โอวาทเรื่องศรัทธา
พระพุทธเจ้าสำหรับคนในยุคนี้ ดูเหมือนจะห่างไกลกันไม่น้อย คงด้วยเหตุเพราะเรากำลังอยู่ในยุคหลังพระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานมานานถึงสองพันห้าร้อยกว่าปีแล้ว จึงรู้สึกเหมือนพระพุทธองค์ท่านอยู่ไกลเกินกว่าจะจับต้องได้ แต่กับครูบาอาจารย์ที่สอนเราอยู่ ณ เวลานี้ มันเหมือนเป็นอะไรที่ใกล้ตัว-จับต้องได้ (สนับสนุนความเห็นพี่เอี้ยง) จนกว่าวันใดที่เราสามารถปฏิบัติตามครูบาอาจารย์จนถึงจุดที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า… ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา วันนั้นเราก็จะหมดสิ้นความเคลือบแคลงต่อพระองค์ ต่อพระธรรมที่พระองค์ประกาศไว้ ตลอดจนครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่สืบทอดพระธรรมกันต่อๆ มา ศรัทธาในตอนนั้นจะต่างจากก่อนหน้ามากมายนัก เป็นศรัทธาที่ไม่อาจจะมีสิ่งใดมาลดทอนลงไปได้ เป็นศรัทธาที่อยู่บนความเห็นชอบ และจะไม่เป็นความงมงายได้อีก
ความศรัทธาที่ยังไม่ได้เห็นจริงตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ จะยังเป็นศรัทธาที่สามารถถูกลดทอนได้ บ่อยครั้งที่เราเพียงแค่คิดถึงเรื่องบางเรื่องไปตามทิฏฐิของเราเอง จนถึงกับทำให้ศรัทธาที่มีต่อพระพุทธองค์ ต่อครูบาอาจารย์ ถึงกับพังครืนลงไป แต่อย่างไรก็ตาม ในการปฏิบัติภาวนาของเรา ก็ย่อมต้องอาศัยศรัทธาที่มีต่อครูบาอาจารย์ (พระสงฆ์)ไปพร้อมๆ กับศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม จะอาศัยศรัทธาเฉพาะครูบาอาจารย์อย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะหากไม่มีความศรัทธาต่อพระพุทธ พระธรรม มาเป็นตัวถ่วงดุล (ในระยะแรก) แล้วเราเกิดไปเจอครูบาอาจารย์ที่สอนผิดเพี้ยนเข้า เราก็จะแยกแยะไม่ออกแล้วทำให้เราต้องเดินหลงทางไปอีกนาน ถ้าเรามีวิบากไม่ดีมา ก็ยากจะได้เจอะเจอและศรัทธาในครูบาอาจารย์ที่เป็นเพชรน้ำเอก ดังที่เห็นกันทุกวันนี้ มีบางคนได้มีโอกาสมีวาสนาเจอะเจอครูบาอาจารย์ที่เป็นเพชรน้ำเอก แต่กลับไม่ศรัทธา ก็เลยเสียโอกาสได้รับการอบรมในทางที่เหมาะที่ควรกับตัวเอง
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่