mp 3 (for download) : ศีลทำให้กายวาจาเรียบร้อยตามธรรมชาติของแต่ละคน
Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.
หลวงพ่อปราโมทย์ : คอยรู้ทันกิเลสไปเรื่อยๆ ทีแรกก็จะได้ศีลได้สมาธินะ แล้วค่อยได้ปัญญา ต่อไปค่อยๆฝึกนะ ปัญญาเป็นตัวความเข้าใจ ถ้าเรามีศีลนะ กายวาจาของเราจะเรียบร้อย ยกเว้นแต่จะมีวาสนาในทางกระโดกกระเดก ถ้ามีวาสนาทางกระโดกกระเดกนะ ถึงมีศีล กายวาจามันก็กระโดกกระเดก เป็นธรรมชาติอย่างนั้นนะ
อย่างพระอรหันต์บางองค์ไม่เรียบร้อยหรอก ไม่ได้เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ องค์หนึ่งที่เป็นตัวอย่างก็คือพระสารีบุตร พระอรหันต์เบอร์หนึ่งเลย นัมเบอร์วัน นัมเบอร์วันเองเป็นคนวึบวับๆ คล่องแคล่วว่องไวมากเลย ยกตัวอย่างเดินไปเจอท้องร่อง กระโดด ไม่ไปยืนพิจารณา “ท้องร่องหนอ” “ท้องร่องหนอ” สามทีแล้วก็ “อยากข้ามหนอ” “อยากข้ามหนอ” แล้วโอ้ย.. ไปฉันเพลไม่ทันหรอก อย่างนั้นน่ะ นิมนต์ไปฉัน ฉันไม่ทันหรอกนะ เจอท้องร่อง ท่านกระโดดข้ามเลยนะ
หรือวันหนึ่งท่านจะไปลาพระพุทธเจ้า จะออกไป จาริกไปต่างเมือง เป็นธรรมเนียมเวลาพระโมคคลา-สารีบุตร จะออกเดินทางไกล พระพุทธเจ้าท่านจะให้พระไปส่ง ไปลา เผื่อท่านจะให้ธรรมะเด็ดๆ ท่านมักจะแจกการบ้านก่อนที่ท่านจะไป อะไรอย่างนี้
พระสารีบุตรนะ เห็นว่ามีพระมาหลายองค์ เยอะแยะนะ ท่านก็ทักองค์นั้นองค์นี้นะ พาดสังฆาฏิไว้นะ หมุนตัวไป หมุนตัวมา ชายสังฆาฏิของท่านไปกระทบเอาพระองค์หนึ่งเข้า พระองค์นั้นเป็นพระเซลฟ์จัด ท่านคิดว่าพระสารีบุตรต้องคุยกับท่านบ้าง ปรากฎว่าพระสารีบุตรไม่ได้คุยด้วย เพราะพระที่ท่านต้องคุยด้วยนี้เยอะ แต่องค์นี้ท่านก็ถือว่าท่านมีชื่อเสียง แต่ว่าจริงๆมีกิเลส ชายสังฆาฎิไปถูกท่านนะ ท่านรีบกลับมาฟ้องพระพุทธเจ้าเลย “พระสารีบุตรประหารข้าพระองค์” ประหารเนี่ย ภาษาแขกแปลว่า “ตี” ถือตัวว่าเป็นอัครสาวก ข้าพระองค์ไปส่งดีๆกลับมาตีข้าพระองค์ ประหารข้าพระองค์
พระพุทธเจ้ารู้ว่าไม่จริงหรอก แต่ว่าสอบสวนให้เสียหน่อย จะได้ให้สังคมรู้นะ ไม่งั้นจะเที่ยวพูดไปเรื่อยว่าพระสารีบุตรตีเอา เรียกพระสารีบุตรกลับมาสอบสวนนะ พระสารีบุตรท่านบอกเลย จิตท่านมันเหมือนแผ่นดินนะ จิตเหมือนน้ำ เหมือนลม เหมือนไฟ นะ เป็นกลางต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้มีราคะ ไม่ได้มีโทสะ ไม่มีเจตนาจะทำร้ายอะไร ตัวท่านก็ไม่ได้ถือว่าท่านเป็น เอตทัคคะ เป็นอัครสาวก อะไรอย่างนี้ ไม่ได้ถือตัวอย่างนั้น มีความรู้สึกนะ ไปไหนมาไหนมีความรู้สึกอ่อนน้อม อ่อนโยน เหมือนตนเองเป็นจัณฑาลคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไปไหนก็อ่อนน้อมไปเรื่อยๆ ไม่เคยคิดจะทำร้ายใครเลย
นี่ขนาดว่าท่านเป็นคนอ่อนน้อมนะ เป็นคนกตัญญูนะ แต่ท่านกระโดกกระเดกน่ะ อันนี้น่ะห้ามไม่ได้หรอก แต่ถ้าเรามีศีลนะ กิเลสชั่วหยาบไม่กระทบ กายวาจาเรียบร้อย แต่เรียบร้อยตามสไตล์ของแต่ละคน เราเรียบร้อยได้แค่นี้แหละ มันก็ได้แค่นี้แหละ
เพราะฉะนั้น ยกตัวอย่างเรามีสติรู้ทันนะ กิเลสหยาบครอบงำจิตไม่ได้ ราคะ โทสะ ไม่เกิดนะ แต่วาสนามันเป็นมาอย่างไร มันก็เป็นไปอย่างนั้นล่ะ แก้ไม่ได้หรอก และถ้าเรามีกิเลสแล้วมีสติเร็วขึ้นนะ เรารู้ทันกิเลสระดับกลางได้ สมาธิจะเกิด ใจจะเรียบร้อย ถ้าศีลเกิดเนี่ย กายวาจาเรียบร้อย แต่เรียบร้อยตามสไตล์ของแต่ละคน ถ้าสมาธิเกิดนะ มีสติรู้ทันจิตที่ฟุ้ง จิตที่ฟุ้งไปนะ รู้ทัน จิตก็ตั้งมั่นขึ้นมา ใจจะเรียบร้อย ใจจะสบาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานขึ้นมา
เพราะฉะนั้นศีลทำให้กายวาจาเรียบร้อย สมาธิทำให้ใจเรียบร้อย ปัญญานั้นทำให้ใจฉลาด
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันจันทร์ที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ก่อนฉันเช้า
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๓
Track: ๒
File: 541205.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๐ วินาทีที่ ๔๘ ถึง นาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๔๑
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่