mp 3 (for download) : ถ้าไม่รู้แจ้งอริยสัจจ์ ก็ยังไม่ปล่อยวาง
Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.
หลวงพ่อปราโมทย์ : ใจลึกๆมันจะรู้สึกอยู่ตลอดเลยว่า อะไรน้อ..ที่ยังไม่รู้ มีสิ่งบางสิ่งที่ยังไม่รู้อยู่ เพราะไม่รู้สิ่งนี้แหละ จิตถึงไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ลึกๆมันจะรู้สึกอย่างนี้อยู่ตลอดนะ
ภาวนาบางวัน บางครั้งบางคราว จิตปล่อยวางจิต พอจิตปล่อยวางจิตเสร็จแล้วไม่นานนะ ก็ไปหยิบฉวยจิตขึ้นมาดูต่อ เมื่อไหร่จะวางได้ ยกตัวอย่างไปหยิบพัดนี่ขึ้นมา แล้วก็มาคร่ำครวญ เมื่อไหร่จะวางได้ ทำยังไง(วะ)จะวางได้ น่ะ เนี่ย มันโง่อยู่อย่างนี้ มันโง่อยู่อย่างนี้ โอ๊ย..มันยากนะ กว่ามันจะเข้าใจ กว่าจะรู้นะว่าไม่รู้อะไรทำให้ไม่วาง ไม่รู้แจ้งอริยสัจจ์ ความไม่รู้แจ้งอริยสัจจ์นั่นแหละ เรียกว่าอวิชา
เพราะฉะนั้นทางที่จะหลุดพ้นนะ ก็คือ ต้องทำวิชาให้เกิด อวิชาก็จะดับไป วิชาคือความรู้แจ้งอริยสัจจ์ ข้อที่ ๑ รู้ทุกข์ ทุกข์คือกายกับใจ รูปกับนาม หน้าที่ของเราต้องรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริงเรื่อยไป การภาวนามีเท่านี้เอง การทำวิปัสสนากรรมฐานก็คือ การที่มีสติรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริง เห็นไตรลักษณ์ของกายของใจ ความจริงก็คือไตรลักษณ์นั่นเอง ดูอย่างนี้เรื่อยไป
พอมันรู้แจ้งนะ กายกับใจเป็นไตรลักษณ์แจ่มแจ้ง เรียกว่ารู้ทุกข์แจ้ง ทุกข์ล้วนๆเลยไม่เห็นดีวิเศษอะไรเลย จิตจะสลัดคืนกายคืนใจให้โลก หมดความยึดถือกายยึดถือใจ พอไม่ยึดถือกายไม่ยึดถือใจปั๊บนะ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ สมุทัยจะถูกละอัตโนมัติ ตัณหาจะไม่มีอีกแล้ว
ตัณหามันคือความอยากให้กายให้ใจเป็นสุข อยากให้กายให้ใจพ้นทุกข์ พอไม่ยึดกายไม่ยึดใจก็ไม่มีความอยากที่จะให้มันเป็นสุข ไม่มีความอยากให้มันพ้นทุกข์นะ ตัณหาไม่มี เมื่อตัณหาไม่มี ตัณหาไม่เกิด ตัณหาดับสนิทไม่มีอีกแล้วนะ นิโรธคือนิพพานก็ปรากฎ พระนิพพานคือความสิ้นตัณหา ขณะจิตที่รู้แจ้งนิพพานนั้นแหละ รู้ทุกข์ ละสมุทัย แจ้งนิพพานขึ้นมา ขณะนั้นแหละคือการเกิดอริยมรรคนะ
เส้นทางเดินของพระอริยะทั้งหลายท่านก็เดินอย่างนี้นะ ไม่เผลอไม่เพ่ง รู้กายรู้ใจไป ไม่ไปหลงติดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง คอยรู้เรื่อยๆไป วันหนึ่งก็ถึง เกิดความเข้าใจความเป็นจริงของกายของใจก็วาง รู้ตามความเป็นจริงจึงเบื่อหน่าย เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัดจึงหลุดพ้น หลุดพ้นก็จะรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์คือการประพฤติปฏิบัติจบแล้ว กิจที่ควรทำ-ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นที่จะทำเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้นไม่มีอีกแล้ว งานในทางศาสนาพุทธเป็นงานที่มีเวลาสิ้นสุด ไม่เหมือนงานในโลกที่ไม่มีวันสิ้นสุดนะ
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันศุกร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ก่อนฉันเช้า
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๑
Track: ๙
File: 520731A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๘ วินาทีที่ ๕๘ ถึง นาทีที่ ๓๑ วินาทีที่ ๔๘
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่