ชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ
ในโลกไม่ได้มีแต่สิ่งที่เราชอบเท่านั้น
อีกทั้งสรรพสิ่งที่เราไปรู้ไปเห็นมันเข้า
ไม่ว่าจะเป็นที่ตามองเห็นได้ ที่หูได้ยิน ที่จมูกได้กลิ่น
ที่ลิ้นได้รส ที่กายสัมผัสได้ และที่ใจรู้สึกได้
สรรพสิ่งเหล่านี้ส่วนมากแล้วเราจะไม่ชอบมันหรอก
เมื่อโลกเป็นอยู่อย่างนี้
จิตใจเราก็จะเกิดความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ อยู่เตลอดทั้งวัน
ถ้าเรารู้จักที่จะใช้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้
มาเป็นเครื่องมือฝึกจิตใจตัวเองตามวิถีแห่งความรู้แจ้ง
เราก็จะสามารถฝึกจิตใจตัวเองให้รู้แจ้งกันได้
วิธีการฝึกก็ไม่มีอะไรยุ่งยากสักนิด
เพราะเพียงแค่เรามาใส่ใจที่จะรู้ว่าชอบ รู้ว่าไม่ชอบ รู้สึกว่าเฉยๆ
เราก็จะสามารถรู้สึกได้
ถึงความมีอยู่ของความชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ ที่เกิดขึ้น
แล้วเราก็แค่หัด ดูจิตใจที่กำลังชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ นั้นไป
ดูแบบรู้สึกว่ามันกำลังถูกเราสังเกตดูอยู่
เมื่อรู้ว่ามันมีอยู่ก็แค่รู้ว่ามีอยู่ ไม่ต้องทำอะไรกับมัน
มันจะชอบ/ไม่ชอบมากน้อย ชอบ/ไม่ชอบใคร อะไร อย่างไร
ก็เป็นเรื่องของมัน เรื่องเราก็คือ แค่รู้แค่ดูมันอยู่เท่านั้นเอง
อย่างเวลาที่เราผู้ไม่มีความรู้เรื่องงานศิลปอะไร
พอตาเราไปเห็นภาพวาดสักภาพหนึ่ง
แทนที่เราจะไปสนใจว่าภาพนี้ใครวาด วาดด้วยเทคนิคอะไร
แทนที่เราจะไปสนใจว่าภาพนี้ชื่อว่าอะไร ภาพนี้สื่อถึงอะไร
ก็ให้เรามาใส่ใจกับตัวเองว่า
จิตใจเรารู้สึกอย่างไร ชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ
เพียงเท่านี้เราก็กำลังฝึกสติอยู่ ฝึกทำความรู้สึกตัวอยู่
เมื่อเราฝึกสติ ฝึกทำความรู้สึกตัวได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
จิตใจก็จะค่อยๆพัฒนาเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ได้เป็นส่วนหนึ่งพุทธบริษัทที่จะพ้นทุกข์ได้ในวันข้างหน้าเป็นแน่
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่