เรื่องของการขอขมา
ตัวผมเองปกติก็จะขอขมาแบบนึกเอาในใจ เพราะเป็นเพียงการตั้งใจว่า ต่อไปจะสำรวมกาย วาจา ใจ ไม่ล่วงเกินอีก ส่วนที่ล่วงเกินไปแล้วยังไงๆ ก็ต้องรับผลกรรมอยู่ดี ไม่ใช่ว่าขอขมาแล้วจะแล้วกันไป อย่างเช่นพระเทวทัต ยังไงก็ต้องใช้กรรมที่ล่วงเกินพระพุทธองค์ไปแล้ว สำหรับผม การขอขมาไม่สำคัญเท่า การตั้งใจว่าจะสำรวมกาย วาจา ใจ ไม่ล่วงเกินอีก การขอขมา ผมว่าก็คือการบอกกับผู้ที่เราล่วงเกินไว้ว่า เรายอมรับและสำนึกได้ว่าตัวเองได้ทำผิดไป เพื่อจะได้ให้อีกฝ่ายไม่ติดใจเอาเรื่องหรือผูกพยาบาท ส่วนเราเองถ้าเป็นผู้ที่ถูกคนอื่นล่วงเกิน ลำพังแค่การเอ่ยปากยกโทษให้ แต่ใจยังผูกโกรธผูกพยาบาท เราเองก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากการที่ผู้อื่นมาขอขมา แต่ถ้าเราไม่ผูกโกรธไม่ผูกพยาบาท เขาจะมาขอขมาหรือไม่ก็ไม่สำคัญ
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่