เรียนรู้ดูจิต
การดูจิตนั้น มีเป้าหมายอยู่ ๒ อย่างคือ
เบื้องต้นดูเพื่อให้เกิดสติเกิดความตั้งมั่นตามที่อธิบายไปแล้ว
เบื้องปลายดูเพื่อให้เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของจิต
ซึ่งเป็นการมุ่งดูไปที่ความเกิดดับ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์(ทนอยู่ไม่ได้) ไม่ใช่ตัวตน
อย่างเช่น เมื่อจิตมีโทะ ต้องหัดดูว่าจิตที่มีโทสะเกิดแล้วย่อมดับไป
คงทนอยู่ไม่ได้ ไม่ได้เป็นตัวตนที่ถาวรที่เป็นไปตามต้องการ
การดูให้เห็นลักษณะเช่นนี้ ก็คือการ”ดูตัวจิต” นั่นเอง
ส่วนการดู”อาการของจิต”นั้น ก็คือการไปสนใจดูว่า
โทสะเป็นอย่างไรโดยไม่สนใจดูความเป็นไตรลักษณ์ของจิตที่มีโทสะ
จึงทำให้ไม่อาจเกิดปัญญาเพราะไม่เห็นไตรลักษณ์ของจิตครับ
สรุปผมเข้าใจว่า
อาการของจิต คือลักษณะอื่นๆ ที่ไม่ใช่ไตรลักษณ์ของจิต
การดูอาการของจิต อย่างมากก็ทำให้เกิดสติเกิดจิตตั้งมั่นขึ้นมาได้
เช่นพอเห็นว่ามีโทสะ เห็นว่าเกิดอาการวูบๆวาบๆ
ก็เกิดสติมีความตั้งมั่นขึ้นมา (โทสะดับลงไป)
ตัวจิต คือลักษณะความเป็นไตรลักษณ์ของจิต
ซึ่งจะเห็นได้ก็ต้องมีสติ มีความตั้งมั่นขึ้นมาก่อน
เช่นพอเห็นว่ามีโทสะ เห็นว่าเกิดอาการวูบๆวาบๆ
ก็เกิดสติมีความตั้งมั่นขึ้นมา (โทสะดับลงไป)
แล้วในขณะที่จิตมีสติตั้งมั่นชึ้นมา
หากสามารถเห็นในขณะนั้นว่า จิตที่มีโทสะได้ดับไป
เห็นว่าจิตขณะก่อนหน้านี้กับจิตขณะปัจจุบันแตกต่างกัน
เห็นว่าจิตที่มีโทสะเกิดขึ้นเองดับไปเอง ไม่เป็นไปตามคำสั่งของใคร
ก็จะเป็นการเห็น “ตัวจิต” นั่นเอง
หมายเหตุ…
การสรุปความเข้าใจในการอ่านศึกษาธรรมครูบาอาจารย์นั้น
ผมจะยึดถือตามหลักที่ว่า การปฏิบัติภาวนานั้น
มุ่งเพื่อให้จิตเกิดสติมีความตั้งมั่น(สมาธิ)
แล้วใช้จิตที่มีสติมีความตั้งมั่น
มาเจริญปัญญาให้เห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม
หากยึดถือตามหลักนี้ไว้
ไม่ว่าครูบาอาจารย์จะใช้คำบัญญัติที่ต่างกันในการอธิบายสภาวะ
เราก็จะสามารถเข้าใจความหมายได้ตรงกันครับ
^_^
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่