Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

V-Clip : เผลอ(หลง)นานจะแก้ยังไง

เผลอ(หลง)นานจะแก้ยังไง

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๕) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินปัญญาควบสมาธิ

mp3 for download : อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๕) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินปัญญาควบสมาธิ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๕) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินปัญญาควบสมาธิ

อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๕) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินปัญญาควบสมาธิ

ถ้าชำนาญในฌานแล้วก็ชำนาญในการดูจิต ก็ไปเดินปัญญาในฌานตอนเข้าฌาน อันนี้ปัญญากับสมาธิควบกัน คือไปเห็นองค์ฌานเกิดดับ พวกนั้นมีหนึ่งในแสน หายากยุคนี้ที่จะเดินปัญญากับสมาธิควบกัน เดินปัญญากับสมาธิควบกันแล้วบรรลุพระอรหันต์ไม่ได้เรียกว่า อุภโตภาควิมุตตินะ บางคนก็นึกว่าเดินปัญญากับสมาธิควบกันแล้วเป็นพระอรหันต์ชนิดอุภโตภาควิมุตติ ไม่ใช่

อุภโตภาควิมุตติต้องเข้าอัปปนาสมาธิถึงขั้นอรูปฌาน ไม่มีรูป ดับรูปด้วยอรูป ดับนามด้วยวิปัสสนา ฉะนั้น ถ้าบรรลุพระอรหันต์ บรรลุธรรมในอรูปฌาน ถึงจะได้เรียกว่า “อุภโตภาควิมุตติ”

541106B.10m12-11m16

ขอขอบคุณพี่ maibok @wimutti.net สำหรับเนื้อหาของ clip ช่วงนี้

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ หลังฉันเช้า

CD: 42
File: 541106B.mp3
นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๑๒ ถึง นาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๑๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

V-Clip : วิธีพัฒนาปัญญา

วิธีพัฒนาปัญญา

1/3

2/3


3/3



เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๔) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินสมาธินำปัญญา

mp3 for download: อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๔) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินสมาธินำปัญญา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๔) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินสมาธินำปัญญา

อานาปานสติ (ตอนที่ ๑๔) สรุปอานาปานสติสำหรับผู้เดินสมาธินำปัญญา

หลวงพ่อปราโมทย์ : เมื่อเช้าหลวงพ่อพูดเรื่องอานาปานสติให้ฟัง ไม่มีที่ไหนหรอก อย่างนี้ ในตำราก็ไม่ได้เขียนไว้มากมายอย่างนั้น ไม่ได้แจกแจงพิสดาร อานาปานสติ เรามีสติอยู่ทุกลมหายใจ อย่างนี้ดี มีสติไปอยู่ที่ลมหายใจ ลมหายใจจะค่อยๆสั้น ทีแรกลมยาว หายใจแล้วก็สั้นขึ้นๆ กลายเป็นความสว่าง อย่างนี้ก็ยังดี ได้สมถะ ถ้าหายใจแล้วเคลิ้ม ขาดสติไป อันนี้ไม่ดี สติอ่อนไป หายใจแล้วแน่นแข็งป๊อกขึ้นมาเลย เครียดๆ แข็งๆ นี่ สติแรงไป ไม่ดี จงใจมากไป

ถ้าพอดีๆ ลมหายใจสบายๆ ลมจะค่อยสั้นๆ สว่าง พอสว่างแล้ว จะเล่นกสิณก็ได้ เล่นกสิณแสงสว่าง อยากรู้อยากเห็นอะไรก็รู้ได้อยู่ ได้ทิพยจักษุ ได้กสิณแสงสว่าง หรือกสิณลม กสิณลมก็ได้ เห็นลมหายใจมันไหลเข้าไหลออก เป็นกสิณดินก็เห็นร่างกายที่หายใจ ไม่ได้ดูตัวลมตรงๆ แต่ลมหายใจมันก็อิงอยู่กับร่างกาย ก็ใช้ได้

ทำได้หลายอย่าง พลิกแพลงได้เยอะแยะ ถ้าไม่เล่นกสิณก็ไม่เป็นไร ไม่ให้จิตเข้าไปจับลมนะ แล้วสงบเข้ามา เข้าอุปจารสมาธิ พอได้อุปจารสมาธิแล้ว เดินปัญญาในอุปจารสมาธิก็ได้ เลยเข้าอัปปนาสมาธิ ไปพักอยู่ในอัปปนาสมาธิ เป็นที่พักของจิตก็ได้ ทำสมถะแล้วออกจากอัปปนาสมาธิ มาแยกธาตุแยกขันธ์ มาเดินปัญญา อันนี้เป็นสมาธินำปัญญา

08m12-10m12

ขอขอบคุณพี่ maibok @wimutti.net สำหรับเนื้อหาของ clip ช่วงนี้

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ หลังฉันเช้า

CD: 42
File: 541106B.mp3
นาทีที่ ๘ วินาทีที่ ๑๒ ถึง นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๑๒

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

V-Clip : การเข้าฌาน

การเข้าฌาน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ภาวนาแล้วมานะ(ความถือตน)จะลดลงหรือไม่?

