สมเด็จพระสังฆราชฯ บำเพ็ญกุศลสังขารหลวงตามหาบัว คณะสงฆ์มีมติใช้เตาฟืนไม้เต็ง ฮือฮาตอกเสาเข็มไม่ลง
วันนี้ 7 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง อุดรธานี ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เดินทางมาเคารพศพแสดงความอาลัยอย่างล้นหลาม โดยเมื่อเวลา 07.30 น. ประชาชนจำนวนมากได้พร้อมใจร่วมทำบุญใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์ และร่วมถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่ศาลาการเปรียญ จากนั้นได้ทยอยกันขึ้นไปกราบเคารพสังขาร โดยมีเจ้าหน้าที่นำบันไดขึ้นลงเครื่องบินจากกองบิน 23 มาทำบันไดทางลงเพิ่มอีกหนึ่งทาง เพื่ออำนวยความสะดวก และตลอดทั้งวันมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนทำให้การจราจรติดขัดเป็นช่วง ๆ ส่วนทางวัดเร่งปรับสถานที่จอดรถ และกางเต็นท์ ทำเพิงที่พักไว้รองรับประชาชน ที่เดินทางทยอยมาร่วมกราบเคารพหลวงตามหาบัวกันอย่างต่อเนื่อง
เวลา 08.00 น. พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวานวัดป่านาคำน้อย ประธานสงฆ์ และพระลูกศิษย์หลวงตาพระมหาบัว ได้เทศน์เทศนาให้แก่บรรดาศรัทธาญาติโยมรับฟังถึงเรื่องที่เป็นข่าวความขัดแย้งของลูกศิษย์ของหลวงตา ว่า เป็นเรื่องของต่างความคิด เป็นเรื่องของประชาธิปไตย ซึ่งก็ต้องมีเป็นปกติ เพราะต้องให้โอกาส และเปิดโอกาสมีการแสดงความคิดเห็นบ้าง แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยดีแล้ว เพราะทุกคนต่างก็ให้การเคารพเทิดทูนหลวงตามหาบัวกันทุกคน
พระอาจารย์อินทร์ถวาย ยังได้เทศนาสอนเตือนไปยังผู้คนที่เข้ามาฉกฉวยโอกาส สร้างความไม่เป็นมงคลแก่ตัวเองภายในบริเวณวัดป่าบ้านตาดอีกว่า ขอให้เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย ด้วยความเป็นห่วง เพราะทุกคนที่มาอยู่ในบริเวณวัดป่าบ้านตาดในขณะนี้ ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัวทุกคน และทุกคนที่เดินทางมาต้องการมาทำบุญ แต่ปรากฏว่ามีคนบางกลุ่มกลับมาทำอาชีพที่ไม่สุจริต ถือว่าเป็นการทำบาป ทุกคนต่างก็ระลึกสำนึกถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่มหาศาลของหลวงตามหาบัว เพราะท่านให้การสงเคราะห์กับทุกหน่วยงาน เช่น โรงพยาบาลจำนวนมากมาย เครื่องมือแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆ จึงขอเตือนว่าอย่ามาสร้างบาปในวัดป่าบ้านตาดเลย เพราะที่วัดแห่งนี้มีแต่ให้เท่านั้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากว่า ทางคณะกรรมการจัดงานบำเพ็ญพระราชกุศลหลวงตามหาบัว ได้รับการี้องเรียนว่า มีกลุ่มคนที่ถือโอกาสเข้ามาในบริเวณวัดป่าบ้านตาด สร้างความเดือดร้อน ด้วยลักขโมยสิ่งของ และทรัพย์สินของบรรดาญาติโยม หรือบางคนเข้ามาในลักษณะก่อกวนความสงบเรียบร้อย เช่น แจกใบปลิว เป็นตัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการจับกุมตัวแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 11.00 น. พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวานวัดป่านาคำน้อย ได้ทำพิธีนำตอกเสาเข็มเมรุ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมี นายคมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี