Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

เจ้าชายสิทธัตถะ ฝึกสมาธิชนิดที่เกื้อกูลให้เกิดปัญญามาจนชำนาญก่อนแล้ว


mp3 for download : เจ้าชายสิทธัตถะ ฝึกสมาธิชนิดที่เกื้อกูลให้เกิดปัญญามาจนชำนาญก่อนแล้ว

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ :ทางสายกลางเนี่ย ไม่ใช่ท่านพบในวันเดียว (หมายความว่า ท่านเคยเดินทางสายกลางนี้มาก่อนแล้ว ก่อนมาเกิดในชาตินี้ – ผู้ถอด) หลักฐานที่สำคัญก็คือ ตอนที่ท่านอายุ ๓ ขวบเนี่ย ท่านนั่งสมาธิอยู่ที่ใต้ต้นหว้า นั่งเอง ไม่มีอาจารย์สอน แล้วตอนนั้นเป็นเด็ก ไม่มีมารยา ลุกขึ้นนั่งสมาธิก็นั่งไปด้วยความเคยชินของจิตที่ได้รับการฝึกฝนอบรมมาดีแล้ว

หายใจออก หายใจเข้า ด้วยความรู้สึกตัว จุดสำคัญอยู่ที่ความรู้สึกตัว ไม่ใช่หายใจเอาเคลิ้ม เอาสุข เอาสงบ แต่หายใจไปด้วยความรู้สึกตัว ท่านได้เอามาสอนสาวกในชั้นหลังนะ ที่ท่านได้บรรลุพระอรหันต์แล้วท่านก็เอามาสอน บอกว่า ภิกษุทั้งหลายให้เธอคู้บัลลังก์ คู้บัลลังก์ก็คือนั่งขัดสมาธิ ทำไมต้องนั่งขัดสมาธิ เพราะว่าไม่มีเก้าอี้จะนั่ง คนหรือนั่งบวชอะไรต่ออะไร สมัยนั้น เขาก็นั่งกับพื้น นั่งกับพื้น ท่านั่งที่นั่งได้ทนก็คือนั่งขัดสมาธิ นั่งพับเพียบก็นั่งได้ไม่ทน

ท่านบอกว่า ภิกษุทั้งหลายให้เธอนั่งคู้บัลลังก์ คือนั่งขัดสมาธิ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า เห็นมั้ย มีสติ (คำว่า “เฉพาะหน้า” หมายถึง “ปัจจุบัน” – ผู้ถอด) หายใจออกยาว รู้ว่าหายใจออกยาว หายใจเข้ายาว รู้ว่าหายใจเข้ายาว หายใจออกสั้น รู้ว่าหายใจออกสั้น หายใจเข้าสั้น รู้ว่าหายใจเข้าสั้น ลมหายใจระงับ รู้ว่าลมหายใจระงับ จิตตั้งมั่นเด่นดวงขึ้นมา ไม่ขาดสติ มีสติตลอด

เนี่ยสมาธิชนิดนี้แหละ คือสมาธิชนิดที่จะเอาไปเดินปัญญาต่อ ส่วนสมาธิที่มุ่งไปหาความสุข ความสงบ ความสบาย หรือมุ่งไปหาความดีต่างๆ เป็นสมาธิสาธารณะ ฤๅษีชีไพรเขาก็ทำมาก่อน แต่ไม่ทำให้เกิดปัญญา พวกเราต้องแยกให้ออกนะ สมาธิมี ๒ อย่าง สมาธิที่เป็นไปเพื่อความพักผ่อน เพื่อความสงบ ความสบาย เพื่อความสุข เป็นแบบหนึ่ง สมาธิที่มีจิตตั้งมั่น เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน มีสติอยู่ ไม่เผลอ ไม่ลืมเนื้อลืมตัว เป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นสมาธิมี ๒ ชนิด

พวกเรามักจะได้ยินได้ฟังเสมอนะว่า ต้องมีสมาธิจึงจะเกิดปัญญา อันนั้นน่ะพูดถูก แต่ไม่ถูกเต็มที่ ต้องมีสมาธิที่ถูกต้องถึงจะเกิดปัญญาได้ ถ้ามีสมาธิที่สงบ สบาย เพลิดเพลิน นิ่งๆไป ไม่เกิดปัญญาหรอก


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันศุกร์ที่ ๘ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖
File: 560208
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๙
ระหว่างนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๕๘ ถึงนาทีที่ ๗ วินาทีที่ ๓๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

(Visited 545 times, 1 visits today)

Comments are closed.