Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

อ้ายหมดห่วงแล้ว – เมื่อหลวงตามหาบัวสอนน้องสาว (คุณแม่จันดี) ภาวนา


ซาบซึ้งในคุณครูบาอาจารย์
ทราบว่าท่านให้คำแนะนำ เรื่องการปฏิบัติภาวนาได้ถูกต้องแม่นยำ ไม่ผิดเพี้ยน จากหลักความจริง ตามธรรมคำสอนของพระหลวงตามหาบัวทุกอย่าง

ท่านจะพูดเสมอว่า “พระหลวงตาสอนให้แม่ปฏิบัติมาอย่างนี้ ถ้าเป็นคำพูดของพระหลวงตาแล้ว ยิ่งการปฏิบัติภาวนาจะคลาดเคลื่อนไปไม่ได้เลย…”

ท่านบอกสมัยก่อนปฏิบัติอยู่ที่บ้านเวลามีปัญหาติดขัดด้านการภาวนา ก็อาศัยกราบเรียนพระหลวงตาตอนไปรับบิณฑบาตในหมู่บ้าน ขณะคุณแม่ใส่บาตร พระหลวงตาจะเมตตาถาม “ภาวนาเป็นยังไง” คุณแม่จึงกราบเรียนพระหลวงตา ท่านก็จะแนะนำอย่างต่อเนื่อง ช่วยแก้ปัญหาการปฏิบัติภาวนาให้ท่านตลอด

คุณแม่จันดี เล่าว่า “การปฏิบัติภาวนาถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ช่วยแนะสอนจะช้าได้
เพราะช่วงปฏิบัติภาวนา เรารู้เห็นอะไร มันก็ชวนให้หลงให้ติด เพราะเป็นความอัศจรรย์ ที่เราเกิดมาไม่เคยพบ – เห็นเลยในชีวิต และไม่มีแสดงอยู่ที่ไหนในโลกนอกจากผู้ภาวนา แต่ละรายจะรู้เองเห็นเองจากการปฏิบัติของตัวเอง รู้ขึ้นในใจของตัวเอง
เป็นสันทิฏฐิโกประกาศป้างขึ้นที่หัวใจ ไม่ต้องถามใคร…ไม่ต้องให้ใครมาโกหกเราได้ พิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ไม่ลี้ลับ ไม่ปิดบัง เปิดเผยเสมอ มีอยู่ตลอดกาล…ธรรมความจริง ธรรมไม่ตาย เปิดเผยสง่างาม อยู่ทุกกาล ทุกสมัยตลอดมา และตลอดไป…เป็นแต่ ผู้คนจะมีจิตยินดี และต้องการหรือไม่”

ได้ยินคุณแม่ท่านเล่า จำได้เป็นข้อความบางตอน ที่อยากสื่อธรรม เพื่อเป็นบารมีธรรมของผู้นำเสนอสื่อธรรมเข้าสู่ใจ ท่านบอกช่วงนั้นคุณยายแก้ว แห่งสำนักชีห้วยทรายได้มาพำนัก อยู่วัดป่าบ้านตาดท่านเมตตาถามคุณแม่จันดี ถึงการปฏิบัติภาวนาอยู่เสมอ

มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านถามว่า “จันดีจิตของลูกแยกส่วนแบ่งส่วนหรือยัง”

คุณแม่จันดี ตอบ
“แยกแล้วแบ่งแล้ว และกราบเรียนต่อว่า ขณะนี้เป็นอย่างนี้” คุณยายฟัง และบอกท่านว่า “เออดีแล้ว จิตถ้าแยกส่วนแบ่งส่วนแล้ว จิตก็มีแต่จะเจริญ”

ต่อมาอีกคุณยายแก้ว ถามท่านว่า “จันดีลูกกราบเรียนการปฏิบัติกับญาท่าน(พระหลวงตามหาบัว) ว่าอย่างไรบ้าง เห็นพระในวัดท่านเข้ามาถามแม่ว่า(คือคุณยายแก้ว) ว่าคุณแม่รู้ไหมโยมใครกันที่อยู่ในหมู่บ้าน มีเทวดา พระอินทร์ พระพรหม มาอนุโมทนากับเขาพ่อแม่ครูอาจารย์

หลวงตาพูดในที่ประชุมสงฆ์ “ทำไหมเขาภาวนาทั้งที่มีลูกน้อย ทั้งทำนา ครองเรือนอยู่ เห็นเทพ – เทวดา”

คุณยายจึงเรียนพระไปว่า “จะเป็นใครนอกจากนางจันดี (น้องสาวของญาท่าน)”

พอได้โอกาสคุณแม่จันดี มาวัด ท่านจึงเล่าให้ฟัง และถามว่า “เป็นความจริงไหม” เพราะแม่(คุณยาย)ตอบพระไปก่อนจะถามเจ้าแล้ว

