Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : เขียนนิยายอ่านนิยาย

เขียนนิยายอ่านนิยาย

ถาม : ดิฉันเป็นคนชอบอ่านนิยายทุกแนว และเห็นว่าทุกวันนี้มีหนังสือนิยายประเภทโรแมนซ์ที่มีฉากการมีเพศสัมพันธ์ชนิดโจ๋งครึ่ม

ซึ่งเขียนโดยนักเขียนไทยวางจำหน่ายบนแผงหนังสือเต็มไปหมด จึงอยากทราบว่า การที่คนเขียนนิยายเขียนเรื่องทำนองนั้น

จะผิดศีลธรรมไหมคะ หรือจะเป็นบาปไหม..แล้วคนอ่านจะผิดศีลและบาปไปด้วยไหมคะ. ?

ตอบ : อะไรที่ทำแล้ว ทำให้ผู้อื่นหรือตัวเองเกิดกิเลส เกิดอกุศล ก็เป็นบาปครับ แล้วเมื่อเกิดกิเลสเกิดอกุศลจนไปทำผิดศีล ก็จะยิ่งบาปมากขึ้น

 ทางที่ดีก็ให้เลือกอ่านอะไรที่ไม่เกิดกิเลสไม่เกิดอกุศล และจะดีที่สุดถ้ารู้จักอ่าน(สังเกต)จิตใจตัวเอง เพราะเมื่ออ่าน(สังเกต)จิตใจตัวเองเป็น

 ก็จะเกิดสติ มีจิตตั้งมั่น จิตจะเป็นกุศลและเจริญปัญญาพ้นทุกข์ได้ การอ่านนิยายอ่านยังไงๆก็พ้นทุกข์ไม่ได้หรอกนะครับ  :D

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : การหายใจแบบรู้สึกตัวทั่วพร้อม

การหายใจแบบรู้สึกตัวทั่วพร้อม

ถาม : การหายใจแบบรู้สึกตัวทั่วพร้อมนี่ทำอย่างไร?

ตอบ : ที่หลวงพ่อบอกให้หายใจแบบรู้สึกตัวทั่วพร้อม

ก็คือ ให้หายใจสบายๆ ด้วยความรู้สึกอยู่ว่ามีร่างกายกำลังหายใจอยู่

ไม่ใช่ส่งจิตไปแนบกับลมหายใจ ซึ่งถ้าส่งจิตไปแนบลมหายใจ

เราจะรู้สึกแค่ว่ามีลมหายใจ จะไม่รู้สึกว่ามีร่างกายหายใจอยู่ครับ

ถาม : ผมรู้สึกตัวโดยรู้ลมหายใจเข้าพอหายใจออกผมส่งจิตไปรู้สึกช่วงลำตัวและ
พอรู้สึกที่ลำตัวผมก็ว่งจิตต่อไปรู้ที่ขาสลับกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นการรู้สึกตัวทั่วพร้อมรึเปล่าครับ?
 ตอบ : ไม่ใช่รู้สึกตัวทั่วพร้อมหรอกครับ ถ้ารู้สึกตัวทั่วพร้อม จะรู้กายโดยรวมด้วยจิตที่ตั้งมั่น ไม่ส่งไปตรงนั้นตรงนี้ครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ผู้ปิดอบายภูมิ

ผู้ปิดอบายภูมิ

จะปิดอบายได้ต้องได้โสดาบันครับ

ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า โสดาบันเป็นผู้ละสังโยชน์ได้ 3 อย่างคือ

ละสักกายทิฏฐิ ละวิจิกิจฉา ละสีลัพพตปรามาส ได้

(รายละเอียดลองหาอ่านเอานะครับ จะให้อธิบายละเอียดนี่ ผมก็อธิบายไม่ไหวครับ)

 

ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าได้โสดาบัน

เรื่องนี้ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเหมือนกัน

เพราะแต่ละท่านที่เข้าใจว่าเป็นโสดาบัน

บางท่านก็ทราบด้วยญาณทัศนะของตัวเอง

บางท่านก็เทียบเคียงสภาวะว่าละสังโยชน์๓ ได้ขาดหรือไม่

บางท่านก็อาศัยครูบาอาจารย์ที่มีความแตกฉานช่วยบอกกล่าวให้

แต่ปัญหาคือ ไม่มีใครจะทราบได้แน่ชัดและแม่นยำดั่งพระพุทธเจ้า

จึงมีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะพยากรณ์มรรคผลให้ได้

 

