นักภาวนากับการใช้ชีวิตทางโลก
ถ้าจะเป็นนักภาวนา
ก็ควรทำอะไรทางโลกแบบ “พอเพียง” ครับ
จะหารายได้ก็หาเท่าที่พอเพียง
จะดูแลสุขภาพก็ดูแลแบบพอเพียง
แล้วเอาเวลาที่เคยดิ้นรนจะเอาอะไรที่มากกว่าพอเพียง มาใช้เพื่อศึกษาปฏิบัติธรรม
เพื่อเป้าหมาย “พ้นทุกข์” เป็นสำคัญ
แต่ถ้าเอาความสำเร็จทางโลกมากมายเกิดพอเพียง
จิตใจก็จะไม่เหมาะกับการศึกษาปฏิบัติเพื่อ “พ้นทุกข์” หรอกครับ
อย่างมากก็ได้ธรรมในระดับ ทาน ศีล ส่วนระดับภาวนาจะยากทีเดียว
ดีไม่ดีเพราะความโลภที่จะเอาอะไรมากจนเกินพอเพียง
จะยิ่งทำให้ศีลขาดเอาง่ายๆ
จนถึงสามารถยอมทำชั่วได้เพียงเพื่อจะให้ได้อะไรที่เกินพอเพียง
การจะพัฒนาตัวเองนั้น ถ้าเพื่อผลทางโลก มันก็แค่ได้ผลชั่วคราว
ตายไปเกิดอีกก็ต้องมาเรียนมาพัฒนาตามโลกกันอีกไม่สิ้นสุด
แต่ถ้าจะพัฒนาแบบยั่งยืน ไม่ต้องเป็นทุกข์กันอีก ไม่ต้องมาเวียนตายเวียนเกิดอีก
ก็ต้องพัฒนาสติปัญญาที่จะทำให้
มีสติรู้รูปนาม(กายใจ)จนเห็นว่า รูปนามล้วนแต่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน
จนสามารถปล่อยวางเหตุที่ทำให้เป็นทุกข์ลงได้อย่างเด็ดขาด
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่