กิเลสกับน้ำในโอ่ง
ตอนผมเด็กๆ ที่บ้านมีโอ่งน้ำโตๆ อยู่หลายใบ
เวลาผู้ใหญ่เผลอ ผมชอบแอบเอามือไปกวนน้ำเล่น (เข้าทำนองกวนน้ำให้ขุ่น)
เพื่อให้ตะกอนก้นโอ่งมันกระจายขึ้นมา
น้ำที่ดูใสสะอาด ก็จะแสดงคุณภาพที่แท้จริงของมันออกมา
เดี๋ยวนี้เวลาเจริญสติสัมปชัญญะ ก็เห็นจิตมันสงบนิ่ง ใสสะอาด
เหมือนน้ำใสในโอ่งนั้นเอง
แต่เวลามีการกระทบอารมณ์ทางตา หู … ใจ
ตะกอนกิเลส(อาสวะ)ที่นอนเนื่องในสันดานก็จะแสดงตัวออกมาเป็นกิเลส
จิตก็ดูเศร้าหมองลง เหมือนน้ำขุ่น
แต่พอผัสสะนั้นดับไป ไม่นานกิเลสก็ระงับดับไป
มันก็ตกตะกอนลงไปนอนในสันดานของเราอีก
ยิ่งนานวัน ตะกอนก้นโอ่งก็ยิ่งมาก (เหมือนจิตที่มีธรรมชาติไหลลงที่ต่ำตลอดเวลา)
พอสังเกตเห็นว่า โอ่งสกปรกมากแล้ว ก็ต้องล้างตะกอนกันทีหนึ่ง
แล้วไม่นานมันก็มีตะกอนอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้เรื่อยไป
เพราะการล้างโอ่งมันยังเป็นวิชาสามัญมาก มันก็แก้ทุกข์ได้เป็นคราวๆ เท่านั้น
ส่วนการเจริญสติสัมปชัญญะ เจริญศีล สมาธิ ปัญญา นั้น
ถึงจุดหนึ่งจะทำลายความยึดมั่นในจิตลงไป ก็เหมือนการทุบโอ่งน้ำทิ้งไป
ตะกอนกิเลสก็ไม่มีที่อาศัยอยู่อีก
วิชาทางโลกจึงไม่มีที่สุด แต่วิชาทางธรรมของพระพุทธเจ้า มีที่สุดครับ
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2542
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่