ฉะนั้นยุคนี้จึงมีโสดาเทียมเยอะมาก

บางคนแค่นั่งสมาธิวูบลงไปก็คิดว่าเป็นโสดาบันแล้ว

บางคนถูกอาจารย์หลอกเอาก็มี

บางคนหลงเข้าใจผิดว่าได้แล้ว หลงกันทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์

ดังนั้นจึงไม่ควรยึดถือ ไม่ควรใคร่รู้ว่าใครจะเป็นอะไร

แต่ให้เพียรปฏิบัติภาวนาไป รักษาศีลไป มีจิตตั้งมั่นไป เห็นรูปนามเป็นไตรลักษณ์ไป

เพียรปฏิบัติภาวนาไปจนลมหายใจสุดท้ายนั่นแหละครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : การฝึกรู้ทันจิตที่เคลื่อน

การฝึกรู้ทันจิตที่เคลื่อน

หลักการคือ ให้จิตรู้อารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเครื่องอยู่ไว้สบายๆ

เช่น รู้ลมหายใจก็ได้ รู้กายเคลื่อนไหวก็ได้ รู้คำบริกรรมอะไรก็ได้

หรือจะใช้เลื่อนลูกปะคำ นับลูกปะคำก็ได้

แต่ให้เลือกอันที่รู้ได้สบายๆ ไม่เคร่งเครียด จิตใจมีความสุข

แล้วพอรู้อารมณ์นั้นไป สักพักจิตจะเคลื่อนหนีจากอารมณ์นั้นไปรู้อย่างอื่นแทน

เช่นเคลื่อนไปรู้ความคิด ซึ่งเราก็จะสังเกตได้ว่า อารมณ์ที่เราใช้เป็นเครื่องอยู่ได้หายไป

ถ้าเราสังเกตได้ว่า เมื่อกี้ลืมเครื่องอยู่ไป ก็จะกลับมารู้อารมณ์ที่เป็นเครื่องอยู่ได้ใหม่

ตรงที่แวบรู้ขึ้นมานั่นแหละครับ จะรู้สึกได้เลยว่า เมื่อกี้จิตเคลื่อนไป

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : แวบแรกที่รู้ว่าโกรธ

แวบแรกที่รู้ว่าโกรธ

ถาม : จังหวะที่เกิดโกรธหรือจิตมันเคลื่อนไปทุกข์ให้ผมรู้ใช่ไหมครับว่าผมโกรธแล้ว ผมก็ไม่ต้องไปดูมันต่อไปเรื่อยๆ รู้แค่ครั้งเดียวพอจนมันดับไปเองจึงให้รู้อีกว่ามันดับใช่ไหมครับ ?

ตอบ : ถ้าแวบแรกที่รู้ว่าโกรธได้แล้ว เกิดสติตั้งมั่นขึ้นมา จะเห็นความโกรธดับลง

แต่ถ้าแวบแรกเห็นแล้ว แต่ความโกรธไม่ดับ ถ้ายังมีกำลังพอยังสำรวมกายวาจาได้อยู่

ก็ควรหัดดูต่อไปอีก หัดดูโดยไม่เพ่งจ้อง ไม่แทรกแซงอะไร

ดูซิว่าความโกรธมันเที่ยงไหม มันสั่งให้หายได้ไหม

หรือถ้าหัดดูแล้วเกิดไปเห็นว่า ไม่ชอบ/อยากหายโกรธ ก็ให้มาดูจิตที่ไม่ชอบ/อยากหายนั้นแทน

 แต่ถ้ารู้สึกว่าความโกรธแรงมากจนดูไม่ไหวเพราะใกล้จะแสดงออกตามความโกรธแล้ว

ก็ต้องหยุดดู แล้วใช้อุบายทำความสงบตามที่ถนัด เพื่อให้จิตสงบลงตามสมควร

ก่อนจะหัดดูสภาวะอื่นๆ ต่อไปครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : อยากเห็นนิพพาน

อยากเห็นนิพพาน

ถาม : ผมรู้สึก…อยากสัมผัสพระนิพพาน…สักแว้บก็ยังดี… มันรู้สึกอยากอะครับ

ถ้าเป็นอย่างนี้..เวลาผมทำบุญ  ผมจะอธิฐาน…ขอให้ได้สัมผัสพระนิพพาน..แบบนี้ได้หรือไม่ครับ มันจะเป็น…ความอยากที่ไปปิดกั้นหรือไม่ครับ?