ภาวนาแล้วมานะ(ความถือตน)จะลดลงหรือไม่?
การหัดดูอะไรที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เห็นได้ชัด
จะทำให้การภาวนาก้าวหน้าได้เร็วจริงอย่างที่ครูบาอาจารย์บอกครับ
เพราะอะไรที่เกิดบ่อยก็จะทำให้เราได้เจริญสติปัญญาบ่อยๆ
อะไรที่เราเห็นชัด ก็จะทำให้เราไปม่ต้องไปเพ่งจ้องไปควานหา
จะทำให้เราฝึกสติ รู้สภาวธรรมได้อย่างถูกต้องง่ายขึ้น

ส่วนมานะนั้นจะยังไม่ลดลงในตอนนี้หรอกครับ
(มานะเป็นสังโยชน์ที่จะถูกถอดถอนในชั้น อรหัตผล : ผู้เรียบเรียง)
ตอนนี้พอเกิดสภาวะเหลานี้ก็ให้หัดรู้ทันไปเรื่อยๆ
ซึ่งถ้าเรามีสติแค่รู้แค่ดูไป เราก็จะสามารถสำรวมกายวาจา
ไม่ทำอะไรที่ดูไม่งามออกไป เท่านี้ก็เป็นการรู้เท่าทันตามจริงได้แล้ว
เมื่อรู้เท่าทันได้บ่อยๆ ก็จะพัฒนาสติปัญญาไปตามลำดับครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สติคือความระลึกได้โดยไม่ได้จงใจระลึก

mp3 for download: สติคือความระลึกได้โดยไม่ได้จงใจระลึก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

สติคือความระลึกได้โดยไม่ได้จงใจระลึก

สติคือความระลึกได้โดยไม่ได้จงใจระลึก

หลวงพ่อปราโมทย์ : สติ แปลว่า “ความระลึกได้” พวกเรารุ่นหลังๆเริ่มคลาดเคลื่อน เราไปแปลสติว่า “กำหนด” กำหนดลมหายใจเรียกว่ามีสติ กำหนดมือ กำหนดเท้า กำหนดท้อง นะ กำหนดจิตให้สงบ เรียกว่า มีสติ แค่นั้นไม่พอนะ

สติคือความระลึกได้ หมายถึงว่า สภาวะใดๆเกิดขึ้นที่กาย สติระลึกได้โดยไม่ได้จงใจระลึก อะไรเกิดขึ้นที่ใจ สติระลึกได้โดยไม่ได้จงใจระลึก ถ้าจงใจระลึกนะ เจือปนด้วยความอยาก เจือปนด้วยโลภะ ไม่ใช่สติตัวจริงหรอก

ทำอย่างไรสติที่แท้จริงจึงจะเกิด ในพระอภิธรรมสอนบอกว่า ถิรสัญญา ถอถุง สระอิ รอเรือ ถิรสัญญา การที่จิตจำสภาวะได้แม่น เป็นเหตุใกล้ให้เกิดสติ ทำไมจิตถึงได้จำสภาวะได้แม่น สภาวะคืออะไร สภาวะคือรูปธรรมนามธรรม รูปธรรม เช่น ร่างกายที่หายใจเข้า ร่างกายที่หายใจออก ร่างกายที่ยืนเดินนั่งนอน เป็นสภาวะที่เป็นรูปธรรม สภาวะที่เป็นนามธรรม เช่น ความรู้สึกสุข รู้สึกทุกข์ รู้สึกเฉยๆ ความโลภ ความไม่โลภ ความโกรธ ความไม่โกรธ ความหลง ความไม่หลง ความฟุ้งซ่าน ความหดหู่ ความดีใจเสียใจ นี่เป็นสภาวะที่เป็นนามธรรม จิตจะเกิดสติได้ ถ้าจิตจำสภาวะได้แม่น

เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเรา ไม่ต้องทำอะไรมากๆ อย่าไปคิดนะว่าจะบังคับสติให้เกิดได้ สติเป็นอนัตตา ไม่มีใครสั่งให้เกิดได้ แต่ถ้าสติมีเหตุ คือ จิตจำสภาวะได้แม่น สติจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้จงใจให้เกิด

หน้าที่ของเราตอนนี้ไม่มีอะไรมาก ของเราตอนนี้ หัดรู้สภาวะที่กำลังเกิดขึ้นในกายในใจบ่อยๆ หายใจออกก็คอยรู้สึกตัว อย่าใจลอย อย่าไปเพ่งอยู่ที่ร่างกาย แค่รู้สึก หายใจเข้าก็รู้สึกตัวนะ ไม่ใจลอย แล้วก็ไม่เพ่งอยู่ที่ร่างกาย ยืน เดิน นั่ง นอน ก็คอยรู้สึกตัว แต่ก็ไม่เพ่งร่างกาย จิตใจเป็นสุข จิตใจเป็นทุกข์ จิตใจเฉยๆ ก็แค่รู้ ไม่เพ่งจิตใจนะ แล้วก็ไม่ลืมเนื้อลืมตัว ถ้าลืมตัวไปก็ลืมกายลืมใจ ถ้าไม่ลืมตัวก็รู้กายรู้ใจในขณะเดียวกันอย่าไปเพ่ง ถ้าเพ่งแล้วมันนิ่ง แค่รู้ แค่ระลึก แค่ระลึก นะ

