Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

Dhammada News: New Files Uploaded (๖ มีนาคม ๒๕๕๖)

    New Files Updated วันพุธที่ ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๖

  • 551207B: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘ แสดงธรรมเมื่อวันศุกร์ที่ ๗ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕
  • 551207A: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘ แสดงธรรมเมื่อวันศุกร์ที่ ๗ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๕) เราต้องพัฒนากำลังให้แก่กล้าพอ จึงจะล้างกิเลสได้

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๕) เราต้องพัฒนากำลังให้แก่กล้าพอ จึงจะล้างกิเลสได้

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าพวกเราทำในรูปแบบนะ เราค่อยๆพัฒนาไปเรื่อย กำลังของศรัทธาเราก็จะแก่กล้าขึ้น กำลังของวิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ก็จะแก่กล้าขึ้น ถ้ากำลังของเราแก่กล้าพอเนี่ย มันจะล้างกิเลส มันจะมีพลังไปล้างกิเลสได้ ถ้าเรา มัวแต่ท้อแท้ หดหู่ ท้อถอยนะ ป้อๆแป้ๆไปวันหนึ่งๆ เราสู้กิเลสไม่ไหวหรอก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๙ วินาทีที่ ๔๕ ถึง นาทีที่ ๓๐ วินาทีที่ ๑๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : รู้ทันความอยาก

รู้ทันความอยาก

มีจุดหนึ่งที่ควรสังเกตเพิ่มเติมก็คือ
 เวลาที่เราจะทำอะไร แล้วเกิดไปเห็นความอยากเข้า
 เมื่อความอยากดับไปแล้ว เราก็ไม่ทำสิ่งนั้นเลย
 อันนี้ยังไม่ถูกต้องนัก

 การที่รู้ทันความอยากนั้นดีมากแล้ว
 แต่เมื่อรู้แล้ว จะทำสิ่งนั้นหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
 ถ้ามีเหตุผลสมควร เราก็ต้องทำ
 เพราะการกระทำของผู้ปฏิบัตินั้น กระทำด้วยปัญญา เห็นเหตุผลความจำเป็น
 ไม่ใช่ต้องมีความอยากจึงจะกระทำได้
 ซึ่งพอดูๆ จนความอยากดับ เลยกระทำอะไรไม่ได้เลย
 ม่ายยั้งงั้น พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ ท่านคงนั่งแข็งทื่อไปหมดทุกองค์
 เพราะท่านปราศจากความอยากเสียแล้ว

 หากจะปฏิเสธการกระทำทุกสิ่ง เพราะไม่อยากทำตามความอยาก
 ทั้งที่มีเหตุผลสมควรกระทำ
 จะกลายเป็นทิฏฐิประเภทที่ว่า อะไรๆ ก็ไม่สมควรแก่เรา
 ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านทรงชี้ให้เห็นว่า
 ถ้าเช่นนั้นแล้ว ความคิดปฏิเสธทุกรูปแบบนี้ ก็ไม่สมควรแก่เธอด้วย

 อย่างการที่เราตั้งใจปฏิบัตินั้นก็เป็นความอยากเหมือนกัน
 แต่มันมีเหตุผลสมควร เราก็ต้องทำ
 และควรทำให้มาก ด้วยอิทธิบาท คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
 โดยมี โยนิโสมนสิการ หรือการใช้สติปัญญาอย่างแยบคายเป็นผู้กำกับดูแลอยู่

 โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวัน เสาร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2542

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๔) สติ สมาธิ ปัญญา

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๔) สติ สมาธิ ปัญญา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : สติก็เหมือนกันต้องซ้อมทุกวัน ที่หลวงพ่อบอกให้ทำในรูปแบบนะ ไม่ใช่แค่ได้ศรัทธาได้วิริยะนะ จะได้สติด้วย หายใจเข้า”พุท” หายใจออก”โธ” อะไรก็ทำไปนะ ถ้าจิตไหลไปแล้วรู้ รู้ทันจิตใจของเราไปเรื่อย เกิดสุขก็รู้ เกิดทุกข์ก็รู้ เกิดกุศลก็รู้ เกิดอกุศลก็รู้ ร่างกายหายใจออกก็รู้ ร่างกายหายใจเข้าก็รู้ ร่างกายเดินไปก็รู้ ร่างกายหยุดนิ่งก็รู้ ดูอยู่ในกาย ดูอยู่ในใจ ระลึกรู้กาย ระลึกรู้ใจให้มาก สติของเราก็จะแก่กล้าขึ้น

