การภาวนาในขั้นละเอียด(๑) : การรู้ขันธ์กับการรู้อริยสัจจ์
การรู้ขันธ์กับการรู้อริยสัจจ์ เป็นปัญญาคนละขั้นกัน
คือการรู้ขันธ์เป็นวิปัสสนาปัญญา
อันเป็นวิธีการที่จะให้จิตปล่อยวางขันธ์ที่จิตเคยยึดถืออยู่
เมื่อปล่อยวางขันธ์แล้ว จิตก็จะรวมเข้ามาที่จิต
เพื่อเริ่มกระบวนการที่เรียกว่า จิตเห็นจิต
ก็จะได้เห็นอริยสัจจ์ อันจัดเป็นโลกุตรปัญญา
หากไม่ผ่านวิปัสสนาปัญญา จู่ๆ จะพยายามย้อนรู้เข้ามาที่จิต
สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ การเพ่งจิต
จึงจำเป็นที่ผู้ปฏิบัติจะต้องเฝ้ารู้ความเกิดดับของอารมณ์ปรมัตถ์ของจริง
จนสามารถวางความยึดมั่นในอารมณ์ได้ แล้วจิตก็จะสงบรวมเข้ามาที่จิต
เพื่อเรียนรู้ อริยสัจจ์แห่งจิต
แต่บางคน แม้จะมีกำลังพอที่จะรู้ถึงจิตได้แล้ว
ก็ยังรัก ยังหวงที่จะกลับไปรู้ความเกิดดับของอารมณ์
อันเป็นเหตุให้ จิตเกิดปฏิกิริยาหมุนวนเป็นวัฏฏะต่อไปไม่สิ้นสุด
เช่นแทนที่จะระลึกรู้อยู่ที่จิต กลับหันไปรู้ลมหายใจอีก
จิตก็ต้องทำงานหมุนวนออกไปอีก
แทนที่จะ – หยุด – รู้ – อยู่ที่จิต – ซึ่งเหนือความคิดนึกปรุงแต่ง
เป็นการถ่วงตนเองให้เนิ่นช้าในการประจักษ์ถึงอริยสัจจ์แห่งจิต
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน จันทร์ ที่ 18 ธันวาคม 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่