เพราะฉะนั้น อะไรเกิดขึ้นในใจคอยรู้ไปเล่นๆ รู้เล่นๆ ถึงจุดหนึ่งสติแท้ๆจะเกิดขึ้น เช่น นั่งฟังหลวงพ่อพูด รู้สึกมั้ย ขณะที่ฟังหลวงพ่อพูด ฟังแล้วก็คิด ฟังแล้วก็คิด สลับกัน ดูออกมั้ย ไม่ใช่ฟังอย่างเดียว ไม่มีใครหรอกที่ฟังอย่างเดียว ที่เราบอกว่าตั้งใจฟัง ตั้งใจฟัง จริงเราฟังสลับกับคิดตลอด แต่เราไม่เคยเห็นต่างหากล่ะ

ต่อไปนี้เราค่อยสังเกต ฟังหลวงพ่อพูด สังเกตมั้ย ฟังไป คิดไป ฟังไป คิดไป เนี่ยเราหัดดูไปนะ จิตไปฟังเราก็รู้ทัน จิตกำลังไปคิดเราก็รู้ทัน หัดรู้อย่างนี้บ่อยๆ ต่อไปพอจิตไหลไปคิดปั๊บ สติจะเกิดเอง มันจะระลึกขึ้นได้เลยว่า อ้อ.. หลงไปคิดแล้ว มีคำว่าแล้วนะ อ้อ.. หลงไปคิดแล้ว มันโกรธขึ้นมา สติระลึกได้ จะรู้เลย อ้อ.. หลงไปโกรธแล้ว มีคำว่าแล้ว หมายถึงว่า กิเลสทั้งหลายเกิดขึ้นก่อน แล้วเราก็่ค่อยรู้ว่ามันเกิด อย่าไปดักดูนะ

เมื่อตะกี้นี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งมาถามหลวงพ่อว่า เขาภาวนาแล้วมันผิดตรงไน ผิดตรงที่ไปดักดู ไปรอดู จะไปดูจิตนะ ก็ไปรอดู เมื่อไหร่จะมีอะไรเกิดขึ้น อย่างนี้กลายเป็นการเพ่งจิต ไม่มีอะไรให้ดูหรอก ต้องรอให้สภาวะมันเกิดก่อน เช่น มันมีปีติขึ้นมารู้ว่ามีปีติ มีความสุขขึ้นมารู้ว่ามีความสุข มันเฉยๆรู้ว่าเฉยๆ มันโลภ มันโกรธ มันหลัง ค่อยรู้เอา สภาวะเกิดแล้วค่อยรู้ สภาวะเกิดแล้วค่อยรู้

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์
เมื่อวันศุกร์ ที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒

File: cp tower 520724
ระหว่างนาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๐๘ ถึง นาทีที่ ๑๔วินาทีที่ ๕๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : จิตที่มีสติตัวจริง (มีสัมปชัญญะ) เกิดขึ้นตอนไหน?

จิตที่มีสติตัวจริง (มีสัมปชัญญะ) เกิดขึ้นตอนไหน?

การตามรู้จะหมายถึง เมื่อจิตเผลอไป-เมื่อจิตมีราคะ/โทสะ/โมหะ แล้วจิตเองเกิดจำสภาวะได้ จิตที่เผลอไป-จิตที่มีราคะโทสะโมหะก็จะดับลง เกิดเป็นจิตที่ตั้งมั่น สติตัวจริงจะเกิดตอนที่จิตตั้งมั่น ทำให้รู้สึกได้เองว่า เมื่อกี๊เผลอไป เมื่อกี๊จิตมีราคะ/โทสะ/โมหะ

ส่วนคำว่ารู้ลงปัจจุบันในการรู้จิต ไม่ได้ไปรู้จิตที่ดับไปแล้วนะครับ แต่รู้สึกได้เองว่าเมื่อกี๊จิตเป็นอย่างไร จิตที่รู้สึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี๊จิตเป็นอย่างไร เป็นจิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากจิตดวงเก่าเพิ่งดับลง

มันเหมือนเห็นเป็น 3 จังหวะครับ
จังหวะแรกเห็นว่าจิตมีราคะ/โทสะ/โมหะ
จังหวะที่สอง จิตที่เห็นว่าจิตที่มีราคะ/โทสะ/โมหะ ดับไป เกิดเป็นจิตที่จำสภาวะของราคะ/โทสะ/โมหะได้ขึ้นมาแทน
จังหวะที่สาม จิตที่จำสภาวะราคะ/โทสะ/โมหะได้ ดับลง เกิดเป็นจิตที่มีสติตัวจริง