ตอบ : ความอยากเป็นสมุทัย

การทำตามความอยากจึงเท่ากับทำเหตุของทุกข์

ผลที่ได้ก็จะได้ทุกข์ แล้วจะสัมผัสพระนิพพานที่เป็นความพ้นทุกข์ได้ยังไงละครับ

 

ฉะนั้นเมื่อใดที่เกิดความอยาก ซึ่งเราห้ามไม่ให้เกิดก็ไม่ได้นั้น

เราก็ต้องมาหัดรู้ทันจิตที่มีความอยากด้วยการแค่รู้แค่ดูไป

การรู้ทันจิตที่อยากนี้จะเป็นการทำให้สติปัญญาเจริญขึ้นจนละสมุทัยลงได้ในที่สุด

เมื่อละสมุทัยได้ จึงจะสัมผัสพระนิพพานได้

 

ส่วนการอธิษฐานว่า ขอให้ได้สัมผัสพระนิพพาน

ถ้าไม่เข้าใจว่าการจะสัมผัสพระนิพพานต้องทำเหตุอย่างไร

แล้วไม่ได้ทำเหตุนั้น ก็จะสัมผัสพระนิพพานไม่ได้หรอกครับ

 

การอธิษฐานใดๆ ก็ตาม แท้จริงแล้ว

คือการที่เราประกาศความตั้งใจว่าจะทำสิ่งใดให้สำเร็จ

เมื่อประกาศคามตั้งใจแล้วก็ต้องลงมือทำให้เกิดความสำเร็จ

ไม่ใช่ประกาศความตั้งใจแล้วนั่งรอนอนรอสิ่งนั้น

แม้จะรอไปอีกนานแค่ไหน สิ่งนั้นก็ไม่เกิดขึ้นหรอกครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ธรรมะย่อมชนะอธรรม

ธรรมะย่อมชนะอธรรม

ธรรมะคือความไม่เที่ยงไม่ถาวร อธรรมจึงไม่อาจชนะธรรมะได้ เพราะอธรรมไม่สามารถเที่ยงถาวรได้ เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป

อีกนัยหนึ่ง เมื่ออธรรมเกิดขึ้นแล้วถูกระลึกรู้ด้วยสติสัมปชัญญะ

อธรรมนั้นย่อมต้านกำลังของธรรมะที่เป็นสติปัญญาไม่ได้ จึงดับไปด้วยกำลังของสติสัมปชัญญะนั่นเอง

ส่วนที่แพ้ชนะกันในโลกนั้น มันเป็นแค่กิเลสฝ่ายหน่งสู้กับกิเลสอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น จึงมีแต่กิเลสฝ่ายหนึ่งชนะ กิเลสอีกฝ่ายหนึ่งแพ้ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แล้วแต่ว่าฝ่ายไหนจะมีกำลังมากกว่ากัน

ฉะนั้น ตราบใดที่คนในโลกยังไม่มีธรรมะในใจ แล้วจะเอาธรรมะที่ไหนไปชนะอธรรมละครับ คนที่มีธรรมะในใจเท่านั้นที่จะชนะอธรรมได้

แต่น่าเสียดายที่คนส่วนมากในโลก ไม่มีธรรมในใจ อธรรมจึงครองโลกไปทุกหัวระแหง…

เราจึงต้องเอาธรรมะเข้าสู่ใจเราไว้แล้วเราก็จะชนะอธรรมได้แม้ว่าอธรรมจะครองโลกภายนอกอยู่ก็ตาม แต่มันจะครองใจเราไม่ได้

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : กด เพ่ง แน่น

กด เพ่ง แน่น

ถาม : ตอนนี้รู้สึกเวียนหัวและไม่อยากปฏิบัติ แต่สู้นะคะ  เวลาจะเริ่มรู้มันไปกดทันที ละก็แน่น ละก็เครียด จนบางทีรู้ว่าเผลอ แต่มันไม่รู้สึกตัว จะเริ่มยังไงดีคะ?

