mp 3 (for download) : ตัวรู้มาได้ ๒ วิธี
Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.
หลวงพ่อปราโมทย์ : หรือจิตอยู่ในความคิด คิดอย่างนี้ เราจงใจคิดเลย สวดบท บทสวดมนต์นะ “พุทโธ สุสุทฺโธ กรุณา มหณฺณโว…” พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ มีพระกรุณาดังห้วงมหรรณพ สวดบทมนต์ สวดมนต์นะ ให้เห็นความคิดน่ะเลื้อยขึ้นมา ไหลวืบ..ขึ้นมาจากความว่างๆ
ทันทีที่สติระลึกรู้ความคิดที่ผุดขึ้น ความคิดขาดสะบั้นลงไป ตัวรู้ก็โผล่ขึ้นมา ตรงที่เรารู้ทันจิตที่คิดนะ จิตรู้ก็เกิด บอกว่าเอ๊ะ!ตัวนี้ เมื่อก่อนนั่งสมาธิก็ไอ้ตัวนี้แหละ มันมาชนกันตรงนี้แหละ ตอนที่นั่งสมาธิมาแต่เด็ก ๒๒ ปี ที่นั่งสมาธิ ก็ได้ตัวรู้มา หลวงปู่บอกให้ดูจิตนะ พอมาหัดแยกขันธ์ไปเรื่อย แยกๆ แยกเข้ามาที่ตัวรู้ ตัวจิตนี้เอง อ้าวมันตัวเดิมนี่ มันตัวเดียวกัน ก็เลยรู้นะ ตัวรู้มาได้ ๒ วิธี มาด้วยการทำสมาธิลึกๆเลยก็ได้ มาด้วยการมีสติรู้ทันจิตที่หลงไปคิดก็ได้ ได้ตัวรู้เหมือนกัน
แต่ตัวรู้ที่เกิดจากการนั่งสมาธิจะทรงนานอยู่หลายวัน ตัวรู้ที่เกิดจากการมีสติไประลึกรู้จิตที่หลงไปคิดนี้ ตัวรู้จะอยู่เป็นขณะๆ ถ้าเราทำตัวรู้ได้แบบใดได้ ก็ใช้ได้ทั้งคู่ ถ้าตัวรู้ได้มาจากการทำสมาธิมา ตัวรู้อยู่นาน จะเห็นกาย เห็นเวทนา เห็นจิต เห็นธรรม ทำงานอยู่ได้นาน แต่ถ้าตัวรู้ หากเราทำสมาธิไม่ได้ เรารู้ทันจิตที่หลงไปคิดนะ ได้ตัวรู้ขึ้นมา ตัวรู้จะอยู่ชั่วคราว แป๊บเดียวก็จะเป็นตัวหลงอีก เดี๋ยวเป็นตัวรู้เดี๋ยวเป็นตัวหลง เดี๋ยวเป็นตัวรู้เดี่ยวเป็นตัวหลง อันนี้ก็ไปเดินปัญญาได้
เดินปัญญาได้ เวลามันรู้ขึ้นมาเนี่ย บางทีก็เห็นกาย จะรู้สึกทันทีว่า กายไม่ใช่เรา พอตัวรู้เกิดขึ้น สติระลึกรู้เวทนา มันจะเห็นว่าความสุขความทุกข์ไม่ใช่ตัวเรา ตัวรู้เกิดขึ้น สติไประลึกรู้สังขาร เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง สังขารคือความปรุงแต่งของจิต เช่น ความโกรธ ความโลภ ความหลง อะไรเกิดขึ้นนะ จิตเป็นตัวรู้ มันจะเห็นเลย ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่ใช่จิตหรอก ไม่ใช่คนด้วย ไม่ใช่สัตว์ด้วย ไม่ใช่ตัวเราด้วย แล้วตัวรู้เองก็เกิดดับ เดี๋ยวก็เป็นตัวรู้ เดี๋ยวก็เป็นตัวคิด เดี๋ยวก็เป็นตัวรู้ เดี๋ยวก็เป็นตัวคิด
ตรงนี้ถ้าจะเดินปัญญานะ ตัวรู้ชั่วขณะนี้ วิเศษกว่าตัวรู้ที่ยาวๆนั่นเสียอีก ตัวรู้ยาวๆนี่เอาไว้เดินปัญญาในฌาน หรือในอุปจารสมาธิ ออกจากฌานออกจากอุปจาระแล้ว ทรงอยู่ได้ เดินปัญญา เห็นทุกอย่างเกิดดับหมดเลย ยกเว้นตัวรู้ ต้องมาจัดการตัวรู้ทีหลัง
แต่ถ้าเราใช้วิธี เรารู้ทันจิตที่หลงไปคิด จะได้ตัวรู้ขึ้นมา ตัวรู้นี้อายุสั้น มันจะเห็นตัวรู้เกิดดับ เนี่ยได้เปรียบตรงนี้นะ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าขณิกสมาธิสู้อัปนาสมาธิไม่ได้นะ ดีไม่ดีบรรลุพระอรหันต์ก่อนอีก พวกที่ทำสมาธิมา มักจะคิดว่าจิตเที่ยง ตัวรู้เที่ยง นี่เป็นพวกมิจฉาทิฎฐิโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นมิจฉาทิฎฐิ จริงๆจิตนั้นเกิดดับตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถ้าเรารู้ทันจิตที่หลงไปคิด จิตรู้ก็เกิด จิตรู้อยู่ชั่วคราว จิตก็หลงไปคิดใหม่ จิตรู้ก็ดับ ก็เห็นจิตรู้เกิดดับได้อีก ก็เห็นจิตไม่ใช่ตัวเรา
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันเสาร์ที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕ ก่อนฉันเช้า
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๕
Track: ๑
File: 550414.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๘ วินาทีที่ ๗ ถึง นาทีที่ ๑๑ วินาทีที่ ๕๔
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่