ส่วนมากจะไม่เห็นจังหวะที่ 2 หรอกครับ มาเห็นอีกทีก็จังหวะที่ 3 แล้ว… แค่นี้ก็ได้ 1 แต้มเหมือนกัน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ถ้าสงสัยว่าได้มรรคผล ให้ดูกิเลส

mp 3 (for download) : ถ้าสงสัยว่าได้มรรคผล ให้ดูกิเลส

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ถ้าสงสัยว่าได้มรรคผล ให้ดูกิเลส

ถ้าสงสัยว่าได้มรรคผล ให้ดูกิเลส

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าจิตไม่ได้ทรงฌานนะไม่ชำนาญจะไม่เห็นสภาวะละเอียด คล้ายๆคนตกต้นไม้ พอหลุดจากยอดไม้ก็ถึงพื้นตุ้บเลย ดูไม่ออก แต่กิเลสเนี่ยหายไปแล้ว เพราะงั้นถ้าคนไหนภาวนาแล้ววูบๆวาบๆไปแล้วก็คิดว่าใช่นะ อย่าเพิ่งเชื่อ ให้มาทดสอบตัวเองด้วยกิเลสก่อน ค่อยๆสังเกตไปกิเลสอะไรยังเหลืออยู่ กิเลสอะไรหมดไปแล้ว ค่อยดูไปเรื่อยๆนะ ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองนะ มีสติ มีปัญญา ช่างสังเกตไปเรื่อย วันนึงก็ต้องจับได้

หลวงพ่อนะ ฆาตกรรมพระโสดา(ปลอม)ไปเยอะแยะนะ แต่ละปีๆนี่เยอะแยะมากเลย พระโสดานั่นน่ะไม่ใช่โสดาจริงหรอกยังมึนๆเมาๆอยู่ วิธีจัดการก็คือ ใจเย็นๆอย่าเพิ่งไปบอกเค้าว่าไม่ใช่นะ คนไหนเค้าคิดว่าเค้าใช่ เราอย่าไปบอกว่าเค้าไม่ใช่นะ เดี๋ยวเค้าโมโห อีกพวกนึงไม่โมโหนะเสียใจ เสียใจล้มพังพาบเลยภาวนาไม่ไหวอีก ต้องใจเย็นๆเวลาเจอ งั้นใครมาถามหลวงพ่อว่าผมเป็นพระโสดาหรือยังอะไรงี้ ยังไม่ตอบง่ายหรอก พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าอย่าเพิ่งอนุโมทนาแล้วก็อย่าเพิ่งคัดค้าน ค่อยๆสังเกตไปมันมีกิเลสอะไรอีก ค่อยพาเจ้าตัวเค้าดูนั่นแหล่ะ

บางคนมาเป็นพระโสดาแล้วเราก็ชวนคุยโน่นคุยนี่ ซักพัก เห็นมั้ยมันมีความเป็นเราขึ้นมาอีกแล้ว ถ้าเจ้าตัวเห็นนะก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวไม่ใช่ ถ้าอย่างนี้เค้าไปต่อได้ ถ้าอยู่ๆเราไปตราหน้าอะไรนี่(ว่า)ไม่ใช่หรอก เดี๋ยวมันโมโหเอาหรือว่าเสียใจไปเลยไม่รู้ว่าจะไปต่อยังไง งั้นภาวนานะ วันนึงเราจะได้ธรรมะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๑ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๗
Track: ๑๐
File: 511108A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๒ วินาทีที่ ๕ ถึง นาทีที่ ๒๓ วินาทีที่ ๔๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ดูจิตเพื่อถอนทุกข์

ดูจิตเพื่อถอนทุกข์

โดยหลักของการดูจิตนั้น เมื่อใดที่จิตใจเกิดเป็นทุกข์ขึ้น หากเราได้ผ่านฝึกฝนทักษะมาอย่างถูกต้อง เราจะรู้สึกได้โดยอัตโนมัติว่า จิตเป็นทุกข์ การรู้สึกได้ว่าจิตเป็นทุกข์นี้ (หรือรู้สึกได้ว่าจิตเป็นอย่างไร เช่น รู้สึกได้ว่าจิตมีโทสะ ฯลฯ ) หากเราสามารถรู้ได้ถูกต้อง จิตก็จะมีความรู้สึกตัวขึ้น (จิตรู้สึกตัว เป็นภาษาที่ใช้พูดกันในหมู่นักดูจิต ซึ่งจะหมายถึงจิตที่มีสติสัมปชัญญะนั่นเอง) จิตที่รู้สึกตัวนี้จะเป็นจิตที่สามารถรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่หวั่นไหว มีความตั้งมั่น เป็นกลาง อันเป็นจุดตั้งต้นของกระบวนการเกิดขึ้นของปัญญา และเมื่อใดที่เกิดปัญญาอย่างถึงที่สุด ปัญญานี้ก็จะถอดถอนความทุกข์ออกไปจากจิต จิตที่เคยเป็นทุกข์มานานแสนนานก็จะไม่ต้องเป็นทุกข์กันอีกเลย