ตอบ : ต้องเข้าใจก่อนว่า เรามาปฏิบัติเพื่อจะได้เข้าใจความจริงของกายของใจ

ไม่ได้ปฏิบัติเพื่อจะให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อเข้าใจแล้วก็จับหลักนี้ไว้ให้ดีๆ

แล้วพอเกิดอะไรขึ้น ก็ให้ทำตัวเป็นแค่คนดูอยู่ห่างๆ ดูไปสบายๆ

ไม่ต้องจะไปเอาชนะสิ่งที่กำลังเป็นอยู่

 

อย่างตอนนี้พอรู้ว่าเผลอ ก็ให้แค่รู้ว่าเผลอ ไม่ใช่รู้แล้วต้องรู้สึกตัว

เพราะถ้ายังรู้ไม่ถูกก็จะยังไม่รู้สึกตัว

และถ้ายังไม่รู้สึกตัวก็ไม่ต้องพยายามที่จะทำให้รู้สึกตัว

แค่รู้ว่า ยังไม่รู้สึกตัว ก็ใช้ได้แล้ว

 

หรือกรณีที่รู้สึกว่ามันไปกดและแน่น เครียด ก็ให้แค่รู้ว่ากด รู้ว่าแน่น รู้ว่าเครียด

รู้แล้วก็ไม่ต้องหาทางแก้อะไร แค่หยุดทำตรงนั้นแล้วกลับมาอยู่กับกิจกรรมที่ทำต่อไป

ซึ่งถ้าเป็นในขณะกำลังทำรูปแบบ ก็ให้หยุดทำตรงนั้น แล้วทำใจให้สบายๆ

(อาจใช้การถอนหายใจออกแรงๆ เพื่อให้ผ่อนคลาย)

อย่าฝืนทำต่อทั้งๆ ที่รู้แล้วว่ากด แน่น เครียด เพราะจะกลายเป็นเคยชินแบบผิดๆไป

พอทำใจผ่อนคลายสบายๆ แล้วก็ค่อยกลับมาเริ่มทำรูปแบบอีกครั้ง

แล้วลองทำรูปแบบอื่นดูด้วย เพื่อจะได้สังเกตว่า

รูปแบบไหนทำแล้วจิตใจผ่อนคลายสบายๆ ที่สุด และจะได้ใช้รูปแบบนั้นไป

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : มันแน่นหน้าอก

มันแน่นหน้าอก

ถาม : เมื่อเดือนก่อนผมเดินจงกรมนั่งสมาธิเกือบทุกวันครับ

ทีนี้พอปฏิบัติไปมันรู้สึกแน่นหน้าอกครับ แรกๆก็เดินจรงกรมแน่นครับ หลังๆขัยรถยังแน่นเลยครับ

พอผ่านมาสักเดือนนึงครับมันก็แน่นมากเป็นลูกๆอยู่กลางหน้าอกเลยครับรู้สึกทุกข์มากครับ

ผมรู้สึกว่าผมทำผิดครับเพราะที่ฟังซีดีหลวงพ่อบอกว่าควรจะโปร่งโล่งเบาใช่มั้ยครับ ขออาจารย์โปรดแนะนำด้วยครัวว่าควรทำอย่างไรดีครับ ?

ตอบ : แสดงว่าเพ่งมากไปแล้วครับ

ต้องหัดทำด้วยใจที่สบายๆ ขณะที่กายเคลื่อนไหก็ใหรู้สบายๆ

อย่าฝืนบังคับจิตให้รู้อยู่ตลอดเวลา

ยอมให้จิตเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปตามปกติได้

พอจิตเผลอหลงไปก็หัดรู้ว่า เมื่อกี้เผลอหลงไป

ลองปรับดูก่อนนะครับ น่าจะคลายเพ่งลงได้

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ลิงชิงจิต

ลิงชิงจิต

  กิเลสสามตัวมันเล่นลิงชิงจิตกันนี่นา

 เดี๋ยวโทสะก็ชิงได้ เดี๋ยวราคะก็ชิงได้ เดี๋ยวโมหะก็ชิงได้

 พอสติมันเห็นว่ากิเลสมาเล่นลิงชิงจิตอยู่

 กิเลสมันก็พากันหลบไป ปล่อยให้สติมารักษาจิตไว้

 แต่พอสติอ่อนแรงรักษาจิตไม่ไหว เผลอไปแค่แวบเดียว

 กิเลสมันก็พากันมาเล่นลิงชิงจิตกันอีก

 แต่มันเล่นชิงจิตของนักภาวนาได้ไม่นานหรอก

 เพราะที่มันเล่นลิงชิงจิตอยู่ตอนนี้ได้

 ก็เพราะยังมีอวิชชาห่อหุ้มจิตเอาไว้ให้มันเห็นได้

 เมื่อใดที่อวิชชาถูกล้างออกไปหมด

 จิตก็พ้นจากการถูกห่อหุ้มไว้

 จะไม่มีอะไรให้กิเลสใช้หมายสังเกตให้เห็นจิตได้

 กิเลสจึงหาที่ที่จะให้มาเล่นลิงชิงจิตไม่เจออีกต่อไป.

