ธรรมแท้ ธรรมเทียม
ธรรมของจริง หรือธรรมของปลอม ก็เป็นเพียงสิ่งที่ถูกรู้เหมือนๆ กันครับ
เพราะเราปฏิบัติ ไม่ใช่เพื่อ “เอา” แต่เพื่อละเพื่อวาง
จริง – ปลอม ดี- ชั่ว ถูก – ผิด และธรรมที่เป็นคู่ๆ ทั้งหลาย
มันเป็นเรื่องของโลก เป็นของประจำโลก
ให้สักแต่ว่ารู้ ว่าเห็นไปเท่านั้นเอง
ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และรู้ด้วยความเป็นกลาง
เพราะสังขารธรรมทั้งปวงนั้น ล้วนแสดงธรรมบทเดียวกัน
คือแสดงไตรลักษณ์เหมือนๆ กัน
รู้แล้วก็วางเสีย ไม่ใช่รู้เพื่อยึดถือเอา
เมื่อไม่กี่วันนี้ มีผู้หนึ่งถามผมว่า นั่งภาวนาแล้วเห็นภูติผีมาปรากฏ
เขาสงสัยว่าผีจริง หรือผีปลอมกันแน่
ผมก็แนะเขาไปว่า ผีจริง มันมาแล้วมันก็ไป ผีปลอม มันมาแล้วมันก็ไป
จริง กับ ปลอม จะมีความสำคัญอะไร
ที่สำคัญคือ เมื่อเจอผีนั้นแล้ว จิตเป็นอย่างไรต่างหาก
ความจริงธรรมจะแท้ หรือธรรมจะเทียมคือจิตหลอนเอานั้น
มีหลักสังเกตไม่ยากหรอกครับ
ธรรมใดเป็นไปเพื่อความยึดถือ ธรรมนั้นไม่ใช่ธรรมแท้ของพระพุทธเจ้า
ธรรมใดเป็นธรรมเพื่อคลายความกำหนัดยินดี คลายความยึดถือ
อันนั้นเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า
ผู้ปฏิบัติแล้วเกิดความเห็นผิดต่างๆ นั้น
มานะอัตตากิเลสตัณหาเขาจะยิ่งรุนแรงกว่าเดิม
ถ้าปฏิบัติถูก รู้ของจริง ก็จะเป็นตรงกันข้าม
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2542 / 20:45:08 น.
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่