ต้องรู้แค่ไหน?
ถาม : เราต้อง “รู้” ทุกครั้ง ที่ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส เช่นรู้ว่ามองอยู่ รู้ว่าได้ยิน หรือแค่รู้เวลาเกิดผัสสะแล้วเกิดความคิดขึ้น
ตอบ : ไม่ต้องรู้ทุกครั้งหรอกครับ รู้เท่าที่จะระลึกรู้ได้ครับ
แล้วก็ไม่ใช่รู้ว่าได้ยิน หรือรู้ว่าเกิดความคิดนะครับ
แต่พอเห็นรูป ได้ยินเสียง ฯลฯ แล้วให้รู้ว่าจิตเป็นอย่างไร
เช่น เห็นรูปแล้ว จิตเกิดชอบพอใจ ก็ให้รู้จิตที่ชอบพอใจ
หรือเห็นรูปแล้ว รู้ว่าเมื่อกี้เผลอ(ลืมตัว)ไปมอง ก็ได้ครับ
หรือถ้าเกิดความคิด ก็ให้รู้ว่าจิตเผลอ(ลืมตัว)ไปคิด
ถาม : เวลาภาวนาดูจิตแล้ว ช่วงแรกๆสุขเมื่อรู้ทันธรรมอารมณ์ แล้วก็มาอุเบกขา (เฉยๆเมื่อเห็นอารมณ์ต่างๆ) หลังจากนั้นเริ่มมาทุกข์ แล้วมาเป็นอุเบกขาอีกที (รู้สึกว่าต่างจากรอบแรกที่เฉยๆ) มีใครเป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ ถูกหรือไม่ค่ะ
ตอบ : ดูจิตแล้วจะเป็นแบบไหนก็ได้ครับ แล้วแต่เหตุปัจจัยให้เกิดสภาวะต่าง ๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ให้ตามรู้ไปเท่านั้นครับ
ถ้าตามรู้ไปแล้วจิตเกิดสติ ตั้งมั่นเป็นขณะ ๆ ก็ถูกแล้วครับ
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่