 

บทปรุงแต่งนี้สอนให้รู้ว่า

 ตราบใดยังมีอวิชชา จิตก็ยังมีกิเลสอยู่นั่นแหละ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : คนขี้วิตกจริต

คนขี้วิตกจริต

ถาม : เบื่อความเป็นคนขี้วิตกจริตของตัวเอง มันทำให้ชีวิตไม่ไปไหน อยากแก้ไขนะคะ ?

ตอบ : การดิ้นรนหาทางแก้นิสัยตัวเองต่างหากละครับที่ทำให้ชีวิตไม่ไปไหน

ไม่ไปไหนเพราะไม่ยอมรับความจริง

ฉะนั้นต้องยอมรับก่อนว่าเรามีนิสัยขี้กลัวขี้กังวล (คนเป็นแบบนี้เยอะแยะไป)

แล้วก็วางใจแค่ว่า เอาละเราจะหัดดูจิตที่กลัว ดูจิตที่กังวล

หัดดูไปสบายๆ ดูแล้วมันจะหายหรือไม่หายก็แค่รู้แค่ดูมันไป

ดูซิว่า ความกลัวความกังวลมันเที่ยงไหม ถาวรไหม ห้ามได้ไหม

ถ้าดูจนเห็นว่ามันไม่เที่ยง ไม่ถาวร ห้ามไม่ได้ จิตเองก็จะฉลาดขึ้น

ความกลัวความกังวลก็จะค่อยๆ อ่อนกำลัง

จนหายกลัวได้กับหลายๆ เรื่องโดยไม่ต้องแก้นิสัยอะไรเลยครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : สภาวะที่แยกธาตุแยกขันธ์ได้เป็นอย่างไร ?

 สภาวะที่แยกธาตุแยกขันธ์ได้เป็นอย่างไร ?

ก็รู้สึกอยู่ว่า กายเป็นส่วนหนึ่งที่มีจิตเป็นผู้รู้อยู่

หรือ รู้สึกอยู่ว่า เวทนาเป็นส่วนหนึ่งที่มีจิตเป็นผู้รู้อยู่

หรือรู้สึกอยู่ว่า กิเลสอารมณ์ทางใจเป็นส่วนหนึ่งที่มีจิตเป็นผู้รู้อยู่

ถ้ารู้สึกแบบนี้ก็เป็นการแยกขันธ์ (บางคนอาจแยกได้ละเอียดกว่านี้)

ส่วนการแยกธาตุ จะรู้สึกว่าร่างกายเป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ถูกรู้ถูกดูอยู่ครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ดูความปวดดูยังไง?

ดูความปวดดูยังไง?

จะดูความปวดนี่ต้องมีกำลังตั้งมั่นสูงมากพอนะครับ ไม่งั้นจิตจะไหลไปแช่ความปวดจนดูความปวดไม่ได้

ถ้าจิตไหลไปแช่ต้องย้อนมาดูจิตที่ไหลไปแช่ ดูจิตไม่ชอบ ดูจิตที่ดิ้นรนอยากหาย

หรือรวมๆก็ดูจิตที่เกิดสภาวะต่างๆเพราะความปวดครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ทาน ศีล ภาวนา

ทาน ศีล ภาวนา

ทาน ศีล ภาวนา ล้วนเป็นสิ่งที่ควรทำตามโอกาสครับ

ทำแล้วก็มีผลต่างกันแต่ก็เกื้อกูลกันไปจนพ้นทุกข์

ถ้าไม่ทำทานเลยจิตใจก็แห้งแล้งรักษาศีลยากภาวนายาก

ถ้าทำทานแต่ไม่รักษาศีลไม่ภาวนาก็ไม่พ้นทุกข์

ถ้าทำทานรักษาศีลแต่ไม่ภาวนาก็ไม่พ้นทุกข์

การทำทานที่ดีคือการทำเพื่อฝึกจิตใจให้รู้จะเสียสละ

เมื่อมีโอกาสทำทาน ก็พิจารณาเอานะครับว่าควรทำหรือไม่ควรทำ

อย่างเช่นทานอะไรที่เรารู้สึกว่าทำแล้วไม่มีความสุขไม่ได้ประโยชน์ (แก่ผู้รับหรือผู้อื่น - ผู้เรียบเรียง) เราก็ไม่ต้องทำหรอกครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : จิตหมดแรงภาวนา

