ความในใจของแม่บ้านจบ ป.4
เคยคิดอยู่บ่อย ๆ ว่าอยากเขียนบรรยายความรู้สึกขอบคุณ ที่ได้เรียนกับหลวงพ่อปราโมทย์ แต่ไม่มีโอกาส และ บางอย่างที่จะเขียนก็ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ ต้องขอขอบคุณที่ำมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทำให้เราได้มีโอกาสกล่าวคำขอบพระคุณหลวงพ่อจากใจจริงของลูกศิษย์จน ๆ คนหนึ่ง เราได้ซาบซึ้งถึงคำว่า ศรัทธาในบุคคล กับศรัทธาในคำสอนนั้นแตกต่างกันอย่างไร
เราเคยศรัทธาและชื่นชมบุคคลหลาย ๆ คน ในกลุ่มผู้ที่ได้ออกมาร้องเรียนต่อหลวงพ่อ เคยชอบใจและชื่นชมในผลงานการเขียน ชื่นชมในการเป็นคนรวยแล้วแบ่งปันโอกาสให้คนอื่น เราได้แต่คิดว่า เขาทำได้อย่างไร เราจึงตั้งใจเป็นคนดีตามเขา ยิ่งได้รู้ว่าเขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ทำให้เราศรัทธามากยิ่งขึ้น เคยติดตามผลงานและขอลายเซ็น ยิ่งมีโอกาสได้ช่วยงานเ็ล็ก ๆ น้อย ๆ ได้พูดคุย ก็ยิ่งประทับใจที่เขาเปิดโอกาสให้เรา
ความประทับใจนี้ทำให้เราดีใจมาก เมื่อรู้ว่าจะได้มีโอกาสได้ไปทำบุญที่สวนสันติธรรมในวันที่เปิดวัดวันแรก เรารีบไป ขอให้ได้มีโอกาสทำบุญ บุญที่เราทำไม่ได้ใช้เงิน แต่ได้ใช้แรงเข้าช่วย ตื่นเต้นตกใจ ทำไมคนมากขนาดนี้ ตอนนั้นยังไม่รู้จักหลวงพ่อ คิดว่าเป็นการเปิดวัดธรรมดา แค่ไปทำบุญแล้วก็กลับ ไปด้วยแรงศรัทธาในตัวผู้อื่นจริง ๆ
ครั้งที่สอง ไปปลูกต้นโพธิ์ ได้ฟังเทศน์เต็มที่เป็นครั้งแรก แต่ไม่เข้าใจ (ครั้งแรกไม่ได้ตั้งใจฟัง เพราะมัวแต่ตื่นเต้นคนเยอะ) เพราะตั้งใจไปทำแต่บุญ เกิดมาจน คิดว่าทำบุญมาก ๆ แล้วจะรวย ครั้งที่สาม ขอตามเพื่อนที่ไปกราบหลวงพ่อด้วย เจตนาคิดว่าไปทำบุญ แต่พอเข้าไปนั่งฟัง กลับแปลกใจว่าหลวงพ่อสอนอะไร ทำไมคนตั้งใจฟัง ไม่พูดไม่คุยกันเหมือนที่อื่น และมีการส่งการบ้านด้วย อ้าว…ทำสมาธิภาวนา เขาทำกันอย่างนี้เหรอ งั้นเราก็ทำได้น่ะสิ ไม่ต้องไปอยู่ที่อื่นก็ทำได้ กลับมาบ้านก็พุทโธตลอด ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน อ้าว…ทำไมพุทโธหายไป หายอยู่เรื่อย ๆ บังคับอย่างไรก็ไม่อยู่ เผลอเป็นคิด มันเริ่มทำให้ได้คิด เริ่มเข้าใจคำสอนมากขึ้น ตั้งใจที่จะเรียนรู้มากขึ้น ปกติทำสมาธิไม่ได้ แต่อยู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ที่นึกไม่ถึง ตอนนั่งฟังธรรมอยู่ อยู่ ๆ จิตก็รวมกลางศาลา รอบ ๆ ตัวหายไปหมด ทำให้เริ่มเชื่อมั่นและศรัทธาในคำสอนมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากคนที่นั่งสมาธิได้ไม่ถึง 5 นาที ค่อย ๆ ทำจนได้ถึง 30-40 นาที โดยไม่รวมเวลาที่สวดมนต์ เดินจงกรมได้ครั้งละ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น จากที่สวดมนต์บ้าง ไม่สวดมนต์บ้าง กลับมาสวดได้เช้าเย็นทุกวัน ขอยืนยันว่า มันค่อยเป็นค่อยไปจริง