ถ้าเราไม่ทำในรูปแบบเลย เดินไปรู้สึกบ้าง เผลอไปบ้างนะ เผลอนานกว่ารู้สึกอีก กำลังของสติก็พัฒนายาก งั้นการทำในรูปแบบเนี่ย ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราทำได้นะ ศรัทธาของเราก็จะเพิ่มขึ้น วิริยะก็จะเพิ่มขึ้น สติก็จะเพิ่มขึ้น

หรือเราเดินจงกรมนั่งสมาธิ แล้วจิตเราเคลื่อน เราเห็น สมาธิของเราจะเพิ่มขึ้น จิตใจจะกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว

แล้วการปฏิบัติในรูปแบบ ถ้าวันไหนกำลังของเราพอ จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัวนะ เราก็ดูธาตุดูขันธ์เลย แยกกายส่วนกาย จิตส่วนจิต ความสุขความทุกข์ก็แยกออกไป กุศลอกุศลก็แยกออกไป จิตเป็นคนดู สุดท้ายมันก็เกิดปัญญานะ เห็นเลยร่างกายที่หายใจออกนะ ร่างกายที่หายใจเข้า ร่างกายที่ยืนเดินนั่งนอน มีแต่ทุกข์ทั้งนั้นเลย นั่งอยู่ก็ทุกข์ ยืนอยู่ก็ทุกข์ เดินอยู่ก็ทุกข์ นอนอยู่ก็ทุกข์ มันปวดมันเมื่อยตลอดเวลา ส่วนจิตใจก็เต็มไปด้วยความไม่เที่ยงนะ ความสุขก็ไม่เที่ยง ความทุกข์ก็ไม่เที่ยง กุศลก็ไม่เที่ยง อกุศลก็ไม่เที่ยง จิตใจบังคับไม่ได้ จะสุขหรือจะทุกข์ จะดีหรือจะชั่ว สั่งไม่ได้ บังคับไม่ได้ เนี่ยคือการเจริญปัญญา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๘ วินาทีที่ ๓ ถึง นาทีที่ ๒๙ วินาทีที่ ๔๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ทำสมาธิแล้วชอบเห็นแสง

ทำสมาธิแล้วชอบเห็นแสง

 เรื่องทำสมาธิแล้วเกิดเห็นแสงสว่างได้ง่ายนี่
แสดงว่าเราเป็นคนที่สามารถทำสมถะได้ไม่ยาก
(หลายคนทำสมาธิยังไงๆ ก็ไม่เกิดแสงสว่าง)
ซึ่งถ้าจะเจริญสมถะก็สามารถทำได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไปเห็นผีหรอกครับ
เพราะถ้าทำสมถะได้ถูกต้อง สิ่งที่เกิดจะเป็น จิตผู้รู้ ที่มีคุณภาพ
ที่สามารถใช้เจริญปัญญาต่อได้อย่างมีคุณภาพ

เบื้องต้น พอเกิดแสงสว่าง ก็ให้มีสติรู้แสงสว่างนั้นไป
อย่าไปหลงพอใจในแสงสว่างนั้น แล้วจะเห็นแสงสว่างก็ไม่เที่ยง
แล้วไม่ว่าจะเห็นอะไร ก็แค่รู้ดูอันนั้นไปอย่างต่อเนื่อง
จิตก็จะสงบแน่วแน่อยู่กับสิ่งนั้นจนเกิดฌานจิตไปตามลำดับ
ถ้าถึงฌานที่สอง ก็จะเกิดจิตผู้รู้ขึ้นมา
พออออกจากฌาน ก็จะมีจิตผู้รู้มาใช้เจริญปัญญาต่อได้ครับ
(รายละเอียดลองหาฟังในซีดีหลวงพ่อปราโมทย์
มีบางไฟล์หลวงพ่อจะสอนเรื่องการทำสมถะจนเกิดจิตผู้รู้
และการทำวิปัสสนาต่อจากการมีจิตผู้รู้ครับ)

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๓) วิริยะ

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๓) วิริยะ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : ต้องทำทุกวันในรูปแบบ ถ้าเราอดทนอดกลั้นทำทุกวัน เหน็ดเหนื่อยแค่ไหนนะ ถึงเวลาก็ต้องปฏิบัติ ถึงเวลาต้องภาวนา ภาวนาตอนค่ำทำไม่ไหวจริงๆนะ ทำมันตั้งแต่ตื่นนอน ทำวันละหลายๆรอบ เช้าสายบ่ายเย็น ไม่มีใครมาว่าเราหรอก ทำทีละเล็กทีละน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย พากเพียรเข้านะ อดทน

