Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : เริ่มจากรู้รูปนาม สู่โสดาบัน จนทำลายผู้รู้


เริ่มจากรู้รูปนาม สู่โสดาบัน จนทำลายผู้รู้

 ในชั้นเริ่มแรกเราไม่สามารถเห็นรูปนามทุกขณะจิตได้หรอกครับ
เอาแค่ว่าให้รู้ว่าอันไหนรูป อันไหนนาม
ส่วนนามก็รู้ว่า จิตกับเจตสิกธรรมมันต่างกัน ทำหน้าที่ต่างกัน
ถ้าจำแนกจิตกับเจตสิกอันเป็นธรรมต่างกันที่เกิดดับด้วยกันได้
แล้วระลึกรู้กาย เวทนา จิต ธรรม
จะพบว่าไม่มี ความเป็นตัวเรา ในสิ่งที่ถูกรู้เลย
กายก็เป็นเพียงก้อนธาตุ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นสิ่งเกิดๆ ดับๆ
ตัวของมันโดดๆ ไม่มีการประกาศว่าเป็นตัวตนเลย
แต่เมื่อใดธรรมเหล่านี้สมคบทำงานร่วมกัน
ความเห็นว่าเป็นตัวเรา ก็จะเกิดขึ้น
เพราะเกิดจากจิตไปหลงตามความคิดปรุงแต่งเท่านั้นเอง

เมื่อจิตเห็นความไม่มีตัวตนมากเข้าๆ
ถึงจุดหนึ่งจิตก็จะตัดสินด้วยปัญญา
สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลลพพตปรามาส ก็จะขาดไปพร้อมกัน

แม้ในขั้นที่เป็นพระโสดาบันแล้ว
จิตก็ยังไม่มีความสามารถที่จะรู้ความเกิดดับได้ทุกขณะจิต
ก็ต้องเพียรรู้ความเกิดดับนั้นต่อไป
จะรู้ได้มากขึ้น ละเอียดขึ้นเป็นลำดับๆ ไป
ในขณะที่เผลอสตินั้น จิตจะยึดว่าจิตเป็นตัวตน
แต่ถ้ามีสติเมื่อใด มองดูสิ่งใดสิ่งนั้นก็ไม่เป็นตัวตน

จิตจึงค่อยเรียนรู้ไปตามลำดับว่า ความยึดว่าจิตเป็นตัวตน ยังมีอยู่
แต่ความเห็นว่า จิตเป็นตัวตน ไม่มีอยู่
และไม่ว่าจะมองอย่างไร จิตก็ยังเป็นจิตอยู่นั่นเอง

ปฏิบัติมากเข้าๆ ก็เริ่มจะเห็นร่องรอยอะไรบางอย่างว่า
ที่จริงจิตที่เราเรียกว่า จิตผู้รู้ (หรือธรรมอันเอกเป็นเครื่องมือที่ใช้มานั้น) ก็ไม่ใช่จิต
แต่มันเป็นเพียงสภาวะอันเกิดจากการประชุมกันของนามขันธ์
คือเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ เท่านั้น
นามขันธ์ต่างก็ทำหน้าที่ประกอบกัน จนรู้สึกเกิดเป็น”จิตผู้รู้” ขึ้นมา
(เหมือนธาตุ 4 ประชุมกันแล้วมีสัญญาหมายรู้ว่าเป็น “กาย” ขึ้นมา)
แท้จริง จิตก็ไม่ใช่จิต ความยึดในจิตก็จะดับสลายไป
เพราะเห็นแล้วว่า จิตผู้รู้ที่เรายึดว่าเป็น จิตเรา นั้น
คือการประชุมกันของนามขันธ์ เท่านั้นเอง
อันนี้ เป็นการกระจายนามขันธ์ชั้นในสุดออกอีกทีหนึ่ง เพื่อทำลายอุปาทานในจิต

ที่เล่าก็เพราะต้องการบอกว่า
เมื่อใช้ จิตผู้รู้ ในการไปรู้ความเกิดดับของรูปนามมากพอแล้ว
จนจิตมีแต่ว่าอิ่มตัว รู้ สงบ เบิกบาน ผ่องใส เต็มที่แล้ว
ก็ถึงเวลาจะต้องทำลาย จิตผู้รู้ทิ้ง ต่อไป
อย่ายึดตัว จิตผู้รู้ เอาไว้อีก
แต่ตอนนี้ อย่าเพิ่งให้ความคิดล้ำหน้า
ไปทิ้งเรือเสียก่อนจะถึงฝั่งนะครับ

โดย คุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 762 times, 1 visits today)

Comments are closed.