Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

จิตส่งออกนอก จิตไม่ตั้งมั่น


mp3 for download : จิตส่งออกนอก จิตไม่ตั้งมั่น

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

จิตส่งออกนอก จิตไม่ตั้งมั่น

จิตส่งออกนอก จิตไม่ตั้งมั่น

หลวงพ่อปราโมทย์ : ยกตัวอย่างเวลาเรารู้ลมหายใจ จิตไหลไปอยู่ที่ลมหายใจนี่จิตส่งออกนอกนะจิตเคลื่อนไปอยู่ที่ลม ให้รู้ทันเข้าไป จิตไหลไปแล้วจิตไม่ตั้งมั่น หรือเวลาเราดูท้องพองยุบนี่จิตไหลไปอยู่ที่ท้อง ให้เรารู้ทัน อันนี้ก็จิตไม่ตั้งมั่น หลวงปู่ดูลย์เรียกว่าจิตออกนอกทั้งนั้นเลย จะเดินจงกรมจิตไหลไปอยู่ที่เท้า ให้รู้ทัน นี่หลวงปู่ดูลย์ก็เรียกจิตออกนอกเหมือนกัน จิตมันส่งไป จิตมันเคลื่อนไป

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจิตมันจะเคลื่อนไปทางไหนคอยรู้ทัน ก็จะเคลื่อนไป ๒ อย่าง อันหนึ่งเคลื่อนไปอยู่ในโลกของความคิด ไปรู้เรื่องราวที่คิด เรียกว่าไปรู้อารมณ์บัญญัติ อีกอันหนึ่งเคลื่อนไปเพ่งรูปเพ่งนาม เพ่งกายเพ่งใจ เพ่งลมหายใจ เพ่งท้องเพ่งมือเพ่งเท้า อันนี้ไปเพ่งรูปนะ เพ่งอารมณ์ปรมัตถ์นะ ตัวรูป แต่ก็เป็นสมถะอีก เพราะฉะนั้นมันมีจิตไหลไป ๒ อย่างนะ อันหนึ่งไหลไปในโลกของสมมุติบัญญัติคือหลงไปในโลกของความคิด อีกอันหนึ่งไปเพ่งรูปเพ่งนาม อันนี้ก็ไม่ใช่รู้เหมือนกันทั้งคู่แหละ จิตส่งออกนอกด้วยกันทั้งคู่เลยนะ ส่งไปอยู่ที่ลม ส่งไปอยู่ที่ท้อง ส่งไปอยู่ที่เท้า จิตออกนอกนะ นอกจากอะไร นอกจากรู้ คำว่าจิตส่งออกนอก คือนอกจากอะไร ไม่ใช่นอกร่างกายนะ จิตส่งออกนอกคือนอกจากการรู้ ตื่น เบิกบาน จิตที่ถึงฐานจริงๆน่ะ จิตไม่เคลื่อนไป โดยไม่ได้บังคับไว้ด้วยนะ

ให้เราคอยรู้ทันไป ทำกรรมฐานขึ้นสักอันหนึ่ง แล้วรู้ทัน จิตไหลไปคิดก็รู้ทัน จิตไปเพ่งก็รู้ทัน นี่จิตออกนอกหมดเลย จิตไม่ตั้งมั่นไม่เป็นกลางนะ พอเรารู้ทันว่าจิตมันไหลไป โดยเฉพาะไหลไปคิด ถ้าไหลไปคิดนะ ความไหลไปคิดจะดับทันทีเลย เพราะจิตที่ไหลไปคิดเนี่ยเป็นจิตมีโมหะ มีโมหะแทรกอยู่นะ มันมีความหลงแทรกอยู่ เป็นอกุศลนะจิตหลงไปคิดนะ

ทันทีที่สติระลึกรู้จิตที่หลงไปคิดปุ๊บ ความหลงคิดจะดับทันทีอัตโนมัติเลย เพราะมันเป็นอกุศล สติเกิดแล้วอกุศลอยู่ไม่ได้ ดับทันที แต่ตอนที่หลงไปเพ่งนะ ทั้งๆที่เพ่งอยู่นั้นแหละ จิตไม่ดับไม่ถอนออกมาจากการเพ่งนะ คนละแบบกัน เพราะการไปเพ่งรูปเพ่งนามนะ เป็นกุศลนะไม่ใช่อกุศลนะ เป็นการทำความดี บังคับตัวเอง ควบคุมตัวเอง เป็นการปรุงดี ส่วนหลงไปคิดนั้นเป็นการปรุงชั่วนะ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ทันว่าหลงไปคิดปุ๊บนะ จะหายทันที แต่ถ้าเพ่งอยู่แล้วรู้ว่าเพ่งอยู่ ไม่หายหรอก ก็ต้องค่อยๆจงใจค่อยๆคลายออกๆ

ที่มันไปเพ่งนะเบื้องหลังมันคือโลภ อยากดี อยากรู้อยากเห็น อยากเป็นอยากได้ อยากปฏิบัติ อยากจะไม่ขาดสติ นี่มีความอยากซ่อนอยู่นะ ก็ไปนั่งเพ่งเอาๆ ถ้ารู้ทันใจที่อยากมันก็เลิกเพ่งไปเองน่ะ ทำลายต้นทางมันซะนะ มันก็ไม่เพ่ง ที่เพ่งเพราะอยาก เนี่ยรู้ทันเข้าไป ใจก็คลายการเพ่งออกนะ

ไม่เผลอไปหลงไปในโลกของความคิด ไม่ไปเพ่งไว้ ใจก็เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานขึ้นมา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ ก่อนฉันเช้า

CD: ๓๙
File: 540226A
ระหว่างนาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๕๐ ถึง นาทีที่ ๑๕ วินาทีที่ ๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 550 times, 1 visits today)

Comments are closed.