จิตหมดแรงภาวนา

ถาม : เวลาที่จิตหมดแรงภาวนา แล้วไม่ได้ไปฟังเทศน์หลวงพ่อ เหมือนใจมันอ่อนแอลงค่ะ

อันนี้พอจะมีวิธีไหนที่สามารถประคับประคองเวลาไม่ได้ไปพบครูบาอาจารย์ได้บ้างไม๊คะ?

ตอบ : ต้องอาศัยการทำในรูปแบบให้ได้ทุกวัน

แล้วก็ไม่ดิ้นรนที่จะให้จิตมีแรง

แม้จะไม่มีแรงก็ต้องหัดดูไป จะมีแรงแค่ไหนก็ดูไปแค่นั้น

จริงๆ แล้วแค่รู้ว่าจิตไม่มีแรงก็ใช้ได้แล้วครับ

อย่าไปทำอะไรให้ยุ่งยากเกินจำเป็นเพราะอยากให้จิตมีแรง

แล้วก็อย่าแค่คิดจะไปฟังหลวงพ่อเพื่อจะให้มีแรง

เพราะเราต้องพัฒนาจิตเราเองให้ได้

ไม่ใช่ต้องคอยติดครูบาอาจารย์ครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ระวังกิเลสที่แผดเผาตนเองและผู้อื่น

ระวังกิเลสที่แผดเผาตนเองและผู้อื่น

ผมใช้ชีวิตที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ มา 32 ปี

 เห็นได้ชัดคือ เทคโนโลยีและความรู้ต่างๆ

 ไม่ได้ช่วยพัฒนาจิตใจคนให้มีสันติได้เลย

 หลายคนที่กำลังเรียน

 หลายคนที่เรียนมากรู้มากจนจบป.เอกก็แล้ว

 หลายคนมีตำแน่งทางวิชาการก็แล้ว

 แต่ไม่เคยรู้จักสันติวิธี

 รู้จักแต่วิธีใช้กิเลสที่กำลังแผดเผาตัวเอง

 ออกไปเที่ยวแผดเผาคนอื่น

 เพื่อให้ได้อะไรที่ตัวเองต้องการ …

 

พอมองออกไปในวงกว้าง

 ก็ไม่ต่างอะไรกับคนส่วนหนึ่ง

 ที่คอยแต่แผดเผาคนอื่นเพื่อให้ได้ประโยชน์ตน

 ใครจะว่าจะเตือนอย่างไรก็ไม่ฟัง

 มีแต่ดันทุรังให้พวกมากลากกันไป

 โดยไม่รู้เลยว่า ที่จริงแล้ว

 กำลังแผดเผาตัวเอง แผดเผาพวกพ้อง

 และแผดเผาคนทั้งแผ่นดินให้ค่อยๆ แห้งตายไป ^_^

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ส่งจิตออกนอกให้น้อยลง

ส่งจิตออกนอกให้น้อยลง

ถ้าเราเข้าไปคลุกคลีกับหมู่คณะใดน้อยลง

 เราก็จะค่อยๆ ห่างออกมาจากหมู่คณะนั้นมากขึ้น

 

 รูปนามขันธ์ห้าก็เช่นกัน ถ้าจิตส่งออกไปหาน้อยลง

 จิตก็จะค่อยๆ ห่างออกมาจากรูปนามขันธ็ห้านั้นมากขึ้น

 จนในที่สุดจิตก็หลุดพ้น เลิกยึดมั่นถือมั่นในรูปนามขันธ็ห้านั้น

 

 จะให้จิตส่งออกน้อยลง ถอยห่างจากรูปนามขันธ์ห้ามากขึ้น

 ก็ต้องฝึกจิตให้มีสติ ให้มีความตั้งมั่นบ่อยๆ

 แล้วหัดรู้ไตรลักษณ์ของรูปนามขันธ์ห้านั้นไป

 ฝึกเท่านี้แหละ ไม่ต้องฝึกอะไรมากมายไปกว่านี้หรอก

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ทำสมถะอย่างไรไม่ให้เพ่ง?