ทีแรกการลงมือปฏิบัตินะ จะไปนั่งสมาธิ ไปทำอะไรต่ออะไรนะ มันฝืนความรู้สึก ฝืนความขี้เกียจขี้คร้าน ฝืนความท้อแท้ท้อถอยของเรา พอเราทำมากขึ้นๆ ใจเรามีกำลังขึ้นพัฒนาขึ้น เราจะขยันมากขึ้น เพราะเราเห็นคุณเห็นประโยชน์ของการปฏิบัติ วิริยะมันจะมากขึ้นๆ

เพราะงั้นเบื้องต้นบางทีหลวงพ่อขอ บอกขอ ๑๐ นาที ถ้า ๑๐ นาทีพวกเราทำได้นะ ต่อไปจิตของเรามีความสุข มีความสงบ มีเรี่ยวมีแรงนะ มันจะเพิ่มของมันเอง มันอยากเพิ่ม หลวงพ่อขอ ๑๐ นาที ขอแถมให้อีกชั่วโมงนึงนะ อย่างนี้มีเยอะเลยเดี๋ยวนี้ บางคนภาวนาตั้งหลายชั่วโมงนะวันนึง อันนั้นถ้าเค้ามีเวลานะ ถ้าไม่มีเวลา (ทำ) ๑๐ นาทีอย่าให้ขาด ถ้าทำได้ทุกวันเนี่ย วิริยะ พลังของความเพียรของเรา จะแก่กล้าขึ้น เวลาตั้งใจจะทำอะไรแล้วเนี่ย ถ้าเป็นสิ่งที่ดีงามนะ ไม่ท้อถอย ลำบากแค่ไหนก็ทำ ถึงจะเจ็บจะป่วยก็ทำ

หลวงพ่อพุธเคยเล่าให้หลวงพ่อฟังนะ ว่ามีพระองค์นึง พระเนี่ยปกติท่านมีข้อวัตรที่ต้องทำ อย่างไปกวาดวัด ต้องกวาดวัด ต้องทำความสะอาดกุฎิเสนาสนะอะไรเนี่ย พระต้องทำ พระปล่อยให้กุฎิสกปรกเนี่ย ปล่อยวัดสกปรกเนี่ยผิดมากเลย ไม่/ถือว่าไม่เคารพพระธรรมวินัย เนี่ยมีพระอยู่องค์นึง ท่านก็รักษาข้อวัตรอย่างดี รักษากุฎิวิหารศาลาอะไร รักษาถนนหนทางสะอาด นี่ท่านป่วยจนลุกไม่ขึ้นนะ ป่วยจนลุกไม่ขึ้นเนี่ย ท่านนอนอยู่ กระดิกตัวก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว ใกล้จะมรณภาพแล้ว พอถึงเวลากวาดวัดเนี่ย ท่านลุกขึ้นมาไม่ได้ ท่านกำหนดจิตของท่าน ท่านลูบข้างๆที่นอนของท่าน ท่านเคลื่อนไปได้แค่นี้แล้วนะ ท่านกำหนดจิต ว่าเนี่ยท่านกำลังทำข้อวัตรอยู่ กำลังทำความสะอาด สุดกำลังที่จะทำแล้วนะ ได้แค่นี้ แล้วยังรักษาข้อวัตรไว้เลย นี่วิริยะสูงนะ เนี่ยหลวงพ่อพุธเคยเล่าให้ฟัง โอ้โห บอกใจเด็ด

อย่างมีสมัยพุทธกาลก็มีนะ เป็นตัวอย่าง ท่านเดินจงกรม เดินจนเท้าแตก เดินไม่ได้ท่านคลาน คลานจนหัวเข่าแตก ไม่ทิ้งข้อวัตรนะ หัวเข่าแตกคลานไม่ได้ ท่านต้องลงไปนอน ท่านก็นอนพลิกซ้ายพลิกขวาไปเรื่อยนะ ถือว่ากำลังเดินจงกรมอยู่ เห็นมั่ยท่านไม่ยอมท้อถอยเลยนะ มีวิริยะมาก

ถ้าเป็นพวกเรา เดินจนเท้าแตก เราก็ไม่เอาแล้วเนอะ เท้าแตกไม่ได้เท้าของเราเจ็บนี่ ให้ไปคลานหัวเข่าแตก ยิ่งไม่เอาใหญ่ เดี๋ยวหัวเข่าด้านไม่สวย ไปโน่นซะอีก เนี่ยความเพียรนะ ถ้าเราตั้งใจทำ แล้วเราทำสม่ำเสมอ กำลังของความเพียรจะมากขึ้นๆ ถ้าเราท้อแท้หดหู่เมื่อไหร่ กำลังจะตก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๔๗ ถึง นาทีที่ ๒๘ วินาทีที่ ๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เกร็ดธรรมคุณสันตินันท์ : การเจริญสติคือการรักษาพระวินัย

