Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

วิปัสสนาคือ เห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์


mp3 for download: วิปัสสนาคือ เห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

วิปัสสนาคือ เห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์

วิปัสสนาคือ เห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์

หลวงพ่อปราโมทย์: นักเรียนคนไหนไม่มีมือถือมีมั้ย? ยกมือให้หลวงพ่อดู หลวงพ่อจะได้ชื่นใจ โอ้..ดีมากนะ ดีมาก นักเรียนคนไหนมีมือถือบ้าง ยกมือซิ.. งั้นๆแหละไม่ชื่นใจ นะ ไม่มีสตางค์ซักหน่อยนะ หาเงินไม่ได้เลย บริโภคเยอะไป ใช้อะไรบ้างนะ ส่ง message หรือส่งอะไร ถูกเขาหลอกนะ หลวงพ่อเคยมีมือถือนะ แต่ก่อนนี้ อย่างมือถือนะ เดือนหนึ่งนะเสียแต่ค่าอะไร เขาเรียก ค่ารายเดือนน่ะ ไม่ค่อยมีค่าจ่ายน่ะ ไม่ได้ค่าพูดไม่ค่อยมี

สังเกตดูเวลาเรามีมือถืออยู่หนึ่งอัน พอมีรุ่นใหม่นะ เพื่อนเอารุ่นใหม่มา เราอยากได้ มีใครเห็นของเพื่อนใหม่กว่า แล้วก็เฉยๆอุเบกขามีมั้ย ไม่ค่อยมีหรอก มีแต่อยากได้นะ บางทีเราไปซื้อมานะ รุ่นนี้เราว่าซื้อได้ถูกมากแล้วนะ ซื้อมาได้ราคา ราคาหมื่นบาท เราว่าเราซื้อได้ถูกนะ เพื่อนมันซื้อมารุ่นเดียวกัน เหมือนกันเปี๊ยบเลย ราคาเก้าพัน จากความสุขที่มีอยู่แล้วกลายเป็นความทุกข์อีกแล้ว

หรือเราไม่มีซักเครื่องนะ เห็นคนอื่นมาเราอยากจะได้ใช่มั้ย ใจที่มีความอยากขึ้นมา ก็มีความทุกข์แล้ว ใจที่เห็นของคนอื่นเขาดีกว่านะ อิจฉาเขา นี่มีความทุกข์อีก เป็นโทสะตระกูลอิจฉา เพราะฉะนั้นใจเราเนี่ยหมุนเวียนที่จะสร้างความทุกข์ขึ้นมาแผดเผาตนเองอยู่ตลอดเวลา ห้ามได้มั้ย ห้ามไม่ได้นะ ใจจะโลภก็ห้ามไม่ได้ ใจจะโกรธก็ห้ามไม่ได้ ใจจะหลง ใจจะฟุ้งซ่าน ใจจะหดหู่ ใจจะลังเลสงสัย ห้ามไม่ได้ เราบังคับมันไม่ได้จริงหรอกนะ แล้วทำอย่างไร เราถึงจะสู้กับกิเลสไหว พระพุทธเจ้าสอนให้เรารู้ทันนะ คอยรู้ทัน

ต่อไปนี้ ง่ายๆเลยนักเรียนทั้งหลาย ใจเราโลภขึ้นมา ใจเรามีความอยากขึ้นมา เราก็รู้ทันว่าตอนนี้อยากละ ใจเราโกรธขึ้นมา หรือใจเรากลัว หรือใจเราอิจฉา หรือใจเรากังวล นี่เป็นตระกูลโทสะนะ หวงแหนนี่ตระกูลโทสะ โทสะเกิดขึ้นในใจเราก็คอยรู้ทัน ใจลอยไป ใจฟุ้งซ่านไป ใจหดหู่ไป นี่พวกโมหะ เราก็รู้ทันนะ ใจ ใจมันซึมๆไป ก็รู้ทัน

