ทุกข์มี 3 อย่าง
ร่ำเรียนมาได้ความว่า … “ทุกข์” มีสามอย่าง
(ไม่ทราบว่าจะมีมากกว่านี้หรือเปล่า)
.
อย่างแรก “ทุกขเวทนา” ทุกข์ทางกายทางใจ
ทุกขเวทนาทางกาย เช่นกายมีความเจ็บ ปวด เมื่อย
ทุกขเวทนาทางใจ เช่นใจมีความเศร้าโศก เสียใจ ฯลฯ
ทุกขเวทนาแบบนี้แม้คนที่ไม่ภาวนาก็เห็นได้เหมือนๆกัน
.
อย่างที่สองคือ “ทุกขัง” เป็นทุกข์
เป็นลักษณะของความถูกบีบคั้นให้ทนอยู่ไม่ได้
ทุกข์แบบนี้จะเห็นได้ต้องหัดเจริญปัญญาเท่านั้น
ถ้าเห็นความเป็นทุกข์นี้ได้ก็จะเกิดปัญญา (เห็นไตรลักษณ์)
ปล่อยวางความยึดถือกายได้ ปล่อยวางความยึดถือจิตได้
.
อย่างที่สามคือ “ทุกขสัจ” หรือ “ทุกขอริยสัจ”
คือทุกข์ที่เป็นชาติ ชรา มรณะ
โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ (ทุกขเวทนา) โทมนัส อุปายาส
ความไม่ประจวบกับสิ่งที่รัก ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก
ปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้
สรุปโดยรวมหรือโดยย่อคือ อุปาทานขันธ์
อุปาทานขันธ์นี้ เรียกง่ายๆ ก็คือกายกับจิตนี่เองที่เป็นตัวทุกข์
เป็นที่ตั้งของอุปาทาน (เป็นที่ตั้งความยึดมั่นถือมั่น)
.
ชาวพุทธจะมีเป้าหมายอยู่ที่ ความพ้นทุกข์
ซึ่งจะพ้นทุกข์ได้ ก็ต้องหัดรู้หัดดูทุกข์ให้ถูกให้เป็นกันก่อน
การหัดรู้หัดดูทุกข์เพื่อให้พ้นทุกข์ ก็คือ
ให้หัดรู้หัดดูกาย เวทนา จิต ดูธรรม (ที่เป็นสติปัฏฐานสี่)
ตามที่จะเห็นอะไรได้ชัดในขณะปัจจุบัน
การหัดรู้หัดดูกาย เวทนา จิต ธรรม
ไปตามที่จะเห็นได้ชัดในขณะปัจจุบันนี่แหละ
คือการ หัดรู้ทุกขอริยสัจ เมื่อรู้จนเกิดปัญญา
เห็นแจ้งความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้
เห็นขันธ์เป็นตัวทุกข์ได้
ก็จะปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าลงได้.
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่
(Visited 369 times, 1 visits today)