 การเจริญสติคือการรักษาพระวินัย

คุณจับแก่นของพระวินัยเอาไว้ได้เต็มๆ ทีเดียวครับ

เพราะมีการยืนยันมาแล้วโดยพระพุทธเจ้าเอง

ว่าการเจริญสติอย่างเดียว ทดแทนการรักษาพระวินัยทั้งหมดได้

 

เคยมีพระรูปหนึ่ง เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาพระวินัย

ก็เกิดความท้อใจว่า กระดิกตัวนิดเดียวก็ผิดพระวินัยแล้ว ท่านควรจะสึกเสีย

เพราะอยู่ไปจะทำให้พระธรรมวินัยเสียหาย

แต่เมื่อท่านไปทูลลาสึก พระศาสดากลับถามท่านว่า

ถ้าวินัยและข้อวัตรมีมากเกินไปจนปฏิบัติไม่ไหว

หากให้เหลือข้อเดียวจะปฏิบัติได้ไหม

ท่านรับว่าถ้ามีข้อเดียวท่านทำได้ และไม่จำเป็นต้องลาสิกขา

พระศาสดาจึงทรงสอนให้ท่านมีสติทุกเมื่อ

ท่านรับปฏิบัติ จนบรรลุพระอรหันต์ได้ในที่สุด

ทั้งท่านก็ไม่ได้ทำผิดพระวินัยต่างๆ ด้วย

เนื่องจากมีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์แล้ว

 

ความจริงพระวินัยนั้น เกิดขึ้นด้วยหลายสาเหตุ

เช่นเกิดจากพระท่านทำไปแล้ว รู้สึกว่าไม่เหมาะสมเองก็มี

ชาวบ้านรู้สึกว่าไม่เหมาะสมก็มี

เป็นเรื่องขัดเกลาลดภาระทางใจก็มี

 

พระวินัยแต่ละข้อนั้น เป็นไปเพื่อความสบายในการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น

เช่นการเสพย์เมถุนจะขัดขวางการปฏิบัติ

เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งครอบครัว เป็นภาระพะรุงพะรัง

ทั้งจิตใจหลังการเสพย์เมถุนก็จะกระเพื่อมไหว ไม่สงบ อ่อนแอ

 

 การที่พระมีทรัพย์สินเงินทอง ก็มีภาระผูกพันจิตใจต้องระวังรักษา

และก่อให้เกิดความรู้สึกว่ากูมีอำนาจอยู่ในมือ

จะไม่ถอดเขี้ยวเล็บ หมดพิษสง แบนติดดินแบบพระมือเปล่า

ซึ่งนอกจากจะไม่รู้สึกกร่างแล้ว ยังรู้สึกเบาสบาย อบอุ่นใจในความเป็นพระแท้ด้วย

 

การที่พระอวดอุตริ ทำให้ผู้คนแตกตื่นมาทำบุญ

จิตใจก็จะยะโสโอหังขึ้นมาง่ายๆ มันมีสภาพเหมือนอึ่งพองลม

ในที่สุดก็ต้องท้องแตกตายเพราะลาภสักการะและชื่อเสียง

 

บรรดาเสขิยวัตรทั้งหลาย เป็นเครื่องทำให้พระงาม

และมีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกการเคลื่อนไหว

ซึ่งความจริงแล้ว กิริยามารยาทในสังคมไทยนั้น

เดิมถอดแบบพระวินัยมามากทีเดียว

เช่นรับประทานอาหารคำไม่โตเกินควร

ไม่พูดระหว่างมีอาหารในปาก ไม่เคี้ยวดัง ซดดัง

ไม่เดินกินอาหาร ไม่ล่อกแล่กเหลียวหน้าเหลียวหลัง ฯลฯ

คนที่ถูกกล่อมเกลามาจากครอบครัวแบบนี้ พอไปบวชก็ไม่ลำบากนัก

แต่เด็กรุ่นต่อไป ไปบวชคงอึดอัดมากขึ้น

เพราะสังคมเดี๋ยวนี้ทิ้งกิริยามารยาทแบบไทยๆ ซึ่งถอดพระวินัยมา

เช่นจะกินแฮมเบอร์เกอร์สักชิ้น ต้องอ้าปากให้กว้างเกือบคืบจึงจะกัดได้ เป็นต้น

 