ทำสมถะอย่างไรไม่ให้เพ่ง?

ถาม : คือผมสงสัยเรื่องการทำสมาธิ กับการติดเพ่งว่ามันต่างกันอย่างไรครับ มันต้องเพ่งเหมือนกันหรือป่าวครับ

เพราะเท่าที่ผมเข้าใจการทำสมถะคือการกำหนดหรือบังคับจิตให้รู้อยู่ที่อารมณ์อันเดียว(เพ่งเอา)

และหากผมเข้าใจถูกต้องการทำแบบนี้จะทำอย่างไรไม่ให้ตึงเครียดหรือครับ ?

ตอบ : ถ้ายังการกำหนดหรือยังต้องบังคับจิตให้รู้อยู่ที่อารมณ์อันเดียว จะยังไม่เป็นสมถะครับ จะเป็นสมถะจริงๆ

 ก็ต่อเมื่อจิตมารู้อารมณ์เดียวต่อเนื่องได้เองโดยไม่ถูกควบคุมบังคับไว้

 ถ้ายังต้องบังคับจิตให้รู้อยู่ที่อารมณ์อันเดียว ยังไงๆก็จะตึงเครียด

จะไม่ให้ตึงเครียด ต้องหัดรู้อารมณ์ที่ใช้ทำสมถะไปสบายๆ ซึ่งการรู้สบายๆ แรกๆ จะรู้ได้ไม่นานแล้วจิตจะเผลอลืมอารมณ์นั้นไป

พอเรานึกได้ว่าเผลอไปแล้ว ก็ให้กลับมารู้อารมณ์ต่อสบายๆ วิธีนี้ ถ้าเรามีจริตไปทางสมถะได้ จิตจะค่อยๆ

รู้อารมณ์เดียวได้นานขึ้นโดยไม่บังคับไว้ แต่ถ้าไม่มีจริตไปทางสมถะ จะรู้แล้วเผลอ รู้แล้วเผลอไป แต่ก็จะได้เป็นการฝึกสติรู้ทันจิต

ซึ่งไม่ว่าจะไปทางไหน ก็จะเกิดจิตตั้งมั่น รู้รูปนามเป็นไตรลักษณ์ เกิดปัญญาได้เหมือนกันครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : ทำยังไงดีคิดวนไปวนมา?

ทำยังไงดีคิดวนไปวนมาจนหลงในการคิด?

มีสองแบบ แต่ทั้งสองแบบ ต้องไม่พยายามที่จะไม่คิดนะครับ

แบบแรก ถ้าดูจิตไม่ไหวแล้ว ก็ให้ดูกายแทน แล้วถ้าดูกายก็ยังไม่ไหวก็ให้ทำสมถะ ทำสมถะก็ยังไม่ไหว

ก็ไปหาอะไรที่เป็นกุศลทำ เพื่อให้จิตได้พัก พักแล้วจะมีแรง มีแรงแล้วจะกลับมาดูกายได้ใหม่ ดูจิตได้ใหม่

 แบบที่สอง ชวนมันคิดเรื่องธรรมะแทนไปเลยครับ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เรียนรู้ดูขันธ์กับ อ.สุรวัฒน์ : รู้ทันความคิดเป็นเช่นไร?

รู้ทันความคิดเป็นเช่นไร?

เวลาที่รู้ทันความคิดนี่ จะรู้สึกขึ้นว่าจิตคิด

ลองสังเกตตรงแวบแรกที่รู้ว่าจิตคิด จะรู้สึกขึ้นมาแบบเงียบๆ ไม่มีคำพูด

ตรงแวบตรงนั้นเกิดสติรู้ทันจิตคิดแล้วครับ

แต่ขณะจิตต่อมา จิตที่รู้ทันจะดับไป แล้งเกิดจิตที่คิดครั้งใหม่ขึ้นมาเป็นคำพูดว่าเนี่ยเราคิดนะ

ซึ่งเมื่อเกิดจิตคิดครั้งใหม่ เราก็มาหัดรู้ทันจิตคิดครั้งใหม่ไป

แล้วจะเห็นว่า จิตคิดเกิดดับ จิตรู้ทันก็เกิดดับ  :D

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 2 of 3112345...102030...Last »