ทางแยก
กิเลสเกิดขึ้น จิตรู้ว่ามีกิเลส ถึงตรงนี้จะเป็นทางแยก
ทางที่หนึ่ง จิตจะยังเผลอหลงเพลินไปตามกิเลส
ไปทำกายกรรมบ้าง วจีกรรมบ้าง มโนกรรมบ้าง
คนทั่วไปกับนักภาวนาที่สติปัญญายังน้อย
ส่วนมากก็จะเลี้ยวไปตามทางนี้แหละ
ทางที่สอง เป็นทางที่นักภาวนามักหลงทางเลี้ยวไปกันคือ
เกิดความเกลียดไม่ชอบกิเลส ไม่อยากให้กิเลสเกิดอีก
ใครหลงไปทางนี้ก็จะดิ้นรนเอาขนะกิเลส
จะหาทางปิดหาวิธีที่จะกั้นโน่นกั้นนี่
ด้วยหลงผิดไปว่าทำแล้วจะพ้นจากอำนาจกิเลสไปได้
แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ เพราะถึงจะทำได้เก่งขนาดไหน
มันก็เปรียบเหมือนดอกบัวที่ยังมีเมล็ดให้เกิดต้นใหม่ได้อีก
จิตก็จะยังเหลือเชื้อให้กิเลสเกิดได้อีกเช่นกัน
อีกทางหนึ่ง เป็นทางที่พระพุทธเจ้าชี้บอกให้เดินไป
คือ ให้มีสติมีความตั้งมั่นแล้วมาเรียนรู้จิตที่มีกิเลส
เรียนรู้ไปตามจริงเลยว่า
จิตที่มีกิเลสต่างๆ ไม่ใช่ตัวตน ไม่เที่ยง
เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไปเป็นธรรมดาตามเหตุตามปัจจัย
ชีวิตนักภาวนาจะเจอทางแยกแบบนี้ตลอดทางวันละนับไม่หวาดไม่ไหว
และจะเลี้ยวถูกเลี้ยวผิดกันไปตามกำลังสติกำลังปัญญาในขณะนั้นๆ
ใครที่ฝึกสติมากพอ ได้ฟังธรรมมากพอ มีความแยบคายมากพอ
ก็จะเลี้ยวไปถูกทางที่พระพุทธเจ้าชี้บอกไว้ได้บ่อยเท่าบ่อย
สติปัญญาก็จะเจริญขึ้นมากเท่ามาก
จนแจ้งอริยสัจ พ้นจากอำนาจของกิเลสไปได้
^_^
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่