พระพุทธเจ้าท่านสอนพระของท่านให้เป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว

และเป็นผู้ดีแท้ๆ ที่ไม่มีเครื่องประกอบอิสริยยศใดๆ

จึงน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่ลูกพระพุทธเจ้านั้น จนแสนจน

แต่วิญญูชนได้พบเห็นแล้ว รู้สึกงามจับตาจับใจจริงๆ

โดยคุณ  สันตินันท์  (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)

เมื่อวัน อังคาร ที่ 26 กันยายน 2543

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๒) ศรัทธา

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๒) ศรัทธา

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : หลวงพ่อสอนเนี่ย สอนให้พวกเราพัฒนากำลังทั้ง ๕ นี้ สอนทุกวันนะ พวกเราอาจจะไม่รู้ อย่างหลวงพ่อสอนพวกเรา บอกว่า ทุกวันต้องทำในรูปแบบ ต้องไหว้พระ ต้องสวดมนต์ ต้องคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้า กระทั่งพวกเราจะมาขอบคุณหลวงพ่อ ว่าสอนแล้วพวกเราปฏิบัติพ้นทุกข์ หลวงพ่อบอกให้ขอบคุณพระพุทธเจ้า นึกออกมั้ย เราจะต้องคิดถึงครูบาอาจารย์ของเรา พ่อแม่ของเรา สูงที่สุดนะ อาจารย์ที่สอนเรานี่ ก็เป็นแค่ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า เพราะงั้นสูงสุดของเราคือพระพุทธเจ้า ใจของเราต้องยึดถือท่านนะ คิดถึงท่านเรื่อยๆ คิดถึงคุณงามความดีของท่าน

ท่านไม่ใช่เป็นอะไรกับเราซักหน่อย ทำไมมีความเมตตากรุณานะ ยอมลำบากยากเข็ญตั้งนานแสนนาน เพื่อจะค้นคว้าธรรมะมา ได้ธรรมะมาแล้ว แทนที่ท่านจะเสพสุข เป็นพระอรหันต์มีความสุขจะตายไป ท่านกลับทุกข์ทรมานนะ ต้องออกมาสู้กับพวกมิจฉาทิฏฐิ สู้กับกิเลส มิจฉาทิฏฐิก็พยายามบอมบ์ท่านนะ ถึงขนาดจ้างผู้หญิงมาแกล้งว่าทำเป็นท้องกับท่านก็มี จ้างคนมาด่าท่านก็มี ทำได้สารพัดเลยที่จะเล่นงานท่าน ต่างๆนานา ท่านต้องสู้กับพวกมิจฉาทิฏฐิ ต้องสู้กับกิเลสของพวกเราแต่ละคนด้วย เวลา(ฟัง)คำสอนของท่านเนี่ย เป็นคำสอนที่ฝืนกิเลสพวกเรา เราบางคนรับไม่ไหวนะ พวกกิเลสแรง รู้สึกคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่เอาดีกว่า

เนี่ยท่านต้องมาต่อสู้นะ กว่าจะตั้งศาสนาขึ้นมาได้ ถ่ายทอดสืบทอดมาถึงเราเนี่ย ท่านยากลำบากมากมาย เพราะปัญญาของท่านมหาศาล ที่จะค้นพบธรรมะได้เอง ขนาดธรรมะที่ท่านค้นแล้ว เอามาสอนเรา เรายังทำได้บ้างไม่ได้บ้างเลย เห็นมั้ย ปัญญาของท่านมาก ความกรุณาของท่านมากนะ ถ้าเราหัดภาวนาไปเรื่อย ใจของเราสงบ สะอาด สว่างนะ เข้าถึงความบริสุทธิ์มากขึ้นๆ เราก็จะรู้ถึงความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าด้วย เนี่ยพอใจของเรายิ่งภาวนาไป ใจเรายิ่งห่างไกลความทุกข์ เราจะยิ่งเคารพ ยิ่งรักพระพุทธเจ้าแน่นแฟ้นนะ ศรัทธาของเราจะมีกำลังมากขึ้นๆ

งั้นบางวันถ้าหมดศรัทธานะ พยายามนะคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้าไว้ พยายามคิดถึงคุณของท่านไว้ แล้วพอเราคิดถึงคุณของท่าน ใคร่ครวญถึงคุณงามความดีของท่านนะ ใจก็เกิดศรัทธาขึ้นมาอีก หรือเราคบกับคนที่เค้ามีศรัทธา ถ้าเราคบคนที่มีศรัทธานะ เราก็จะโน้มนำไปให้เกิดศรัทธา เราไปคบพวกมิจฉาทิฏฐิไม่มีศรัทธานะ มันก็พาเราเสื่อมศรัทธาไปด้วยนะ เรื่องคบคนก็สำคัญนะ เนี่ยหลวงพ่อก็สอนพวกเราทุกวัน ต้องไหว้พระ ต้องสวดมนต์ คิดถึงคุณของพระ อันนี้คือพัฒนาพลังของศรัทธาขึ้นมา