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

นิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตา

mp 3 (for download) : นิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

นิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตา

นิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตา

หลวงพ่อปราโมทย์ : มันคล้ายๆเป็นช่องทางเล็กๆนะที่เราต้องค่อยๆคลำ หลวงพ่อเทียนท่านบอกเหมือนอยู่ในห้องมืด ค่อยคลำไปนะคลำๆ ถ้าอยู่ในห้องมืดแล้วอยากพ้นจากห้องแล้วก็นั่งเข้าสมาธิ(คิดว่า)วันนึงคงหลุดออกจากห้อง หลุดแล้วแหล่ะนั่งนานๆตายเค้าก็มาหามเอาไปเผา

แต่ถ้าเราไม่นิ่งนอนใจนะ ใจมันจะสำรวจไปเรื่อย จะลองผิดลองถูก ลองผิดลองถูก วิธีลองผิดลองถูกก็ต้องลองให้ถูกหลัก ไม่ใช่ไปลองมั่วซั่วนะ ลองผิดลองถูกก็คือหัดเจริญสติไปเรื่อย เดี๋ยวมันก็มากไปเดี๋ยวมันก็น่้อยไป เดี๋ยวก็หนักไปเดี๋ยวก็เบาไป เดี๋ยวก็ขยันเกินไปเดี๋ยวก็ขี้เกียจเกินไป เนี่ยคอยสังเกตใจเราไปเรื่อยจนมันพอดีๆนะ

มันพอดีตรงไหนนะเหมือนเราคลำๆไปเจอลูกบิดหรือเจอกลอนประตูเข้าแล้ว ไขแกร๊กเดียวเอง แกร๊กเดียวเองก็เปิดออกมาสู่ความสว่างได้แล้ว

ตอนนี้เราอยู่ในที่มืดนะ อยู่ในที่มืดยังมืดอยู่ แต่ว่าบางคนก็เข้าใกล้ประตูแล้วนะจะบอกให้เหลืออีกไม่กี่ก้าวหรอก บางคนก็ยังคลำ โน่น แทนที่จะคลำหาประตูนะมันคลำหาห้องใต้ดินอยู่ มีนะพวกคลำหาห้องใต้ดินเวลาภาวนารู้สึกมั้ยส่งจิตเข้าไปข้างล่างลึกเลย บางคนมันคลำเพดานส่งจิตขึ้นไป มันไม่ได้อยู่กับปัจจุบันนะ อยู่กลางๆ ประตูมันอยู่ตรงกลางๆนี่แหล่ะ นั้นอยู่ตรงไหน อยู่ต่อหน้า ไม่ใช่อยู่ข้างซ้ายอยู่ข้างขวา อยู่ต่อหน้า เซ่อไปหาข้างซ้ายข้างขวาเอง อยู่ต่อหน้า ข้างซ้ายคือหลงไปทางตามโลกไป ข้างขวาคืออัตตกิลมถานุโยค ข้างซ้ายเป็นกามสุขัลลิกานุโยค ถ้าใครชอบฝ่ายขวาเราก็บอกพวกฝ่ายซ้ายเป็นกามสุขัลลิกานุโยค อะไรไม่ดีโทษคนอื่นไว้ก่อนนะ

ในความเป็นจริงก็คืออย่าหลงไปสู่ความสุดโต่งสองด้าน รู้อยู่กับปัจจุบัน ประตูอยู่ต่อหน้า ไม่เพียงประตูหรอก ประตูนี้เป็นภาพลวงตาจะบอกให้ ในความเป็นจริงนะนิพพานอยู่ต่อหน้า ไม่ใช่ว่าต้องเปิดประตูเข้าไปเห็นหรอก แต่ว่าเซ่อเองไม่เห็นเองนะ นิพพานอยู่ต่อหน้าต่อตานี้เอง แต่อะไรปิดบังไว้ อาสวะกิเลสหรืออวิชชานั่นแหล่ะปิดบังไว้ ความไม่รู้ของเราเอง

งั้นเราต้องพัฒนาความรู้ขึ้นมา รู้อะไร รู้อริยสัจ อริยสัจข้อแรกเรียกว่าทุกข์ ทุกข์คืออะไร ทุกข์คือกายกับใจ นั้นให้เราคอยรู้กายคอยรู้ใจตัวเองเนืองๆ รู้ไปอย่างที่เค้าเป็น รู้ซื่อๆนะ ไม่ใช่บังคับกายบังคับใจนี่สุดโต่งข้างบังคับ ไม่ใช่ลืมกายลืมใจนี่สุดโต่งข้างตามใจกิเลส รู้กายรู้ใจ รู้ซื่อๆ กายเป็นยังไงรู้ว่าเป็นอย่างนั้น จิตเป็นยังไงรู้ว่าเป็นอย่างนั้น รู้ไปอย่างนี้นะ ในที่สุดเรารู้ทุกสิ่งด้วยจิตที่เป็นกลาง เมื่อใดรู้ทุกสิ่งด้วยจิตที่เป็นกลางรู้แล้วไม่ปรุงต่อนะ อีกนิดเดียวเองนะ อีกนิดเดียวเองก็จะพบมรรคผลแล้ว

