ความเป็นกลางจอมปลอม
มีพรรคพวก ขอให้ผมขยายความข้อความต่อไปนี้สักหน่อย คือ
“เมื่อรู้ความยินดียินร้ายด้วยจิตที่เป็นกลางแล้ว
ความยินดียินร้ายจะดับไป เหมือนกับอารมณ์อื่นๆ นั่นเอง
กระทั่งความเป็น “กลาง” จอมปลอม ก็จะถูกทำลายไป
จิตก็จะเข้าถึงธรรมชาติรู้ที่เป็นกลาง
ก็ให้ผู้ปฏิบัติ รู้อยู่ที่ จิต หรือธรรมชาติรู้ที่เป็นกลางนั่นเอง”
จุดที่สงสัยคือ ความเป็นกลางจอมปลอม เป็นอย่างไร
ในเวลาที่ดูจิตนั้น บางคราวจะเห็นความยินดี หรือความยินร้าย
แต่บางคราว ที่อารมณ์ไม่รุนแรงเร้าใจนัก จะเห็นว่าจิตเป็นกลางวางเฉย
หรือไม่ปรากฏกิเลสตัณหาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาให้เห็น
ในจุดนั้นผู้ปฏิบัติจำนวนมากจะรู้สึกว่าจิตของตนว่าง และเป็นกลางแล้ว
แท้จริงยังไม่ว่าง ยังไม่เป็นกลางจริง และยังไม่พ้นจากตัณหา
มันเพียงแต่มีอารมณ์เฉยๆ แต่เรามองไม่เห็น ไม่ได้เฉลียวใจ จึงคิดว่าไม่มีอะไร
เหมือนอย่างเรามองไปข้างหน้าเรานี้
แม้ไม่มีอะไรเลย ก็ยังมีอากาศอยู่ แต่มองไม่เห็น
ผู้ปฏิบัติที่จิตเข้ามาถึงความว่าง และเป็นกลางๆ ชนิดนี้
หากยินดี พอใจ หรือคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว
ย่อมไม่สามารถเจริญในธรรมต่อไปได้
แต่หากเฉลียวใจสักนิดหนึ่งว่า
จิตที่ว่างและเป็นกลางนั้น ยังเป็นภพอีกอันหนึ่ง
จึงจะสามารถปล่อยวาง แล้วเข้าถึงความเป็นกลาง คือ ใจ ได้
จิตที่ปล่อยวางจริงๆ หรือเป็นกลางจริงๆ นั้น เป็นจิตที่อิสระและเบิกบาน
เหมือนอยู่ในอีกระนาบหนึ่ง และไม่เข้ามายึดเกาะในก้อนขันธ์นี้เลย
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อ วัน พุธ ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่