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๕๙ ถึง นาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๔๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News: New Files Uploaded (๒ มีนาคม ๒๕๕๖)

    New Files Updated วันอังคารที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖

  • 551111B: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘ แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๑ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕
  • 551111A: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘ แสดงธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๑ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พละ ๕ (๑) กำลังทั้ง ๕ ต้องพอ จึงจะเกิดอริยมรรค

mp 3 (for download) : พละ ๕ (๑) กำลังทั้ง ๕ ต้องพอ จึงจะเกิดอริยมรรค

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
ขอขอบคุณ ภาพจากงาน “ธรรมะกลางเมือง”

หลวงพ่อปราโมทย์ : แรงของนักปฏิบัติก็มี ๕ แรง มีกำลังมีพละ ๕ อย่าง เรามีศรัทธามั้ย บางวันเราก็มีศรัทธาใช่มั้ย บางวันพระพุทธเจ้าขัดผลประโยชน์ของเรา เราก็ไม่เอา เราก็เอาผลประโยชน์ ไม่เอาพระพุทธเจ้า ศรัทธาของเราก็ผลุบๆโผล่ๆ

วันนี้มีศรัทธา อีกวันนึงไม่มีศรัทธา วันนี้มีวิริยะนะขยันหมั่นเพียร อีกวันนึงขี้เกียจไปแล้ว วิริยะไม่มี บางวันมีสติใช่มั้ย ช่วงนึงมีสติอยู่ ๑ วัน ขาดสติไป ๗ วันอย่างนี้ กำลังของสติเราไม่พอ จิตใจของเราไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว จิตใจเราร่อนออกข้างนอกตลอดเวลา เนี่ยสมาธิเราไม่พอ กำลังของสมาธิไม่พอ เราไม่ค่อยสนใจที่จะคอยแยกธาตุแยกขันธ์ แล้วดูความเป็นไตรลักษณ์ของธาตุของขันธ์ ของกายของใจ นานๆเห็นทีนึง รู้สึกมั้ย นานๆก็เห็นร่างกายไม่ใช่เรา แว้บนึงนะ บางทีแปรงฟันอยู่ เห็นไม่ใช่เรามั้ย ที่เหลือเป็นเราหมดเลย เนี่ยปัญญากำลังปัญญาเราไม่พอ

ถ้ากำลังของเราพอนะ ศรัทธาของเราแน่นแฟ้น วิริยะของเราต่อเนื่อง สติของเราทำงานได้รวดเร็ว สมาธิเราดี จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว ปัญญาของเราดี เราแยกธาตุแยกขันธ์ เห็นไตรลักษณ์ของธาตุของขันธ์ ของกายของใจอย่างสม่ำเสมอ ถ้าแรงเราพอแบบนี้นะ จิตจะยิ่งมีกำลังที่จะตัดกิเลส เกิดอริยมรรค เกิดอริยผล เกิดอริยมรรคฆ่ากิเลสได้ ถ้ากำลังไม่พอ ไม่เกิดอริยมรรคหรอก

งั้นเราต้องมาพัฒนากำลังของเรานะ จุดอ่อนของฆราวาสคือกำลังน้อย สังเกตมั้ย บางวันก็ศรัทธา บางวันก็ไม่ศรัทธา บางวันก็(มี)วิริยะใช่มั้ย บางวันก็ไม่มีวิริยะ บางวันน้อยวันที่มีสติ จำนวนมากไม่มีสติหรอก หลงแหลกลาน จิตที่หลงไปกับจิตที่รู้สึกตัว จิตที่ตั้งมั่นอยู่กับตัวเอง มีน้อย รู้สึกมั้ย สภาวะที่หลงไปมีเยอะ สมาธิเราไม่พอนะ งั้นเราต้องพยายามมาพัฒนากำลังทั้ง ๕ เนี่ย ผนึกกำลังทั้ง ๕ นี่ขึ้นมาให้ได้นะ รวมแรงทั้ง ๕ นี้ขึ้นมาเนี่ย จะฆ่ากิเลสตาย เราต้องมารวมแรง


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน)
ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย ๑๔
หลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖

CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๕๖
File: 560120.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๓๙ ถึง นาทีที่ ๒๑ วินาทีที่ ๕๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : เบื่อเพราะโทสะหรือปัญญา?