ไม่ยากเท่าที่คิดหรอก ง่ายกว่าที่คิดนะ พอคิดแล้วยาก ไม่ต้องคิดมาก มีสติรู้กายรู้ใจลงปัจจุบันไปด้วยจิตที่เป็นกลาง ถ้าจิตไม่เป็นกลางรู้ทันไป ฝึกอยู่อย่างนี้นะเจ็ดวันเจ็ดเดือนเจ็ดปีต้องได้ผลบ้างแหล่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๑ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๗
Track: ๑๐
File: 511108A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๕ วินาทีที่ ๒๖ ถึง นาทีที่ ๒๘ วินาทีที่ ๔๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

V-Clip : แยกธาตุแยกขันธ์

แยกธาตุแยกขันธ์

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

V-Clip : ภาวนาแล้วไม่หายโกรธ

ภาวนาแล้วไม่หายโกรธ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

คำสอนพระพุทธเจ้า ช่วยให้เราอยู่กับโลกโดยไม่ทุกข์

mp3 (for download) : คำสอนพระพุทธเจ้า ช่วยให้เราอยู่กับโลกโดยไม่ทุกข์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

คำสอนพระพุทธเจ้า ช่วยให้เราอยู่กับโลกโดยไม่ทุกข์

คำสอนพระพุทธเจ้า ช่วยให้เราอยู่กับโลกโดยไม่ทุกข์

หลวงพ่อปราโมทย์​ : คนเรามีความทุกข์ก็เพราะมีกิเลส ทุกข์ทางใจ พอกิเลสครอบงำเบียดเบียนตัวเองก่อนเบียดเบียนคนอื่นทีหลัง งั้นโลกก็ไม่มีความสุข วุ่นวาย เรื่องของกิเลสทั้งนั้น เราดูข่าวดูโทรทัศน์ดูอะไรจะเห็นเรื่องของกิเลสทั้งนั้น น้ำท่วมน้ำไม่ท่วมนะก็เถียงกัน เรื่องผลประโยชน์ ทุกอย่าง ซ่อนเร้น

เราไปแก้ที่คนอื่นไม่ได้ มาแก้ที่ตัวเราเอง กิเลสคนอื่นล้างไม่ได้ มาล้างกิเลสของเรา เราแก้โลกทั้งใบไม่ได้ แก้ประเทศทั้งประเทศไม่ได้ เราต้องอยู่กับมัน ทำหน้าที่ไป เรามาฝึกจิตฝึกใจของเรา โลกนี้มันทุกข์นะ เราต้องอยู่กับมันให้ได้ เพราะว่าเกิดมาแล่้ว

คนที่ไม่มีธรรมะเค้าไม่มีทางเลือกเค้าต้องอยู่กับมันตลอดไป จมอยู่ในความทุกข์เรื่อยๆไป พวกเรายังมีบุญสนใจคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ว่าต้องเรียนให้ดี ทุกวันนี้คำสอนที่เป็นมิจฉาทิฏฐิมันแฝงมาอยู่ในพระพุทธศาสนาเนี่ยเยอะแยะไปหมดเลย บางทีมันแทบจะล้มล้างคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้าไป

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นไปเพื่อลดละกิเลส เป็นไปเพื่อความมักน้อย เพื่อความสันโดษ เพื่อความไม่คลุกคลี เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร เป็นไปเพื่อให้มีศีล มีสมาธิ มีปัญญา เป็นไปเพื่อวิมุตติความหลุดพ้น เป็นไปเพื่อวิมุตติญาณทัสสนะความเข้าใจในพระนิพพาน เนี่ยเส้นทางเดินที่พระพุทธเจ้าท่านพาเดินมา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรม ณ สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
อ. ศรีราชา จ.ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔

CD: พระธรรมเทศนา สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๒
File: 541125
ระหว่างนาทีที่  ๐ วินาทีที่ ๐๒ ถึงนาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๐๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

V-Clip : เคล็ดลับในการทำสมาธิ

เคล็ดลับในการทำสมาธิ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ยุ่งกับคนอื่นเท่าที่จำเป็น เรียนรู้กายใจตัวเองให้มาก

mp3 (for download) : ยุ่งกับคนอื่นเท่าที่จำเป็น เรียนรู้กายใจตัวเองให้มาก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

เมื่อต้องคลุกคลีกับสังคมและจิตหลงเพลินชอบพูดธรรมะ

เมื่อต้องคลุกคลีกับสังคมและจิตหลงเพลินชอบพูดธรรมะ

หลวงพ่อปราโมทย์​ : ตัวนึงก็คือเรื่องไม่คลุกคลี ไม่คลุกคลีก็เรื่องสำคัญถ้าเราจะภาวนาให้พ้นทุกข์จริงๆ วันๆยุ่งกับคนอื่นทั้งวัน ใจไม่สงบ หลวงพ่อตอนเป็นฆราวาสเลิกงานแล้วก็กลับบ้าน กินข้าวอาบน้ำอะไรเรียบร้อย เวลาที่เหลือมีเวลาภาวนา ถ้าวันไหนเหนื่อยมากก็พักผ่อนนิดหน่อยอ่านหนังสือการ์ตูนอะไรเนี้ย ดูข่าวนิดหน่อยไม่ดูเยอะ หลังข่าวไม่ดูมีแต่นิยาย ดูแล้วจิตเสีย กิเลสที่ยังไม่เกิดก็เกิด กิเลสที่เกิดแล้วก็แรงขึ้น กุศลที่มีก็หายไป กุศลที่ยังไม่เกิดก็ไม่ยอมเกิดเลยมัวแต่ดูนิยาย ใจฟุ้งซ่าน

