้อมอนุมัติส่งเรื่องไปให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพิจารณาเป็นวัด ส่วนเรื่องการสอนแบบอุตริให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ตรวจสอบเอง
วันนี้ (28 ก.ย.) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวยืนยันว่า ผลการตรวจสอบพระปราโมทย์ ปาโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 บ้านโค้งดารา ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่มีคนไปร้องเรียนว่า ฉ้อฉล หรือหลอกลวงประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอมเงินบริจาคหลายสิบล้านบาท หรือเรื่องที่ดินของสวนสันติธรรม หรือแม้แต่การสอบพระพุทธศาสนาแบบอุตรินั้น ซึ่งตนได้ส่งให้นายยุติศักดิ์ เอกอัคร นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานในการตรวจสอบ พร้อมด้วยนายสนธยา บุญชูดวง นักวิชาการศาสนา นางสายภิญย์ สิชฌนุกฤฎ์ นักวิชาการศาสนา และนายศุภวิทย์ สีสด นิติกรที่ทำการปกครอง จังหวัดชลบุรี เป็นกรรมการนั้น
ผลการตรวจสอบขอยืนยันว่า จากพยานหลักฐานทั้งหมดพบว่าน่าเชื่อว่าไม่มีพฤติกรรมหลอกประชาชนหรือมีฉ้อฉลยักยอกเงินบริจาครวมทั้งปัญหาที่ดินของสวนสันติธรรมแต่อย่างใด เนื่องจากพยานหลักฐานในการจัดตั้งสวนสันติธรรมเป็นไปตามความประสงค์ของผู้มีจิตศรัทธาต่อพระปราโมทย์ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติและศึกษาธรรม เนื่องจากการสร้างสวนสันติธรรมแต่แรกไม่ใช่นิติบุคคล เพราะยังไม่ใช่วัด ในการซื้อที่ดินเพื่อสร้างสวนสันติธรรม จึงต้องใช้บุคคลธรรมดาในการถือครอง ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.48 จึงซื้อในนามแม่ชี อรนุช สันตยากร อดีตภรรยาตั้งแต่เริ่มแรกจำนวน 48-2-60 ไร่ๆ ละ 120,000 บาท เป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท รวมสิ่งปลูกสร้างไปกว่า 43 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินบริจาคที่ได้มาจากผู้มีจิตศรัทธา โดยบริจาคโดยตรงเข้าบัญชีของพำนักปฏิบัติธรรม และเงินสดที่ใส่ในตู้บริจาคตามกำลังศรัทธา แต่พระปราโมทย์ซึ่งเป็นฝ่ายธรรมยุต ไม่อาจถือเงินทองทรัพย์สินใดได้ จึงต้องให้อุบาสถ หรืออุบาสิกา ช่วยกันดูแล จัดทำบัญชีรับจ่าย และงบดุล โดยมีผู้สอบบัญชีตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
จากพยานเอกสารยังพบว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.53 แม่ชีอรนุชทำหนังสือสัญญาตกลงว่าหากที่ดินถูกเปลี่ยนกลายเป็นวัดจะยกที่ดินให้เป็นของวัดซึ่งเป็นนิติบุคคล ซึ่งมีลายมือชื่อของพระปราโมทย์ยินยอมให้อุบาสิกาอรนุชยกที่ดินให้กับวัดด้วย ซึ่งนิติกรรมสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย หากบิดพลิ้วก็มีสิทธิสามารถนำไปฟ้องร้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาได้
ดังนั้น จากพยานหลักฐานจึงน่าเชื่อว่า พระปราโมทย์ไม่มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชน หรือมีการฉ้อฉลยอดเงินบริจาคแต่ประการใด ตนจึงอนุมัติเปลี่ยนสวนสันติธรรมเป็นวัด โดยจะส่งเรื่องไปให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาเปลี่ยนเป็นวัด แต่ในเรื่องของการอุตรินั้นขอให้เป็นเรื่องของสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ พิจารณากันต่อไป
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่