ขาดสติ ขาดปัญญา
เรื่องการขาดสติปัญญาในการปฏิบัติธรรมนั้น
ผมหมายถึงขาด(สัมมา)สติ และขาดปัญญาในการปฏิบัติธรรมครับ
เรื่องขาดสตินั้น จะเห็นได้ว่าผู้ปฏิบัติจำนวนมากนั้น
ปฏิบัติธรรมด้วยการเพ่งจ้องบังคับจิตและบังคับอารมณ์
บังคับจิต โดยมุ่งจะให้จิตสงบ ไม่ใช่เพื่อรู้เห็นตามความเป็นจริง
บังคับอารมณ์คือจะขจัดอารมณ์ที่ไม่ดี จะเอา อารมณ์ที่ดี
จึงไม่ใช่การมีสติระลึกรู้อารมณ์อย่างเป็นกลาง เป็นปัจจุบัน ตามความเป็นจริง
ส่วนขาดปัญญานั้นมีหลายลักษณะ
เช่นขาดความเข้าใจในกฏของอริยสัจจ์
แทนที่จะรู้ทุกข์ และละสมุทัย(ตัณหา-ความอยาก)
กลับมีสมุทัย(อยาก) ที่จะละทุกข์
การปฏิบัติจึงไม่เคยเข้าข่าย รู้สักว่ารู้ถึงสภาพธรรมที่กำลังปรากฏได้เลย
อีกอย่างหนึ่งคือปฏิบัติไปทั้งที่จิตถูกครอบงำด้วยโมหะคือความหลง
อันนี้ก็เข้าข่ายว่าขาดปัญญาเหมือนกัน
เพราะกำลังหลงอยู่แท้ๆ กลับเข้าใจว่ากำลัง รู้ อยู่
ในพระไตรปิฎกท่านจึงจัดเอาความรู้ตัว หรืออสัมโมหะสัมปชัญญะ
ว่าเป็นตัวปัญญาหรือสัมมาทิฏฐิ
เรื่องการถูกโมหะครอบงำจนจิตไม่มีคุณภาพจริงนี้ เป็นเรื่องที่รู้ทันได้ยากครับ
ชาว(ชื่อกลุ่มนักภาวนา) จำนวนมาก ก็ยังถูกเจ้าตัวนี้ครอบงำอยู่
ยังดีว่าหลายคนพอจะรู้ทัน เห็นถึงความหย่อนคุณภาพของจิต
ที่มัวๆ หม่นๆ ไม่รู้อารมณ์ด้วยความชัดเจนแจ่มใสจริง
ถ้ารู้ทันอย่างนี้ ก็พอจะหลุดพ้นจากโมหะได้ครับ
แต่ถ้ามองไม่ออก ก็ต้องถูกมันครอบงำเรื่อยไป
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อ วัน อังคาร ที่ 4 เมษายน 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่