พร้อมคณะสงฆ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดเข้าร่วมพิธีจำนวนมากสำหรับการตอกเสาเข็ม จะตอกบนฐานเป็นดินถมสูง 3 ชั้นละ 1 เมตร กว้าง 26-40 เมตร ทั้งหมด 214 เสา เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรง และรองรับน้ำหนักเตาเผา ตลอดจนประชาชนที่มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ส่วนยอดบนสุดจะเป็นกลดขนาดสมส่วน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของพระอาจารย์จิรวัฒน์ อตฺตรคฺโข เป็นประธานแผนกดูแลเมรุ และขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์
วันเดียวกัน เวลา 12.50 น.พระเทพสารเวที ผู้ปฎิบัติราชการแทนสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร สกลสังฆมหาปรินายก ได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทาน พร้อมนำจัตุปัจจัยสมทบทุนเข้าคลังหลวง ตามเจตนารมณ์ของหลวงตาพระมหาบัว จำนวน 242,600 บาท
เวลา 14.30 น. พระอาจารย์อรรถกิจนันทโน หรือ พระอาจารย์นภดล นันทโน แถลงว่า วันนี้พระเทพสารเวที ผู้ปฎิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เป็นผู้แทนพระองค์มาบำเพ็ญบุญทักษิณานุปทาน ทั้งนี้เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราช เห็นแก่บุญคุณของหลวงตามหาบัว เพราะท่านสนิทสนมกันมาตั้งแต่เป็นสหชาตด้วยกัน หลวงตามหาบัว เคยไปอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เล่มแรกของหลวงตา ก็เกิดขึ้นที่วัดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังถวายปัจจัยส่วนพระองค์เป็นเงิน 242,600 บาท โดยแจ้งวัตถุประสงค์ เพื่อนำไปซื้อทองคำเข้าคลังหลวงตามเจตนารมณ์ของหลวงตามหาบัว ซึ่งเป็นอีกวาระหนึ่งของการทำบุญร่วมกับหลวงตาฯ
พระอาจารย์อรรถกิจนันทโน กล่าวต่อว่า ส่วนวัตถุมงคลที่มีการแจกจ่ายกันอยู่ขณะนี้มีจริง แต่ไม่ได้ซื้อขายกัน และทุกวันนี้หลวงปู่ลี กุสลธโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนใกล้ชิดหลวงตาบัว ยังคงต้อนรับญาติโยม ที่มาทำบุญกับหลวงตาทุกวันหลังฉันเช้า เมื่อมีญาติโยมที่มีจิตศรัทธาบริจาค ก็จะมีลูกศิษย์หลวงปู่ลี แจกวัตถุมงคลให้ เป็นวัตถุมงคลที่ลูกศิษย์หลวงปู่ลีทำขึ้นไว้สำหรับแจกจ่ายให้กับญาติโยม ไม่ใช่เป็นการซื้อขาย แต่เป็นการแจกจ่ายให้ผู้มีน้ำใจที่บริจาค เพื่อร่วมกันใช้หนี้ให้กับหลวงตา ที่สงเคราะห์ช่วยเหลือความทุกข์ของประชาชน โดยเฉพาะการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ รพ.ศูนย์อุดรธานี คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ในเดือน มิ.ย.54 อย่างไรก็ดี คาดว่าในวันที่ 12 ก.พ. 54 ซึ่งเป็นวันบุญประทายข้าวเปลือก จะมีคนนำวัตถุมงคลมาแจกจ่ายจำนวนมาก
พระอาจารย์นภดล กล่าวต่อว่า การก่อสร้างเมรุมีความคืบหน้าไปอย่างมาก และจากการประชุมคณะสงฆ์มีมติร่วมกันว่า เตาใช้เผาสังขารหลวงตามหาบัว เป็นเตาฟืนและไม้ที่ใช้เผาจะใช้ไม้เต็ง หรือไม้จิก จะไม่ใช้ไม้จันท์หอมหรือไม้กฤษณา เนื่องจากหลวงตาเคยแนะนำสั่งสอนลูกศิษย์มาตลอดว่า สังขารพ่อแม่ครูบาอาจารย์แต่ละรูป จะใช้ไม้เต็ง เพราะไม้เต็งจะทำให้กระดูกขาวสะอาด อีกทั้งพระลูกศิษย์ที่เคยปฏิบัติกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ฝั้น ก็ใช้ไม้จิกนี้เช่นกัน ดังนั้นมติของศิษย์ทั้งหลาย จึงมีมติร่วมกันว่าต้องใช้ไม้จิกเท่านั้น และขณะนี้ได้จัดเตรียมไว้แล้ว ส่วนไม้จันท์หรือดอกไม้จันท์ทางวัดจะไม่ทำ และไม่อนุญาตให้นำมาใช้กับสังขารหลวงตา เพราะถ้านำมาจะเป็นภาระกับทางวัด ที่ต้องนำไปเผาทิ้ง และยังเป็นการเพิ่มความร้อนให้แก่โลกอีกด้วย ดังนั้น ประชาชนที่จะมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงตาให้มามือเปล่า เพราะทางวัดจะเตรียมไม้เต็งขนาดเล็กไว้ให้แล้ว