เนี่ยรักษาตัวมาด้วยเรื่องนี้นะ ไม่ยุ่งกับใคร เวลาทำงานต้องยุ่งกับคนก็ยุ่งไปตามหน้าที่ ติดนิสัยมาจนถึงวันนี้นะ ใครบอกได้ว่าเป็นคนสนิทหลวงพ่อพูดออกมั้ย พูดไม่ออก ไม่มีลูกศิษย์เอกลูกศิษย์โท เท่าๆกันน่ะ ถึงมาเรียนถึงเวลาก็ออกไป หลวงพ่อไม่คลุกคลีกับโยมหรอกนะ อย่าว่าแต่โยมเลยกับพระถึงเวลาวัดหลวงพ่อมีระเบียบนะ พระห้ามเดินไปตามกุฏิซึ่งกันและกันนะ ยิ่งยามวิกาลเนี่ย ถ้าเดินไปนั่งคุยกันนิมนต์ไปคุยที่นอกวัดเลย

แต่ว่าเจ็บไข้ได้ป่วยต้องดูแลกันนะคนละเรื่อง ของเราถ้าวันๆยุ่งกับคนมากภาวนาไม่ขึ้นหรอก ยุ่งเท่าที่จำเป็น ทำธุรกิจทำอะไรก็จำเป็น ไปเลี้ยงลูกค้าถือว่าคลุกคลีมั้ย ไม่ใช่ มีธุรกิจต้องไปเลี้ยงกับลูกค้ากินเลี้ยง นั่นคืองานไม่ใช่เรื่องคลุกคลี คลุกคลี(คือ)ไม่จำเป็นไม่มีธุระอะไรก็ยังไปยุ่งกับคนอื่นเค้า พวกเราหลายคนภาวนาแล้วชอบยุ่งคนอื่น ภาวนาไม่ขึ้นหรอก งั้นเอาเวลามาเรียนรู้กายเรียนรู้ใจตัวเองให้มาก

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรม ณ สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
อ. ศรีราชา จ.ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔


CD:
พระธรรมเทศนา สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๒
File: 541125
ระหว่างนาทีที่  ๔ วินาทีที่ ๓๒ ถึงนาทีที่ ๖ วินาทีที่ ๕๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

V-Clip : ภาวนาแล้วเห็นนิมิต

ภาวนาแล้วเห็นนิมิต

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

รู้สภาวะแล้ว จิตยินดียินร้ายให้รู้ทันอีก

mp 3 (for download) : รู้สภาวะแล้ว จิตยินดียินร้ายให้รู้ทันอีก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : คอยดูใจของเรานะเวลามันรู้สภาวะขึ้นมา เช่นมันเห็นความสุขเกิดขึ้นมา มันหลงยินดีให้รู้ทัน มันเกิดความทุกข์ขึ้นมา มันหลงยินร้ายให้รู้ทัน หรือภาวนาเจริญสตินะ สติเกิดถี่ยิบเลย พอใจรู้ทัน ช่วงนี้สติไม่เกิดเลยสติแตก เสื่อมไปกรรมฐานเสื่อม เสียใจกลุ่มใจทุรนทุราย รู้ทันลงไปว่าไม่พอใจอยู่ เนี่ย ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นนะรู้ลงไปที่ใจของเรา

เบื้องต้นแค่เห็นสภาวะก่อน เช่นร่างกายเคลื่อนไหวรู้สึก จิตใจเคลื่อนไหวรู้สึก โลภโกรธหลงเกิดขึ้นก็รู้อะไรรู้ ถ้ารู้แล้วนะต่อไปก็ลึกซึ้งขึ้นมาอีก สังเกตเข้ามาถึงจิตถึงใจ มันจะเข้ามาสังเกตได้เองแหล่ะ อย่าจงใจสังเกตนะ มันจะเห็นความยินดียินร้ายที่เกิดขึ้น

งั้นเบื้องต้นรู้สภาวะนะ ถัดมาก็รู้ความยินดียินร้ายต่อสภาวะนั้น เมื่อเรารู้ความยินดียินร้ายต่อสภาวะนั้น ความยินดียินร้ายจะดับไป ใจก็เป็นกลางขึ้นชั่วขณะ ก็ไปรู้สภาวะอีก ก็หลงยินดียินร้ายอีก รู้ทันความยินดียินร้ายอีกนะ ความยินดียินร้ายดับอีกชั่วขณะ เดี๋ยวกระทบอารมณ์ก็เกิดอีก เกิดไปจนวันนึงปัญญามันแจ้งขึ้นมาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เป็นไตรลักษณ์ เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา คราวนี้มันจะไม่ยินดียินร้ายของมันเองแล้ว

