คนเราล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร
โดยหลักจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจิตจะเป็นอย่างไร เราก็เพียงรู้ว่าจิตเป็นอย่างนั้น ถ้ายังไม่อาจมีความตั้งมั่นเป็นกลางต่อความหวั่นไหวของจิตได้ จึงเกิดเป็นความต้องการให้ความหวั่นไหวนั้นหายไป การที่เราพากันมาเจริญสติสัมปชัญญะกันอยู่นี้ ไม่ได้ทำกันไปเพื่อให้ทุกอาการของจิตหายไปหลังจากรู้ มันจะหายไป หรือไม่หาย หรือเปลี่ยนเป็นอาการอื่นๆ เรามีหน้าที่เพียงแค่รู้มันเท่านั้น ความต้องการให้จิตหายจากอาการที่เป็นอยู่ จริงๆ มันก็คือเหตุให้เกิดทุกข์อันใหม่ขึ้น คือทุกข์เพราะจิตไม่หายจากอาการที่เป็นตามที่เราต้องการนั่นเองครับ
แต่มันก็เป็นธรรมดาของพวกเราๆ ที่ยังไม่อาจทำให้การรู้เป็นเพียงแค่รู้ แต่จะตามมาด้วยความคิดปรุงแต่งบ้าง ความอยากบ้าง ถึงแม้ทุกข์จะเกิดไปแล้ว เราก็ต้องเพียรรู้ทุกข์นั้นครับ ไม่ใช่อยากให้ทุกข์หายไป แต่ก็ยากครับที่จะแค่รู้ทุกข์นั้นได้ เพราะทุกข์ทีไรเราก็อยากจะหนีมัน ขับไล่มันเสียทุกที จึงต้องมีความเพียรที่จะรู้ให้มากๆ ครับ ที่จริงถ้าสามารถรู้ได้ว่า เรากำลังอยากหนีทุกข์ นั่นก็มีความก้าวหน้าแล้วครับ
ถ้าทุกข์จนยากที่จะรู้ทุกข์นั้นได้ ก็อาจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนก็ได้ครับ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ หาอะไรมาให้จิตรู้ไปก่อน เช่น พอทุกข์มากๆ ก็หันไปรู้ลมหายใจแทนเป็นต้น หรือถ้าถนัดจะรู้อย่างอื่นที่ไม่ใช่ลมก็ได้ครับ การทำอย่างนี้ก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้จิตจมแช่ทุกข์อยู่ แต่ที่สำคัญคือ พอเราหันไปรู้อย่างอื่น เราก็ควรรู้ด้วยสติสัมปชัญญะครับ
ต้องเพียรกลับมารู้ลมหายใจให้บ่อยๆ ครับ แม้จะรู้ได้ไม่นานก็ต้องเพียรต่อไปครับ ไม่มีทางอื่นอีกแล้วครับ ที่จริงเพียงแค่กลับมารู้ลมครั้งหนึ่ง ก็เท่ากับวางทุกข์ลงได้ทีหนึ่งแล้ว เพียรบ่อยๆ ก็จะวางทุกข์ลงได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ ครับ พระพุทธองค์ก็ตรัสเอาไว้ว่า….คนเราล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร….ครับ
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่
(Visited 215 times, 1 visits today)
Related Posts via Taxonomies