1.พิจารณากับคิดต่างกันอย่างไร?
คำว่า พิจารณา นั้นถ้าว่ากันตามความหมายของภาษาไทย
จะหมายถึงการตรวจสอบ ไตร่ตรอง ตามข้อเท็จจริงหรือตามพยานหลักฐาน
เช่น ศาลพิจารณาคดีไปตามพยานหลักฐาน
การพิจารณาจึงไม่ใช่การคิดนึกไปเองโดยปราศจากพยานหลักฐาน
ผมจึงมีความเข้าใจว่า
ในการปฏิบัติภาวนานั้น คำว่าพิจารณาจึงไม่ใช่การคิดๆเอา
โดยปราศจากพยานหลักฐานที่เป็นสภาวธรรมจริงๆ ในขณะนั้น
แต่เป็นการตรวจสอบความจริงของสภาวธรรมที่กำลังปรากฏ
ด้วยการมีสติมีความตั้งมั่นในการดูสภาวะนั้นอยู่ เพื่อให้เห็นจริงๆ ว่า
สภาวธรรมที่กำลังปรากฏนั้นเที่ยงหรือไม่เที่ยง
สภาวธรรมที่กำลังปรากฏนั้นเป็นทุกข์(ทุกขัง) หรือเป็นสุข
สภาวธรรมที่กำลังปรากฏนั้นเป็นอัตตาหรือเป็นอนัตตา
เช่น การพิจารณาว่าจิตที่มีโทสะเที่ยงหรือไม่เที่ยง
ก็ต้องมีจิตที่มีโทสะในขณะปัจจุบันเป็นพยานหลักฐาน
แล้วก็หัดดูจิตที่มีโทสะนั้นเพื่อให้ได้ความจริงว่าเที่ยงหรือไม่เที่ยง
ไม่ใช่ไปนั่งคิดเอาเองโดยไม่มีสภาวธรรมเป็นพยานหลักฐานครับ
2. พิจารณาจะใช้ได้ช่วงไหน?
การพิจารณาจะสามารถดำเนินได้ไปได้
ก็ต่อเมื่อจิตมีสติรู้รูปนาม(สภาวธรรม)ที่กำลังปรากฏด้วยความตั้งมั่นและเป็นกลาง
3. มีพระท่านบอกว่า เข้าไปกำหนด แล้วพิจารณานี่ทำยังไง?
อันนี้ต้องถามท่านครับว่าทำอย่างไร
แต่ถ้าเป็นความเข้าใจของผม
ก็ต้องมีสติรู้สภาวธรรมที่กำลังปรากฏด้วยความตั้งมั่นและเป็นกลางครับ
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่