เบื่อเพราะโทสะหรือปัญญา?

ถาม : เราจะทราบได้ยังไงครับว่า ความรู็สึกเบื่อหน่ายที่เกิด เกิดเพราะโทสะ หรือเกิดเพราะ จิตเห็นตามความเป็นจริงครับ?

ตอบ : จริงๆ แล้วไม่ต้องทราบก็ได้ครับ เพราะเบื่อก็รู้ว่าเบื่อไป ซึ่งไม่ว่าจะเบื่อแบบไหนมันก็ไม่เที่ยง เกิดดับเหมือนกันครับ แต่ถ้าจะหาคำตอบว่าเบื่อแบบไหนละก็

ต้องดูว่า ที่ว่าเบื่อนั้นเบื่ออย่างหนึ่งแล้วยังยินกับอีกอย่างที่ตรงช้ามหรือเปล่า เช่นถ้าเบื่อความทุกข์แต่ยังยินดีกับความสุขสงบ

ก็แสดงว่ายังเบื่อแบบโทสะ ถ้าเบื่อแบบนิพพิทา จะเบื่อสิ่งที่เป็นคู่ตรงข้ามเท่าๆ กัน เช่นเบื่อทั้งความทุกข์ และเบื่อความสุขสงบเหมือนๆ กันครับ

 

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๑๔) องค์มรรคต้องครบทั้ง ๘ อริยมรรคจึงจะเกิด

mp 3 (for download) : ศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค (๑๔) องค์มรรคต้องครบทั้ง ๘ อริยมรรคจึงจะเกิด

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี
เอื้อเฟื้อภาพโดย บ้านจิตสบาย

หลวงพ่อปราโมทย์ : วันนี้เทศน์เรื่องมรรคให้ฟังนะ มรรคมีหนึ่งนะ แต่มีองค์แปด แต่ไม่ได้มีแปดมรรคนะ ถ้าแปดมรรคเรียกมักมาก มรรคมีหนึ่งเท่านั้นแต่มีองค์แปด คล้ายๆ แมงมุมมีหนึ่งตัวแต่มีแปดขา หักออกขานึงก็พิการละ ใช้ไม่ได้ อริยมรรคจะไม่เกิดนะ ถ้าขนาดส่วนใดส่วนหนึ่ง

เพราะฉะนั้นส่วนแรกเลยที่ต้องรักษาคือศีล จำไว้นะ ตั้งใจ แล้วพยายามดำรงชีวิตอย่างสุจริต พยายามฝึกจิตฝึกใจไปเรื่อย คอยรู้ทันจิตไป กิเลสเกิดรู้ทัน อย่าให้มันครอบงำ รู้ทันกิเลสได้บ่อยๆ ใจก็มีกุศลมากขึ้นๆ แล้วก็หัดรู้สภาวะของรูปธรรมนามธรรมทั้งหลาย จนกระทั่งสติมันเกิด แล้วก็ฝึกจิตไป จิตไหลไปแล้วรู้ๆ สมาธิก็เกิด ในที่สุดก็มีสมาธิ มีสติรู้รูปรู้นามตามความเป็นจริงด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง จิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางคือจิตมีสมาธิ เมื่อมีสติรู้รูปรู้นามรู้กายรู้ใจด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางมากพอ ปัญญาจะเกิด จะเห็นแจ้งว่ารูปธรรมนามธรรมไม่ใช่ตัวตน เป็นแต่ตัวทุกข์ล้วนๆ ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ล้วนๆ พอปล่อยวางได้นะ คุณงามความดีทั้งหลายเนี่ยสมบูรณ์แบบหมดเลย ความสุขอันมหาศาลจะเกิดขึ้น


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓ ก่อนฉันเช้า


CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๔
Track: ๑๒
File: 530425A.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๘ วินาทีที่ ๑ ถึง นาทีที่ ๒๙ วินาทีที่ ๑๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Dhammada News : แนะนำ MobileRSS Pro ใช้แทน iOS Dhammada Apps

เรียน ท่านผู้ใช้งาน Dhammada.net

        เนื่องจากการใช้งาน iOS Dhammada Apps มีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่สูง ประกอบกับความนิยมในการใช้งานไม่มากนัก ทาง Dhammada Team จึงมีความจำเป็นต้องขอยุติการใช้งาน iOS Dhammada Apps ตั้งแต่วันนี้ (วันศุกร์ที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖) เป็นต้นไป