พระอาจารย์นภดล กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีใบปลิวโจมตีวัดนั้น อยากเรียนว่าเขาต่อต้านเรา โจมตีเราจริงหรือไม่ อยากให้พิจารณาให้ดี เขามาต่อต้าน โจมตีเราหรือเขามาแสดงความเห็นของเขา เราต้องเอาใจให้เป็นกลาง จะเห็นว่า เขาไม่ได้จงใจมาต่อต้านเรา พระแต่ละรูปมีแนวคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งเรามีวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และนี่ก็เป็นสันติวิธีหนึ่งที่หลวงตามหาบัวได้สั่งสอนมา และเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทางวัด จึงได้เปิดช่องทางการติดต่อให้สะดวกขึ้น โดยเปิดอีเมลล์ ltb11111@hotmail.com
พระอาจารย์นภดล กล่าวถึงการบวชว่า คุณสมบัติเบื้องต้นที่พูดคุยกันกับคณะสงฆ์ ว่า ผู้เข้าบวชต้องบวชผ้าขาว (นุ่งขาวห่มขาว) ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 15 หรือ 18 ก.พ. นี้ เพื่อฝึกปฏิบัติและขานนาค และต้องบวชอย่างน้อย 1 พรรษา หรือ 1 ปี และผู้เข้าบวชตั้งมาแจ้งความจำนงด้วยตนเอง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดรับสมัคร เพียงแต่มีผู้แสดงความจำนงไว้แล้วกว่า 100 คน ส่วนการบวชชีนั้น กรรมการคณะสงฆ์สายกัมมัฐฐานต่างไม่อยากรับ เพราะหลวงตามหาบัว ไม่เคยบวชให้ ส่วนโยมแม่หลวงตามหาบัว ก็บวชมาจากวัดบวรนิเวศวิหาร แต่ถ้าหากมีผู้ประสงค์จะบวชชีจริง ก็จะจดชื่อไว้ก่อน แล้วค่อยหาวิธีการให้ทีหลัง
พระอาจารย์นภดล กล่าวอีกว่า ส่วนยอดเงินบริจาคผ่านหลวงปู่ลี กุสลธโร ยังอยู่ที่ยอดเดิมคือ ทองคำน้ำหนัก 4 กก. 54 บาท 50 สตางค์ และครึ่งสลึง และเป็นเช็ค 5,622,986.00 บาท เงินสด 9,628,100.00 บาท รวม 15,251,086.00 บาท ส่วนยอดใหม่ จะมีการเปิดเผยทุกวันเสาร์ สำหรับยอดเงินรายรับจากตู้บริจาคจากวันที่ 30 ม.ค.-5 ก.พ.54 เป็นจำนวนเงิน 27,772,962.00 บาท ส่วนหมายกำหนดการบำเพ็ญกุศลวิธีศพหลวงตา ในช่วงค่ำเวลา 19.00 น. จะพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์พร้อมด้วยฆราวาสร่วมทำวัตรเย็น ในเวลา 19.30 น.พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ เวลา 20.00 น.เจ้าภาพร่วมกันทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์ 10 รูป ในพิธีชักบังสุกุล เจ้าภาพถวายจัตุปัจจัยไทยธรรมพระสงฆ์อนุโมทนา เป็นอันเสร็จพิธี โดยในพิธีบำเพ็ญกุศล จะไม่มีพิธีสวดอภิธรรมหน้าศพ
ขณะเดียวกัน ชาวบ้าน หมู่ 9 หมู่ 16 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่าก่อนหลวงตาบัว จะละสังขาร หลวงตาได้ไปไถ่ชีวิตโค กระบือมาจากพ่อค้าโค กระบือไปฆ่าชำแหละ เพื่อนำมาช่วยชาวบ้านผู้ยากไร้ 30 ตัว โดยเป็นโค-กระบือเพศเมีย เพื่อนำมาเลี้ยงขยายพันธุ์ นางบังอร พิมศรี ผู้ได้รับโคมา 1 ตัว กล่าวด้วยความอาลัยว่า หลวงตามีเมตตาจิตให้กับคนจนทั่ว ๆ ไป ลูกหลานของชาวบ้าน แต่ละอาทิตย์หลวงตา จะมอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับชาวบ้านอย่างเสมอ และเมื่อหลวงตาจากไปแล้ว ไม่ทราบว่า ชาวบ้านจะได้พึ่งใบบุญของหลวงตาอีกหรือไม่
