ขณะที่จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง
ในเวลาที่เราดูจิตนั้น เมื่อเรารู้แล้วปล่อยวางอารมณ์เข้าไปตามลำดับๆ
ในที่สุด สติสัมปชัญญะจะไปประชุมลงที่จิต
ตรงนี้ถ้าไปหยุดรู้จิตอยู่อย่างซึมๆ (นิดเดียว) เพราะโมหะแทรก
เราจะไม่เห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง
ต่อเมื่อเกิดความเฉลียวใจนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ
ก็จะเห็นชัดว่า นามขันธ์โดยเฉพาะสัญญานั้น มันแนบอยู่กับจิต
จิตจึงทำงานหมายรู้ออกนอกได้ มายาของโลกมันเริ่มมาจากสัญญาและสังขารนี้เอง
แล้วเราก็พากันหลงว่า สัญญานี้คือจิตของเรา
พอเห็นสัญญาชัดเจน ต่างหากจากจิต
เราก็จะรู้จักธรรมชาติแท้ของจิตที่พ้นจากความปรุงแต่งในแว้บเดียว
ตรงนี้แหละครับที่จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งได้แท้จริง
เพราะไม่มีฝ้ามัวใดๆ มาเคลือบคลุมไว้
ถ้ารู้จักสิ่งนี้แล้ว ก็เป็นการง่ายที่จะเห็นสิ่งแปลกปลอมที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา
โดยคุณ สันตินันท์ (นามปากกาของหลวงพ่อปราโมทย์ก่อนบวช)
เมื่อวัน พุธ ที่ 1 มีนาคม 2543
เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓
ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่
สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่
ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่
คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่