        สำหรับท่านที่ยังมีความคุ้นเคยในการใช้ Dhammada.net ด้วย Smart Phone ท่านสามารถเข้าได้ด้วย ๒ วิธีครับ คือ

        ๑ ใช้ Smart Phone Browser (วิธีนี้ ระบบจะตรวจสอบพบว่าเป็น Browser ของ Smart Phone แล้วจะเลือก Theme ของ Smart Phone โดยอัตโนมัติ)หรือ

        ๒ เลือกใช้ RSS Reader ซึ่งในกรณีนี้ ทาง Dhammada.net Team ขอแนะนำให้ใช้ MobileRSS Pro ซึ่งทาง Dhammada.net Team ได้ทำคู่มือการติดตั้งและปรับค่าไว้ให้แล้ว ตามข้างล่างนี้ครับ

        ขั้นตอนที่ ๑ เข้า App Stores ค้นหาคำว่า mobilerss free ตามรูป แล้วคลิ้กที่ icon สีฟ้า (ซึ่งเป็น Mobile RSS Pro)

        ขั้นตอนที่ ๒ คลิ้กที่ปุ่ม Free

        ขั้นตอนที่ ๓ ดาวน์โหลดและติดตั้ง

        ตอนที่ ๔ เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว หากไม่อยู่ที่หน้าแรก และต้องการย้ายไปไว้หน้าแรก ให้กดค้างที่ iCon

        ตอนที่ ๕ เมื่อ iCon เต้นดุ๊กดิ็ก ก็ให้ลากไปทางซ้าย เพื่อเปลี่ยนหน้าไปจนถึงหน้าแรก

        ตอนที่ ๖ เมื่อย้ายมาเรียบร้อยแล้ว ให้ กด (หรือ tab) ที่ iCon อีกครั้ง เพื่อเข้าไปตั้งค่า

        ตอนที่ ๗ ป้อน Google Account (หรือ Gmail User) และ Password แล้วกด (tab) ที่ปุ่ม “Sign in”

        ตอนที่ ๘ เมื่อเข้ามาถึงหน้าจอนี้ ให้กดปุ่ม + เพื่อจะตั้งค่าของ Dhammada.net

        ตอนที่ ๙ ป้อนข้อความว่า www.dhammada.net/feed/

        ตอนที่ ๑๐ เมื่อตั้งค่าให้เชื่อมต่อกับ Dhammada.net ได้แล้ว Mobile RSS Pro จะทำการแสดงรายการ ๑๐ รายการล่าสุด ดังภาพด้านล่าง ให้กดที่ปุ่มซ้ายมือบน (user name) เพื่อไปตั้งค่า Notification เพิ่มเติม

        ตอนที่ ๑๑ เมื่อออกจากหน้าจอข้างบนแล้ว ให้ scroll หน้าจอลงไปข้างล่างสุด จะเห็น RSS Feed ของ Dhammada.net และแสดงจำนวน post ที่ยังไม่ได้อ่าน แต่เนื่องจากตัวเลขชุดนี้ (ในรูปคือ 10) จะยังไม่แสดงที่ Badge ทำให้เราต้องทำการตั้งค่าเพิ่ม โดยกด (Tab) ที่รูปเฟือง

        ตอนที่ ๑๒ เมื่อเข้ามาในหน้าจอตั้งค่า (setting) แล้ว ให้ scroll หน้าจอลงไปข้างล่างจนพบคำว่า “Show Unread Badge” ให้ตั้งค่าเป็น “ON” แล้วกด (tab) ที่ปุ่ม “Done”

        ตอนที่ ๑๓ เมื่อถอยหน้าจอออกมาแล้ว และต้องการซ่อนรายการอื่นๆ ให้กด (tab) ที่ปุ่ม “Edit”

        ตอนที่ ๑๔ ดำเนินการซ่อนรายการอื่นๆโดยการกดปุ่ม Hide สีเทา ให้กลายเป็น Show สีแดงส้มให้หมด ตามภาพ แล้วกดปุ่ม (tab) “Done”

        ตอนที่ ๑๕ เมื่อดำเนินการเรียบร้อย จะเป็นดังรูปข้างล่าง ซึ่งท่านผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือน เมื่อมี update จาก Dhammada.net

        เพิ่มเติม หากต้องการรับแจ้ง New File Upload ด้วย สามารถทำเพิ่มเติมได้ ด้วยการกลับไปทำซ้ำที่ขั้นตอนที่ ๘ และ ๙ โดยใส่ “http://dhammada.net/clips/rss.xml” แทน “www.dhammada.net/feed/”

        ขอแสดงความนับถือ
        Dhammada.net

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 4 of 41234