ต่อไปนี้ง่ายๆเลย การปฏิบัติธรรม อย่าไปวาดภาพว่าต้องไปนั่งสมาธิมากๆ ไปเดินจงกรมมากๆ หัดเจริญสติในชีวิตประจำวันให้มากนะ การเจริญสติในชีวิตประจำวันนี้แหละ คือหัวใจของกรรมฐานเลย หัวใจของการปฎิบัติ ไม่ใช่หลวงพ่อพูดเองนะ ครูบาอาจารย์บอกมาอีกทีหนึ่ง ว่าหลวงปู่มั่นสอนท่านมากัน บอก หลวงปู่มั่นสอนบอกว่า ทำสมาธิมาก นั่ง..ลูกเดียวเลย ไม่ทำอย่างอื่นเลย นั่งเอาความสงบอย่างเดียวเลย ท่านบอก ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามาก พิจารณาธรรมะมากๆนะ ฟุ้งซ่าน หัวใจสำคัญของการปฎิบัติธรรมนะ คือการเจริญสติ มีสติในชีวิตประจำวันนี่แหละ เราจะยืน เราจะเดิน เราจะนั่ง เราจะนอนนะ ใจเราเป็นอย่างไร เราคอยรู้ทันไปเรื่อย คอยรู้ทันใจของเรา

พอรู้บ่อยๆ จะเห็นเลย เดี๋ยวใจก็เสวยภพนี้ เดี๋ยวใจก็เสวยภพนี้ เดี๋ยวใจเราก็เป็นเปรต เดี๋ยวใจเราก็เป็นอสุรกายเจ้าความคิดเจ้าความเห็น เดี๋ยวใจเราก็เป็นสัตว์นรก มีความทุกข์ขึ้นมา เดี๋ยวใจเราก็แช่มชื่นเป็นบุญเป็นกุศลนะ ก็เป็นเทวดาขึ้นมา มีศีลมีธรรม เป็นมนุษย์ เป็นเทวดา ใจเราเข้าถึงความสงบ บางช่วงใจเราเข้าถึงความสงบ ใจเราก็เป็นพระพรหม เนี่ยใจเราหมุนไปเรื่อยๆ ให้เราคอยรู้ทันใจนะ เราจะเห็นว่าใจเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ใจไม่ว่าจะเป็นอย่างไรนะ มันหาความสุขหาความสบายที่แท้จริงไม่ได้ แต่ตัวนี้ดูยากนิดนึง โดยเฉพาะจิตที่ละเอียดที่ปราณีต เป็นภพที่ละเอียดที่ปราณีตนี่ดูยาก ว่าเป็นตัวทุกข์ เราจะเห็นแต่หยาบๆก่อน

เพราะฉะนั้นเบื้องต้นนะ ใจเราโกรธขึ้นมาเราดูเลย เห็นมั้ย ใจมันดิ้นเร่าๆหาความสุขไม่ได้ ใจมันโลภขึ้นมารู้ทันเลย ใจมันดิ้นเร่าๆหาความสุขไม่ได้ คอยรู้ทันใจตัวเองไป อย่าไปบังคับนะ อย่าไปห้ามมัน อย่าไปควบคุมมัน ให้รู้ลูกเดียวเลย

คำว่า “วิปัสสนา” เนี่ย มาจากคำสองคำนะ คำว่า “วิ” ตัวหนึ่ง คำว่า “ปัสสนา” คำหนึ่ง “ปัสสนา” แปลว่า “การเห็น” นะ ปัสสนาแปลว่าการเห็น “วิ” ตรงกับคำว่า “วิเศษ” นี่เอง เห็นอย่างยอดเยี่ยมเลย เห็นอะไร เห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์นะ จึงจะเรียกว่า “วิปัสสนา” ถ้าเราคอยรู้สึกกายรู้สึกใจนะ เราเห็นกายมันทำงาน เห็นกายมันยืน มันเดิน มันนั่ง มันนอน ใจเราเป็นคนดูมัน เราเห็นจิตใจเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย คอยดูเฉยๆ อย่าไปบังคับมันนะ


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ก่อนฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๐
File: 521204B.mp3
ลำดับที่ ๑๒
ระหว่างนาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๒๑ ถึง นาทีที่ ๑๖ วินาทีที่ ๒๐

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 214 times, 1 visits today)

Comments are closed.