การเจริญสติคือการรักษาพระวินัย
คุณจับแก่นของพระวินัยเอาไว้ได้เต็มๆ ทีเดียวครับ
เพราะมีการยืนยันมาแล้วโดยพระพุทธเจ้าเอง
ว่าการเจริญสติอย่างเดียว ทดแทนการรักษาพระวินัยทั้งหมดได้
เคยมีพระรูปหนึ่ง เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาพระวินัย
ก็เกิดความท้อใจว่า กระดิกตัวนิดเดียวก็ผิดพระวินัยแล้ว ท่านควรจะสึกเสีย
เพราะอยู่ไปจะทำให้พระธรรมวินัยเสียหาย
แต่เมื่อท่านไปทูลลาสึก พระศาสดากลับถามท่านว่า
ถ้าวินัยและข้อวัตรมีมากเกินไปจนปฏิบัติไม่ไหว
หากให้เหลือข้อเดียวจะปฏิบัติได้ไหม
ท่านรับว่าถ้ามีข้อเดียวท่านทำได้ และไม่จำเป็นต้องลาสิกขา
พระศาสดาจึงทรงสอนให้ท่านมีสติทุกเมื่อ
ท่านรับปฏิบัติ จนบรรลุพระอรหันต์ได้ในที่สุด
ทั้งท่านก็ไม่ได้ทำผิดพระวินัยต่างๆ ด้วย
เนื่องจากมีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์แล้ว
ความจริงพระวินัยนั้น เกิดขึ้นด้วยหลายสาเหตุ
เช่นเกิดจากพระท่านทำไปแล้ว รู้สึกว่าไม่เหมาะสมเองก็มี
ชาวบ้านรู้สึกว่าไม่เหมาะสมก็มี
เป็นเรื่องขัดเกลาลดภาระทางใจก็มี
พระวินัยแต่ละข้อนั้น เป็นไปเพื่อความสบายในการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น
เช่นการเสพย์เมถุนจะขัดขวางการปฏิบัติ
เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งครอบครัว เป็นภาระพะรุงพะรัง
ทั้งจิตใจหลังการเสพย์เมถุนก็จะกระเพื่อมไหว ไม่สงบ อ่อนแอ
การที่พระมีทรัพย์สินเงินทอง ก็มีภาระผูกพันจิตใจต้องระวังรักษา
และก่อให้เกิดความรู้สึกว่ากูมีอำนาจอยู่ในมือ
จะไม่ถอดเขี้ยวเล็บ หมดพิษสง แบนติดดินแบบพระมือเปล่า
ซึ่งนอกจากจะไม่รู้สึกกร่างแล้ว ยังรู้สึกเบาสบาย อบอุ่นใจในความเป็นพระแท้ด้วย
การที่พระอวดอุตริ ทำให้ผู้คนแตกตื่นมาทำบุญ
จิตใจก็จะยะโสโอหังขึ้นมาง่ายๆ มันมีสภาพเหมือนอึ่งพองลม
ในที่สุดก็ต้องท้องแตกตายเพราะลาภสักการะและชื่อเสียง
บรรดาเสขิยวัตรทั้งหลาย เป็นเครื่องทำให้พระงาม
และมีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกการเคลื่อนไหว
ซึ่งความจริงแล้ว กิริยามารยาทในสังคมไทยนั้น
เดิมถอดแบบพระวินัยมามากทีเดียว
เช่นรับประทานอาหารคำไม่โตเกินควร
ไม่พูดระหว่างมีอาหารในปาก ไม่เคี้ยวดัง ซดดัง
ไม่เดินกินอาหาร ไม่ล่อกแล่กเหลียวหน้าเหลียวหลัง ฯลฯ
คนที่ถูกกล่อมเกลามาจากครอบครัวแบบนี้ พอไปบวชก็ไม่ลำบากนัก
แต่เด็กรุ่นต่อไป ไปบวชคงอึดอัดมากขึ้น
เพราะสังคมเดี๋ยวนี้ทิ้งกิริยามารยาทแบบไทยๆ ซึ่งถอดพระวินัยมา
เช่นจะกินแฮมเบอร์เกอร์สักชิ้น ต้องอ้าปากให้กว้างเกือบคืบจึงจะกัดได้ เป็นต้น
พระพุทธเจ้าท่านสอนพระของท่านให้เป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว
และเป็นผู้ดีแท้ๆ ที่ไม่มีเครื่องประกอบอิสริยยศใดๆ
จึงน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่ลูกพระพุทธเจ้านั้น จนแสนจน
แต่วิญญูชนได้พบเห็นแล้ว รู้สึกงามจับตาจับใจจริงๆ
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่