ท่านจึงกราบเรียนคุณยายแก้วว่า “ลูกได้กราบเรียน การปฏิบัติของลูกให้พระหลวงตาทราบในทุก ๆ เรื่อง เพราะไม่พึ่งพระหลวงตาท่านช่วย ลูกคงติดในแต่ละจุด และช้าเวลาต้องให้ท่านช่วยตี ช่วยขนาบ เพราะท่านจะบอกลูกว่าเวลานี้ท่านมีชีวิตอยู่ติดขัดอะไรให้ถาม ถ้าเราพิจารณาเองอาจช้า เสียเวลา มีครูบาอาจารย์ช่วยแนะเรามีหน้าที่ทำตาม – ปฏิบัติตาม
ท่าน (ถ้าว่าอาหารท่านก็ปรุงไว้ให้เสร็จแล้ว เราลูกศิษย์ ตั้งใจกินอย่างเดียว
อิ่มแล้วจะรู้เอง…)

คุณแม่จันดี ท่านเมตตาเล่า การปฏิบัติของท่านที่ยากลำบาก แม้จะไม่ได้ขึ้นภูเขา เข้าป่า แต่ธรรมที่ท่านได้มา ก็แลกด้วยชีวิต

ความตอนหนึ่งที่ประกาศขึ้นในจิตท่านว่า“ให้เอาชีวิตแลกธรรม” ตอนนั้นพระหลวงตาก็บอกให้ท่านเร่ง “มึงอย่าเสียดายชีวิตนะ เร่งเลย ๆ ผ่านไปอีกระยะหนึ่งพระหลวงตาเข้ามาฝ่ายผู้หญิง ถามท่านว่า “เป็นยังไงจิต” คุณแม่บอกอยากกราบเรียนท่านตามจิตเป็นอยู่ แต่รั้งไว้ไม่พูดหมด ตอบเพียงว่า “จิตช่วงนี้ไม่กลัวตายจิตกล้ามาก สภาวธรรมความเกิด – ดับเร็วมากเหมือนฟ้าแลบ” พระหลวงตาร้องขึ้นเสียงดัง “โอ้จิตถึงขนาดนี้แล้ว เร่งเลย ๆ ๆ ๆ ไม่นาน อีกไม่นาน (ท่านย้ำ) เร่งเลย ๆ ๆ ๆ”

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2535 ในคืนนั้นฟ้าครึ้ม ลมแรง คุณแม่จันดีเป็นห่วงพี่สาว (คุณยายตัน) ท่านเดินไปดูพี่สาวที่แคร่ และปิดผ้าม่านให้เพราะลมแรง กลัวว่าฝนตกจะเปียก(พี่สาวที่ภาวนาอยู่) จึงกลับมาที่กุฏิ ท่านกราบพระนั่งภาวนา ท่านบอกจิตท่านแปลก ๆ นั่งถึงเวลา 5 ทุ่ม (รู้ขึ้นในจิต)

“เกิดสภาวะโลกธาตุหวั่นไหว ก้นท่านลอยขึ้นจากพื้นสูงประมาณ 1 ศอก ทุก ๆ อย่าง เกิดขึ้น พร้อม ๆ กัน เสียงประกาศก้องขึ้นในจิต ขณะนั้นว่า อายะตะนะ นั้นมีอยู่ แต่ไม่มี ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่มีจุติเคลื่อน ไม่มีที่ไป ไม่มีที่มา ไม่มีอารมณ์ ไม่มีอารมณ์นั้นแหละ คือที่สุด แห่งทุกข์ ขณะเดียวกัน อวิชชาได้กระเด็นขาดออกจากจิต ทุก ๆ อย่างเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ไม่มีก่อน ไม่มีหลัง

ท่านบอก
“แต่เวลาพูดจำเป็นต้องเรียบเรียงเรื่องให้คนฟังเข้าใจ ไม่รู้จะอธิบายยังไง เพราะไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบกับสิ่งที่มีอยู่ในโลก เพราะเป็นของเหนือโลก”…

คืนนั้น ท่านกราบนอบน้อมถึงคุณพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ถึงคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ท่านบอกในขณะจิตนั้นพระอรหันต์ทุก ๆ ๆ องค์ ได้มาช่วยหนุนจิตโดยเฉพาะพระหลวงตาทั้งเป็นครูอาจารย์ เป็นพ่อ เป็นพี่ชายในสายโลหิต(เลือด) เดียวกันในชาติปัจจุบัน คืนนั้นท่านไม่นอนทั้งคืน…

พบพระหลวงตาอีกครั้ง กราบเรียนท่านถึงสภาวธรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น…พอจบ”
พระหลวงตาพูดขึ้น “อ้ายหมดห่วงแล้ว”(พี่หมดห่วงน้องแล้ว)…

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 3,480 times, 1 visits today)

Comments are closed.