ด้าน นายอิทธิพล ตรีวัฒน์สุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าวว่า ในส่วนของเทศบาลนครอุดรธานี ได้รับผิดชอบเรื่องการจัดสถานที่ การตกแต่งบริเวณเมรุ รวมทั้งการก่อสร้าง ตลอดจนการรักษาความสะอาดโดยทั่วไป ภายในบริเวณพิธี สำหรับการลงเสาเข็มเมื่อเช้าวันนี้ ที่ครั้งแรกตอกไม่ลงนั้น สาเหตุมาจากบริเวณฐานดินมีการบดอัดแน่นเกินไป จึงตอกได้ลึกเพียง 1.50 เมตร แต่ก็มีความแข็งแรงเพียงพออยู่แล้ว โดยไม่ต้องฝังลึกลงไปถึง 6 เมตร ตามที่ทำเผื่อเอาไว้ และระหว่างที่ตอกเสาเข็มเมรุไม่ลงนั้น สร้างความฮือฮาให้กับประชาชนที่เฝ้าดูอยู่เป็นอย่างมาก พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา โดยมีเจ้าหน้าที่บอกว่า สายพานเครื่องขัดข้อง และพื้นดินอัดแน่นเกินไป จนกระทั่งถึงเวลา 17.00 น.จึงสามารถตอกเสาเข็มได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้จากประชาชนเดินทางมาเคารพศพ หลวงตามหาบัว เพื่อแสดงความอาลัยกันอย่างอย่างเนืองแน่นแล้ว ได้มีพระภิกษุสงฆ์จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เดินทางมาร่วมกราบเคารพศพหลวงตามหาบัว และร่วมทำวัตรสวดมนต์ด้วย อาทิ พระอาจารย์เติม อริยะธัมโร อายุ 40 ปี พร้อมด้วยพระภิกษุ รวม 10 รูป ได้เช่าเหมารถร่วมคณะมากับญาติโยมจากบ้านโนนเจริญ แขวงนครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว เพื่อมาร่วมกราบศพหลวงตามหาบัว
พระอาจารย์เติม อริยะธัมโร อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ทราบข่าวการมรณภาพของหลวงตามหาบัว จากโทรทัศน์ภาษาลาว จึงเดินทางมาจากบ้านโนนเจริญ นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อมาเคารพศพ เพราะหลวงตาบัวถือว่าท่านมีคุณงามความดี ในทางพระพุทธศาสนา และเคยไปช่วยงานพระพุทธศาสนาในฝั่งลาวเยอะมาก และส่วนตัวคิดว่าในพุทธศาสนาไม่มีใครเปรียบหลวงตาบัวได้เลย เพราะท่านปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น และหลวงปู่มั่นท่านก็ไปสำเร็จมรรคผลในประเทศลาวเหมือนกัน อีกทั้งชาวลาวหลวงตาบัว เยอะมาก เพราะความเป็นพระอริยะ คนลาวเป็นคนอ่อนน้อม ถือเป็นเกจิอาจารย์ดัง ชาวลาวจะรู้จักกันหมด และนอกเหนือจากคณะของพวกตนแล้ว จะมีชาวลาว ที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมกราบเคารพศพหลวงตาอีกเป็นจำนวนมาก
“หลวงตาบัวหลวงตามหาบัว มีชื่อเสียงไปไกลถึงสปป.ลาว ในฐานะพระสายวัดป่า ถือเป็นพระอริยะเจ้าทางสงฆ์ ท่านไปสร้างคุณประโยชน์ให้แก่คนลาวเยอะมาก ทั้งบริจาคสร้างโรงพยาบาลให้แก่สปป.ลาว บริจาคปัจจัย เครื่องมือแพทย์ หรือรถยนต์โรงพยาบาล ซึ่งคนลาวส่วนใหญ่ทั้งประเทศ จะรู้จักหลวงตามหาบัวเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากรู้ข่าวท่านละสังขาร ถือว่าเป็นการสูญเสียผุ้ลุทางธรรมหรือแก่นสารทางพระพุทธศาสนาอีกท่านหนึ่ง หลังจากรู้ข่าวก็เก็บเงินคนละเล็กละน้อยจ่ายค่ารถเดินทางมาร่วมงานศพหลวงตามหาบัว มาร่วมงานศพและอยู่จนถึงวันที่ 12 ก.พ. ถึงจะเดินทางกลับ”พระอาจารย์เติม กล่าวทิ้งท้าย.
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่