ๆ เพราะหลวงพ่อท่านจะให้รักษาวินัย ค่อย ๆ ให้การบ้านทีละคน ไม่ได้ให้เหมือนกันหมด โดยส่วนตัว หลวงพ่อจะเตือนเรื่องหน้าที่และการไม่เอาจริงเรื่องปฏิบัติ ทำให้เราได้หันมาสำรวจตัวเองว่าเราย่อหย่อนตรงไหน โดยทางโลก เรื่องหน้าที่ ท่านย้ำกับเรา แรก ๆ ก็งง แต่พอเจอปัญหาในชีวิต ทำให้เราเข้าใจหน้าที่ของความเป็นแม่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีี่ที่สุด
คำสอนทางธรรมที่หลวงพ่อสอน ทำให้เรานำมาใช้ในทางโลกได้อย่างไม่มีติดขัด การมีสติ การได้รู้ตามความเป็นจริง ทำให้เรายอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีสติในการแก้ปัญหาให้่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มีจิตใจที่เข้มแข็ง ในแง่การปฏิบัติ ท่านเตือนเรื่องการไม่เอาจริง ทำให้เราคอยสำรวจตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ได้เห็นว่าเรายังไม่เอาจริง จริง ๆ ทั้งที่ทำเหตุเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ จากการที่สังเกตละเอียดขึ้นไป จะมองเห็นว่า ถ้าเราเผลอ เราจะตามใจกิเลสทันที เวลามันครอบงำขึ้นมา เราจะหน้ามืดตามัว กลับไปทำนิสัยเดิม ๆ แต่ถ้าเราสังเกตคอยตามรู้ตามดูและมีวินัยในการทำรูปแบบ เราจะทัน และค่อย ๆ ละกิเลสแรง ๆ ไปได้เรือย ๆ โดยที่เราจะรู้ได้ด้วยตัวเราเอง
คำสอนที่ได้ผลกับตัวเอง ทำให้เราไม่หวั่นไหว ไม่คลอนแคลนในคำหลวงพอ ส่วนการศรัทธาตัวบุคคล เราเริ่มงง เพราะเท่าที่เราเคยรู้ การปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ต้องมีให้อภัย เสียสละ ละออก ยอมรับความจริง นิ่ง ไม่โต้ตอบ แต่สิ่งที่หลายคนกำลังทำ ทำให้เราค่อย ๆ เสื่อมศรัทธาลงเรื่อย ๆ แต่แปลกที่เราไม่เสื่อมศรัทธาในศาสนา ยิ่งทำใ้ห้เราเห็นโทษในการเกิดไม่รู้จบ ลึก ๆ ลงไป เราเห็นความภูมิใจในการเป็นคนจน ที่มีกิเลสอยากทำแต่ความดี เพื่อเกิดใหม่จะได้ไม่ลำบาก แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามันน่ากลัวทั้งนั้น
เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เห็นความจริงขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งคือ ทุกครั้งที่โต้เุีถียงกับคนอื่นหรือคนใกล้ตัว หรืออธิบายให้คนอื่นเข้าใจว่าเราถูก ก็ล้วนเป็นการรักตัวเอง ไม่อยากให้ใครว่าเราไม่ดี เสียหน้าถ้าเขาเข้าใจผิด แต่หลวงพ่อสอนให้เราเห็น มันทำให้เราหนักแน่น มั่นคง ไม่หวั่นไหว ใจตั้งมั่น ภูมิใจที่ได้เกิดในศาสนาพุทธ มีโอกาสได้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปราโมทย์ ที่สอนให้เรารู้จักการละวาง
ยังมีอีกคนที่เราขอกราบขอบพระคุณ นั่นคือคุณแม่ชีอรนุช ที่ท่านคอยให้กำลังใจทุกครั้งที่มีปัญหา ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ความอบอุ่นร่มเย็นของแม่ ทำให้เรามีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม จะขอปฏิบัติบูชาจนกว่าจะไม่ต้องเกิดอีกต่อไปในสังสารวัฏนี้
