คุยเรื่องการใช้ปัญญากับ อ.สุรวัฒน์
เมื่อวาน คุณสุรวัฒน์ ไปเยี่ยมผม เลยได้คุยกันหลายเรื่อง
เรื่องหนึ่งก็คือเรื่อง การใช้ปัญญา
ซึ่งผมได้สารภาพกับ คุณสุรวัฒน์ ตามตรงว่า
อธิบายสภาวะยากเหลือเกิน
ทำความรู้ตัว แล้วจิตนิ่งสนิทอยู่กับที่ ก็ไม่ใช่การเจริญปัญญา
แต่เป็นหลุมพรางของสมถะ
ครุ่นคิดพิจารณาเอาด้วยความคิดแบบที่คุ้นเคย ก็ไม่ใช่อีก
เพราะนั่นเป็นความฟุ้งซ่านของจิต
สภาพที่พอดีระหว่างความสงบนิ่ง กับความฟุ้งซ่านต่างหาก
ที่จิตจะเจริญปัญญาของเขาไปได้เอง
ใครจะช่วยใครได้ ที่จะให้รู้จักสภาวะ “รู้” ที่พอดี
นอกจากจะต้องลงมือทำด้วยตนเอง
ผิด จนไม่มีที่จะผิดอีก แล้วมันก็ถูกพอดีเอง
คำอธิบายสภาวะที่พอดีนั้น อย่างมากก็เป็นคำเปรียบเทียบ
หรือคำปฏิเสธว่า อันนี้ไม่ใช่ อันนี้ไม่ใช่
ยิ่งเปรียบเทียบมาก หรือปฏิเสธมาก
บางทีจิตของผู้ฟังเหมือนจะสงบลง
แต่ก็สงบไปอย่างนั้นเอง เหมือนจะรู้ แต่ก็ไม่รู้
ที่จะอธิบายให้ เข้า(ถึง)ใจ จริงๆ นั้น ยากยิ่งนัก
เห็นแล้วจึงอัศจรรย์ในธรรมของพระพุทธเจ้า
ว่าท่านช่างแสดงได้ พอดี จริงๆ
คือไม่น้อย จนปฏิบัติไม่ได้
และไม่มาก จนจับประเด็นไม่ได้
ที่พูดกับ คุณสุรวัฒน์ ไม่ยาวเท่านี้หรอกครับ
เพราะพูดแค่ว่า “การใช้ปัญญาไม่ใช่การรู้ตัวนิ่งๆ ทื่อๆ และไม่ใช่การคิด”
เพียงเท่านี้ คุณสุรวัฒน์ ก็เข้าใจแล้วว่า ผมพูดถึงสภาวะอะไร
ธรรมะไม่ใช่ปรัชญา ไม่ใช่ตรรกศาสตร์
”คนจริง” เท่านั้น ที่จะรู้ของจริงซึ่งอธิบายได้ยาก
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน พุธ ที่ 13 กันยายน 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่