เบื้องต้นไม่ยินดียินร้ายเข้าไปรู้ทันความยินดียินร้ายเข้าเราจะได้ไม่ปรุงนาน พอฝึกมากเข้ามากเข้าเนี่ย มันเข้าใจความเป็นจริงของสังขารคือความปรุงแต่งทั้งปวง ทั้งรูปธรรมทั้งนามธรรม ทั้งกายทั้งใจ เข้าใจแล้วว่ามันไม่เที่ยงมันเป็นทุกข์เป็นอนัตตา มันจะหมดความยินดียินร้ายไปเอง นี่เป็นการที่มันเข้าถึงความยินดียินร้ายด้วยปัญญา ไม่ใช่ด้วยสติ

เบื้องต้นรู้ด้วยสตินะ เห็นจิตมันยินดีก็รู้ อย่างไปเห็นสาวสวยใจมันชอบนะ เราเห็นลงไปรู้ทันความชอบนี้ ใจไม่ชอบอีกแล้วอยากให้หายราคะ อยากให้หาย รู้ทันลงไปที่ความอยากให้ราคะดับอีกมันยินร้ายอีกแล้ว ถ้ารู้อย่างนี้นะอย่างนี้เรียกว่ารู้ด้วยสติ รู้ไปเรื่อยๆ ทันทีที่รู้ด้วยสตินะ ความยินดียินร้ายก็ดับ แต่ดับชั่วคราว ต่อไปพอซ้ำแล้วซ้ำอีก เห็นสภาวะเกิดดับไปเรื่อยๆ เห็นเป็นไตรลักษณ์ไปเรื่อย ต่อไปก็รู้ด้วยปัญญา เห็นว่าทุกอย่างเป็นของชั่วคราว ไม่รู้จะยินดีไปทำไม ไม่รู้จะยินร้ายไปทำไม อย่างนี้รู้ด้วยปัญญา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๑ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๗
Track: ๑๐
File: 511108A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๘ วินาทีที่ ๒๙ ถึง นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๕๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

V-Clip : การวัดความก้าวหน้าในการภาวนา

การวัดความก้าวหน้าในการภาวนา

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนาสู้กับความหลงผิดของตัวเอง

mp 3 (for download) : การภาวนาสู้กับความหลงผิดของตัวเอง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

การภาวนาสู้กับความหลงผิดของตัวเอง

การภาวนาสู้กับความหลงผิดของตัวเอง

หลวงพ่อปราโมทย์ : มันยากตรงไหน มันยากตรงที่มันฝืน มันฝืนความรู้สึกนะ เราตั้งแต่เกิดมาเนี่ยเราคุ้นเคยที่จะส่งจิตออกนอก คุ้นเคยที่จะไปดูคนอื่น ไม่คุ้นเคยที่จะดูตัวเอง คุ้นเคยที่จะหลงอยู่ในโลกของความคิด ไม่เคยคุ้นเคยที่จะรู้สึกตัว คุ้นเคยที่จะออกนอกตลอดเวลา

แล้วก็พอลงมือปฏิบัติก็คุ้นเคยที่จะบังคับเพ่งกายเพ่งใจ เรียกคุ้นกับอัตตกิลมถานุโยค ไม่คุ้นกับการรู้ ไม่คุ้นกับการรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริง พอไปรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริงมันก็ฝืนใจอีกนะ ฝืนใจอีกเพราะว่ามันเสียดาย มันเคยมีตัวเราตัวเราหายไป เนี่ยไปๆมาๆไม่ได้สู้กับคนอื่นเลย สู้กับตัวเองทั้งสิ้นเลย

งั้นการภาวนาไม่ต้องแข่งกับคนอื่น มีเพื่อนภาวนาแล้วทำให้คึกคักนะแต่อย่าแข่งกับเพื่อนเลย คนไหนคิดจะแข่งกับคนอื่นไปไม่รอดหรอก เพราะว่ามันกิเลสทั้งนั้นเลย ภาวนาเราก็สู้กับความหลงผิดของตัวเอง มันหลงผิดนะ มันต้องค่อยๆศึกษาไปจนจิตมันทวนกระแส ทวนกระแสของโลกนะ มันมีแต่ไหลออกไปข้างนอกนะ เราทวนกระแส เราย้อนกลับเข้ามารู้กายรู้ใจตัวเอง

โลกมันชอบพาไปดูอย่างอื่น เราก็จะมาดูกายดูใจตัวเอง โลกมันชอบลากไปอดีตลากไปอนาคต เราจะอยู่กับปัจจุบัน รู้ปัจจุบัน นี่มันฝืนทั้งสิ้นเลย ถ้าฝืนใจจงใจฝืนก็ไม่ใช่อีกแล้วใช่มั้ย ไม่ใช่การรู้

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๑ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๗
Track: ๑๐
File: 511108A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๓ วินาทีที่ ๕๖ ถึง นาทีที่ ๒๕ วินาทีที่ ๒๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 3 of 41234