เรื่องของแม่บุญมา
ขอเล่าเรื่องของแม่บุญมา พงษ์จินดา อายุ 75 ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เส้นเลือดสมองตีบ เป็นอัมพฤกษ์ที่โคนลิ้น พูดไม่ชัด แขนยกไม่ขึ้นไปหนึ่งข้าง แม่นั่งรถมาจากชุมพร เพื่อมาแสดงพลังบริสุทธิ์ต่อองค์หลวงพ่อถึงศรีราชา มาเองโดยไม่ต้องให้ไปรับที่สายใต้ แม่เข้มแข็งมาก พอทราบข่าว แม่ก็รีบบอกว่าอยากมา ปกติแม่จะไม่ค่อยได้ดูข่าว เราบอกน้อง ๆ ไปว่า ไม่ต้องเล่าให้แม่รู้ แต่แม่ก็รู้จนได้ แม่ร้องไ้ห้ โทรมาบอกว่าสงสารหลวงพ่อ เราก็บอกไปว่า ไม่ต้องสงสารหรอก หลวงพ่อปกติดี ลูกยังไปกราบหลวงพ่อเหมือนเดิม แม่เลยบอกว่าอยากมาที่สวนฯ เราก็ไม่ค่อยมีเงิน สามีของเพื่อน ที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อด้วยกัน ตัวเองก็กำลังป่วยอยู่ ขอออกค่ารถใ้ห้แม่มากราบหลวงพ่อ ต้องขอโมทนาด้วย
สาเหตุที่แม่ดั้นด้นมาด้วยตัวเอง ด้วยวัยชราและป่วยอยู่ โดยที่เราไม่ได้ไปรับ เป็นเพราะแม่เคยมาฟังธรรมหลวงพ่อและนำไปปฏิบัติได้ผล แม่ป่วยมาเกือบ 4 ปีแล้ว ตอนแม่ป่วยใหม่ ๆ แม่อยากตาย เคยคิดจะเดินให้รถชนตายด้วยซ้ำ เพราะแม่พูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง พอเราทราบ ก็พยายามดึงแม่มาฟังธรรม มาได้ปีละ 1 ครั้ง ครั้งละแค่ 1 เดือน แล้วก็เอาซีดีกลับไปฟังที่บ้าน ปีแรกแม่หงุดหงิดมาก ฟังไม่เข้าใจ แต่ขอนั่งแถวหน้า ๆ เพราะบอกว่าได้ยินเสียงหลวงพ่อแล้วสบายใจ ปีที่สอง แม่เริ่มสนใจมากขึ้น เริ่มถามว่า กิเลสเป็นยังไง ทำไมหลวงพ่อตอบได้หมดทุกเรื่อง เราก็ได้อธิบายเท่าที่เราพอรู้ให้แม่ฟัง แล้วบอกให้พี่สาวที่มากับแม่กลับไปทำบ้าง แม่บอกว่าหลวงพ่อสั่งไม่ให้ทำอะไร ให้รู้เฉย ๆ เอ๊ะ… แม่เราทำได้แล้วนี่นา
ทุกวันนี้ แม่สวดมนต์ไหว้พระด้วยการฟังซีดีเสียงสวด (เพราะแม่สวดเองไม่คล่อง) และทำสมาธิทุกวัน ขอยืนยัน แม่ไม่ได้อ่อนแออย่างที่มีคนกล่าวหาว่าลูกศิษย์หลวงพ่อ แม่ไม่ได้ต้องมาหาหลวงพ่อด้วยตัวเอง แม่แค่มีรูปหลวงพ่อไว้เคารพบนหัวเตียง แต่ก็ปฏิบัติตามสิ่งที่หลวงพ่อสอนจนอาการที่ป่วยดีขึ้นมาก แขนที่ชายกไม่ขึ้น ก็ค่อย ๆ หายไป พูดได้ชัดและยาวขึ้น ทางด้านจิตใจก็แจ่มใสเบิกบานขึ้น หงุดหงิดน้อยลง มีศีล 5 มั่นคง กลัวบาปมากขึ้น และยังใส่บาตรทุกวัน มีศรัทธาในศาสนามากขึ้น
จริง ๆ แม่แ่ค่อยากทำดี เพื่อได้ไปสวรรค์ แต่สิ่งที่แม่ทำตอนนี้ ทำให้เราเชื่อว่า แม่ได้ไปไกลกว่าสวรรค์อีก ถ้าแม่ตามรู้กายรู้ใจไปได้แบบนี้ เป็นความภูมิใจของเราที่สามารถดึงแม่มาเรียนธรรมได้ ภูมิใจว่าได้ทดแทนพระคุณของท่านได้อย่างดีที่สุดแล้ว
โดยคุณมณี (แม่บ้านจบ ป.4)
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่