การปฎิบัติในรูปแบบ
การนั่งสมาธิ เดินจงกรม ทำวัตรสวดมนต์
ไม่จำเป็นนักกับคนที่มีสมาธิ และมีสติสัมปชัญญะต่อเนื่องอยู่ในชีวิตประจำวัน
แต่คนส่วนมาก ไม่ได้มีสมาธิและสติสัมปชัญญะจริงนะครับเจื้อย
การปฏิบัติธรรมตามรูปแบบ จึงจำเป็นสำหรับคนบางคน
แต่ก็เป็นเครื่องรุงรังสำหรับคนบางคน ที่เขาพร้อมมากแล้ว
อาจะยกตัวอย่างให้ฟังท่านหนึ่ง คือหลวงพ่อทูล
ในขณะที่ท่านเข้าถึงธรรมนั้น ท่านได้ฌาน 8 โดยอัตโนมัติด้วย
เพราะท่านอบรมสมาธิจิตมาดีแล้วตั้งแต่อดีต
เพียงทำความสงบนิดหน่อย ท่านก็สามารถมีสติปัญญาอยู่ในชีวิตประจำวัน
แล้วพัฒนาจิตใจไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
แต่คนอื่นที่จะเอาอย่างท่านนั้น ลำบากสักหน่อยครับ
เพราะแทนที่จะเป็นการเจริญปัญญาจริงๆ ในชีวิตประจำวัน
ก็อาจจะกลายเป็นการคิดๆ เอา แล้วกิเลสหลบในอยู่เฉยๆ ได้ง่ายๆ
สมาธินั้นจำเป็นสำหรับการบรรลุมรรคผลครับ
ถ้ายังไม่มีก็ต้องทำให้มี
ถ้ามีแล้วก็ต้องรู้จักใช้ประโยชน์เพื่อหนุนปัญญา
ให้ฉลาดแหลมคมขึ้นไปเป็นลำดับๆ
แต่การทำสมาธิหรือปฏิบัติธรรมตามรูปแบบ
สำหรับคนที่หลอมรวมการปฏิบัติเข้าในชีวิตจริงได้แล้ว
ก็ไม่มีความสำคัญมากนัก
เพราะในขณะที่เจริญสติสัมปชัญญะอยู่นั้น
หากจิตฟุ้งซ่าน หรือต้องการพักในสมาธิ
ผู้ปฏิบัติก็สามารถกำหนดจิตเข้าพักในความสงบได้เป็นระยะๆ ไป
ซึ่งก็คือการทำสมาธินั่นเอง แต่ไม่ได้ทำให้คนอื่นเห็นได้เป็นรูปธรรม
เพราะเป็นงานภายในล้วนๆ ทีเดียว
อาเคยอ่านธรรมะของคุณ XXXX แล้วรู้สึกถึงใจมาก
จึงนำมาให้ได้อ่านด้วย ดังนี้
ขอทุกย่างก้าว จงเป็นโอกาสแห่งการเดินจงกรม
ขอทุกลมหายใจ จงเป็นโอกาสแห่งการเจริญสติ
ขอทุกคำพูด จงเป็นโอกาสแห่งเมตตาและสัจจะ
ขอทุกความคิดและการกระทำ จงเป็นสัมมาทิฏฐิ
ถ้าทำได้อย่างนี้ ก็ไม่ต้องพูดถึงการปฏิบัติตามรูปแบบ
ถ้ายังไม่ได้อย่างนี้ การทนๆ ทำตามรูปแบบ ก็มีประโยชน์มากเช่นกัน
อาจึงไม่อาจสรุปชี้ขาดไปทางใดทางหนึ่งตามที่ต้องการได้
ว่าการปฏิบัติตามรูปแบบ จำเป็นหรือไม่
อย่างพระหนุ่มเณรน้อยตามวัดป่านั้น
ถ้าไม่มีกิจวัตรต้องทำวัดสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม
ก็อาจจะไม่ปฏิบัติเลยก็ได้
เพราะยังไม่มีฉันทะที่จะปฏิบัติเองโดยไม่ถูกบังคับ
หรืออย่างพวกเราส่วนมาก มีสิ่งดึงดูดไปทางโลกมาก
ถ้าบังคับตนเองให้ทำกิจวัตรหรือปฏิบัติตามรูปแบบไว้บ้าง
จะช่วยเสริมกำลังใจได้มากครับ
มิฉะนั้นก็จะขี้เกียจปฏิบัติ
แต่ปลอบใจตนเองว่า เราปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวัน
เราหลอกตนเองได้ แต่หลอกกิเลสไม่ได้หรอกครับ
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน จันทร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่