การภาวนาในขั้นละเอียด(๓) : จิตที่หลุดพ้น
จิตที่หลุดพ้นยังไม่ใช่นิพพาน นิพพานเป็นสิ่งที่จิตที่หลุดพ้นไปรู้เข้าเท่านั้น
เมื่อรู้แล้ว ก็ไม่อาจจับจองเป็นเจ้าของนิพพานได้
และเมื่อถึงวันดับขันธ์ จิตก็สลายไป เหมือนไฟที่ดับไป
ส่วนนิพพาน
ก็คงเป็นธรรมที่ทรงธรรมอยู่ตามธรรมชาติธรรมดาของมหาสุญญตานั่นเอง
ไม่มีเกิดดับ และไม่มีใครเป็นเจ้าของครอบครองได้
ผู้ปฏิบัติที่จิตแหวกตนเองออกจากสิ่งห่อหุ้มแล้ว
ไม่นานสิ่งห่อหุ้มก็เข้ามาปกปิดจิตไว้อีก
การปฏิบัติในขั้นถัดจากนี้ ก็คือการเรียนรู้อริยสัจจ์แห่งจิตต่อไปนั่นเอง
วิธีรู้จิตในขั้นนี้ จะต้องรู้ให้เป็นรู้แท้ๆ คือไม่เจือด้วยความปรุงแต่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความจงใจที่จะรู้
สภาพรู้นั้น จะไม่มีน้ำหนักแม้แต่น้อย
ถ้าเติมความจงใจลงไปในรู้ จะเกิดน้ำหนักในการเพ่งจิตขึ้นนิดหนึ่ง
การดูจิตในขั้นนี้ คล้ายกับเรามีกระดาษที่บางกริบ 2 แผ่นซ้อนกัน
ปัญญาอัตโนมัติจะต้องตัดแผ่นหน้าให้ขาด คือรู้และตัดความปรุงแต่งขาด
โดยที่ไม่เกิดรอยในแผ่นหลัง คือไม่ให้กระเทือนถึงจิต
ถ้าจงใจขึ้นสักนิดหนึ่ง แรงกดจะเกิดขึ้นทันที
แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่จงใจดูให้เบา หรือจงใจประคองให้เบาด้วย
เพราะนั่นคือการเสแสร้งปฏิบัติ
การรู้ ที่เป็นรู้ อย่างแท้จริงนั้น ทำได้โดยอาศัยทักษะอย่างเดียวเท่านั้น
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน จันทร์ ที่ 18 ธันวาคม 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่