Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

วิธีฝึกให้จิตมีสมาธิแบบตั้งมั่น


mp 3 (for download) : วิธีฝึกให้จิตมีสมาธิแบบตั้งมั่น

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : นี้สมาธิชนิดที่ ๒ จิตตั้งมั่นเป็นคนดู เราต้องรู้หลักนิดนึง คนดูเนี่ยมันต่างกับคนคิด ผู้รู้ ผู้คิด คนละคนกัน ขณะใดที่เป็นผู้รู้ ขณะนั้นไม่ใช่ผู้คิดนึกปรุงแต่ง แต่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ขณะใดเป็นผู้คิดนึกปรุงแต่ง ก็ไม่ใช่ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จิตมันจะสลับกัน ถ้าเมื่อไหร่จิตเป็นผู้รู้ ก็ไม่ไปฟุ้งซ่าน ไม่ปรุงแต่งไป ไม่ไหลไป จิตจะตั้งมั่นอยู่กับตัวเอง นี่ถ้าเรารู้หลักตัวนี้นะว่า ถ้าเมื่อไหร่คิด ก็ไม่รู้ เมื่อไหร่รู้ ก็ไม่คิด เราอาศัยหลักตัวนี้แหล่ะมาฝึกให้จิตใจตั้งมั่น เป็นผู้รู้ ไม่ใช่ผู้คิด

วิธีก็คือใช้สตินั่นแหล่ะ สติที่สอนให้เมื่อเช้าว่า คอยรู้ทันกิเลสที่เกิดขึ้นกับจิต การที่เราคอยรู้ทันกิเลสที่เกิดที่จิต กิเลสครอบงำจิตไม่ได้ เราจะได้ศีลอัตโนมัติ อินทรียสังวรศีลจะเกิด

ตรงสมาธินี้เราก็ใช้สตินี่แหล่ะ รู้ทันอะไร รู้ทันจิตที่ฟุ้งซ่านไป จิตที่ฟุ้งไปคิด จิตชอบไหลไป จิตชอบไหลไปคิด ถ้าเมื่อไหร่เรารู้ทัน ว่าจิตไหลไปคิดนะ จิตรู้จะเกิดโดยอัตโนมัติ แต่ว่าจิตคิดเนี่ยเกิดตลอดเวลา วันนึงคิดตั้งไม่รู้กี่ร้อยกี่พัน กี่หมื่นกี่แสนเรื่อง คิดตลอด งั้นเรามีสติบ่อยๆ จิตไหลไปคิดแล้วรู้แว้บ จิตก็จะตั้งมั่นขึ้นชั่วขณะ เดี๋ยวก็ไหลไปคิดใหม่ ไหลไปคิดใหม่เรามีสติรู้ทันใหม่ จิตก็ตั้งมั่นขึ้นอีกชั่วขณะ ก็กลายเป็นว่า ไหลแล้วรู้ ไหลแล้วรู้ ไหลแล้วรู้ ฝึกอย่างนี้ให้มากเลยนะ ไม่ต้องสนใจว่าจะฝึกไปถึงเมื่อไหร่ ฝึกให้มากที่สุด จิตไหลไปแล้วรู้ จิตไหลไปแล้วรู้

ตรงที่จิตไหลไปแล้วรู้เนี่ย บางคนต้องมีเครื่องอยู่ประกอบ เพราะว่าอยู่ๆจิตไหลไปแล้วจะรู้เนี่ย รู้ช้า หลงนาน รู้สึกตัวแว้บเดียวแล้วหลงยาว หลงตั้งวันก็มี เราก็ต้องมีเครื่องอยู่ของจิต เคยอยู่กับพุทโธ ทำให้จิตสงบอยู่กับพุทโธ เราปรับนิดเดียว เราก็ใช้พุทโธใหม่ แต่ว่าพุทโธแล้วเราแทนที่จะให้จิตไปสงบที่พุทโธนะ เราพุทโธแล้วจิตหนีไปคิด เรารู้ทัน หรือเราเคยรู้ลมหายใจ แล้วน้อมจิตให้ไปสงบอยู่กับลมหายใจ ได้สมถะ เราเปลี่ยนใหม่ เรารู้ลมหายใจไปอย่างเดิม ด้วยความสุข ด้วยความสบาย พอเรารู้ลมหายใจแล้ว พอจิตนี้ไปคิด เรารู้ทัน จิตไหลไปอยู่ที่ลมหายใจ เรารู้ทัน

การที่เราคอยรู้ทันจิตที่เคลื่อนไปคิด หรือเคลื่อนไปเพ่งอยู่ในอารมณ์อันใดอันหนึ่ง จิตมันจะเลิกเคลื่อน มันจะตั้งขึ้นได้เอง จิตที่เคลื่อนไปนะเป็นจิตฟุ้งซ่าน ทันทีที่สติเกิด ความฟุ้งซ่านจะดับอัตโนมัติเลย เราไม่ต้องทำให้จิตตั้งมั่น จิตจะตั้งของจิตเอง ถ้าเรารู้ทันว่าจิตเคลื่อนไปแล้ว จิตจะเคลื่อนไปคิดเนี่ยประจำ เคลื่อนไปดูเคลื่อนไปฟังอะไรพวกนี้ รองลงมา เคลื่อนไปดมกลิ่น เคลื่อนไปรู้รสอะไรนี้ น้อยลงมา  เคลื่อนไปคิดนะเคลื่อนบ่อย

งั้นเราหัดตรงที่จิตหนีไปคิดนี้ให้มาก หัดพุทโธไป หายใจไป จิตหนีไปคิดคอยรู้ สวดมนต์ไป จิตหนีไปคิดเรื่องอื่น คอยรู้ การที่เราคอยรู้ทันจิตที่หลงไปคิดบ่อยๆ จิตจะตั้งมั่นโดยอัตโนมัติ พอได้จิตตั้งมั่นก็เป็นคนดูได้ นี่เราได้สมาธิแล้ว


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม เมื่อ วันศุกร์ที่ ๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๕ หลังฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๗
File: 550907B.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๔๒ ถึง นาทีที่ ๒๘ วินาทีที่ ๑๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 721 times, 1 visits today)

Comments are closed.