การปฎิบัติธรรมที่แท้จริง มีแต่เรื่องจิตกับอารมณ์
อันที่จริงการปฏิบัติตลอดสาย ก็มีแต่เรื่องจิตกับอารมณ์(สภาวะที่ถูกรู้หรือถูกรับรู้- ผู้เรียบเรียง)นั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นหมวดกาย ก็คือกายกับจิต
หมวดเวทนา ก็คือเวทนากับจิต
หมวดจิต ก็คือจิต(สังขาร)กับจิต
และหมวดธรรม ก็คือธรรมกับจิต
ถ้าปราศจากจิตเสียแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติธรรม
และไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ด้วย
จิตนั้นแหละเป็นผู้เข้าไปยึดไปถืออารมณ์
แล้วเกิดความเป็นตัวเราและของเราขึ้นมา
หนทางแห่งทุกข์ก็เกิดขึ้นด้วยเหตุนี้
การปฏิบัติที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก
เป็นแค่การให้จิตได้เรียนรู้ความจริง
จนถอดถอนตนเองออกจากอารมณ์ที่จิตไปยึดเข้า
และเมื่อถอดถอนได้หมดจดจริงๆ
ความเป็นตัวตนของจิตก็หมดไปด้วย
จึงไม่มีผู้ทุกข์ ผู้เกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไป
มีแต่ธาตุขันธ์ที่ทำหน้าที่ไปจนกว่าจะหมดแรงส่งของวิบากกรรม
การที่เราพูดกันเรื่องการ ดูจิตๆ นั้น
เอาเข้าจริงจะว่าครอบคลุมการเจริญสติปัฏฐานทั้ง 4 ก็ว่าได้
เพราะจิตนั้นเองไปยึดกาย เวทนา จิต ธรรม
เราจึงต้องรู้จักจิต ทำจิตให้เป็นธรรมเอก
คือตั้งมั่น สงบ อ่อน ควรแก่การงาน สะอาด
แล้วเจริญสติสัมปชัญญะ เรียนรู้ความสัมผัสสัมพันธ์ระหว่างจิตกับอารมณ์
ก็จะรู้ธรรมชาติของอารมณ์ว่า ล้วนแต่เกิดแล้วดับทั้งสิ้น (รู้ไตรลักษณ์)
รวมทั้งจะรู้ธรรมชาติของจิตว่า
ถ้าอยากถ้ายึดอารมณ์เมื่อใด ก็ทุกข์เมื่อนั้น (รู้อริยสัจจ์)
ทั้งตัวจิตเองเมื่อปราศจากการปรุงแต่งของอารมณ์
จิตก็ไม่ใช่ตัวเราของเรา ตกอยู่ใต้อนัตตาเช่นเดียวกับอารมณ์นั่นเอง
เมื่อจิตรู้จริงเห็นจริงอย่างนี้แล้ว
จิตก็คลายความยึดถือ ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจชักนำของกิเลส
แล้วปล่อยวางกายและจิต สลัดคืนให้ธรรมชาติไป
ธรรมะเป็นเรื่องเปิดเผย และตรงไปตรงมาอย่างนี้แหละครับ
โดย คุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน ศุกร์ ที่ 17 มีนาคม 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่