Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

มองโลกในแง่ดีบ้าง เราทำกรรมดีนะจึงเกิดมาในยุคที่ธรรมะยังเหลืออยู่

mp3 (for download): มองโลกในแง่ดีบ้าง เราทำกรรมดีนะจึงเกิดมาในยุคที่ธรรมะยังเหลืออยู่

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

มองโลกในแง่ดีบ้าง เราทำกรรมดีนะจึงเกิดมาในยุคที่ธรรมะยังเหลืออยู่

มองโลกในแง่ดีบ้าง เราทำกรรมดีนะจึงเกิดมาในยุคที่ธรรมะยังเหลืออยู่

หลวงพ่อปราโมทย์ : มองโลก มองแง่ดีบ้างนะ อย่าไปมองให้เครียดเกินไป ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มาฝึกจิตฝึกใจของเรานะ เราต้องอยู่กับมันน่ะ เราต้องอยู่ในสังคมอย่างนี้แหละ บ้านเมืองมันเป็นอย่างนี้แหละ ไม่ต้องไปทุกข์กับมันหรอกนะ ช่วยทางไหนได้ก็ช่วยไป

เราก็ต้องทำกรรมเอาไว้นะ เราถึงต้องมาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ สภาพแวดล้อมที่ธรรมะยังเหลืออยู่ กรรมดีนะไม่ใช่กรรมชั่ว ถ้าคนไหนทำกรรมมาไม่ดีตอนนี้ก็บอกว่าอยู่ในสังคมที่ไม่ดีเลย อยู่ที่เลือกอยู่ต่างหากนะ ฉลาดก็เลือกอยู่ในสังคมที่มีธรรมะ ธรรมะยังมีอยู่ เรามาศึกษาธรรมะกัน เรายกระดับจิตใจของเราขึ้นไป อกุศลให้ผลมาก็ไม่สนใจธรรมะ สนใจโลกๆก็เศร้าใจไปเรื่อย

ไม่แก้ที่อื่น แก้ที่อื่นก็ดีเหมือนกัน แต่มันแก้ลำบาก เรามาแก้ที่ใจเราก่อน อย่างน้อยเราสร้างสังคมที่ร่มเย็นนะ เป็นจุดเล็กๆขึ้นมารอบๆตัวเรา แต่ละคนมาเรียนธรรมะแล้วก็ใจเราร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมา สังคมเล็กๆรอบตัวเราก็จะร่มเย็นขึ้น

อันแรกเลยในครอบครัว ที่มาเรียนธรรมะกับหลวงพ่อนะ แล้วจิตใจร่มเย็นเปลี่ยนแปลงไป คนในครอบครัวสัมผัสได้แล้วก็เลยมาเรียนกันทั้งครอบครัว ต่อไปก็ไปอยู่ในสังคมที่ทำงาน คนอื่นเขาปากกัดตีนถีบ ถีบคนอื่นกัดคนอื่นตลอดน่ะ

เรามีตาดูมีหูฟัง มีใจคิดสร้างสรร ต่อไปคนอื่นเขาเริ่มเห็นนะ เขามีความทุกข์มีความเดือดร้อนอะไร เขาก็มาถามเรา ทำไมดูเราผ่องใส ดูเราสดชื่น ท่ามกลางความวุ่นวาย เรามีความสุขอยู่ได้อย่างไร เขาสนใจขึ้นมา

ถ้าเราปฏิบัติให้เขาเห็นนะ ไม่ได้ไปนั่งสมาธิให้เขาเห็นหรอก แต่หน้าเรานะจะผ่องใสนะ ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความสุข คนรอบๆตัวในที่ทำงานก็สัมผัสบ้าง พอเขาได้ศึกษาธรรมะขึ้น ต่อไปเขาก็ไปสร้างสังคมในครอบครัวของเขาบ้าง ให้ร่มเย็นขึ้นมา

นี่แก้ทั้งระบบเราทำไม่ไหวนะ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม เราช่วยกันสร้างจุดที่ร่มเย็นนะ จุดเล็กๆนี่แหละ ค่อยๆกระจายออกไป เผื่อว่าสังคมจะได้ร่มเย็นมากขึ้นในวันหนึ่งข้างหน้านะ ส่วนมากจะไปคิดแก้คนอื่น แก้ไม่ได้จริงหรอก

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔

CD: ๔๐
File: 540709B
ระหว่างนาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๐๑ ถึงนาทีที่ ๓ วินาทีที่ ๐๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ธรรมะยังสมบูรณ์ แต่เราลงมือปฎิบัติให้สมควรแก่ธรรมหรือยัง

mp3 (for download): ธรรมะยังสมบูรณ์ แต่เราลงมือปฎิบัติให้สมควรแก่ธรรมหรือยัง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ธรรมะยังสมบูรณ์ แต่เราลงมือปฎิบัติให้สมควรแก่ธรรมหรือยัง

ธรรมะยังสมบูรณ์ แต่เราลงมือปฎิบัติให้สมควรแก่ธรรมหรือยัง

หลวงพ่อปราโมทย์ : รักษาศีล ๕ ไว้ รู้สึกตัวบ่อยๆ แล้วดูกายดูใจทำงาน มรรคผลนิพพานไม่ไปไหนหรอก พระพุทธเจ้าเคยสอนนะ ใครเจริญสติปัฏฐาน ๔ เจ็ดวัน เจ็ดเดือน เจ็ดปี ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์ก็พระอนาคาฯ ถ้าเราบารมีไม่ถึงนะ ได้โสดาฯก็ยังดีนะ อยู่ที่เราทำหรือเปล่า

ธรรมะของท่านยังสมบูรณ์ เต็มเปี่ยม ไม่ขาดตกบกพร่อง อยู่ที่เราเรียนให้รู้เรื่อง แล้วก็ลงมือทำให้สมควรแก่ธรรมเท่านั้นเอง ไม่ใช่นับเวลานะ แต่วันทำวันละนิดๆหน่อยๆ หลงวันละเยอะๆ แล้วบอกว่าเนี่ยทำมาเจ็ดปีแล้วไม่บรรลุสักที โถ.. รวมเวลาแล้ว ได้สามชั่วโมงหรือเปล่ายังไม่รู้เลยนะ

เนี่ย.. ทำให้สมควรแก่ธรรมนะ ธรรมะยังไม่หนีไปไหน แล้วเราจะได้รู้เลยว่า อัศจรรย์ อัศจรรย์เหลือเกินพระพุทธเจ้า อัศจรรย์จริงๆพระธรรม อัศจรรย์จริงๆนะพระสงฆ์ ไม่มีอะไรเหมือนเลยนะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
แสดงธรรมเมื่อ วันพุธที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔

CD: แสดงธรรมเทศนานอกสถานที่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
File: 540810A
ระหว่างนาทีที่ ๘๑ วินาทีที่ ๕๐ ถึง นาทีที่ ๘๒ วินาทีที่ ๕๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พัฒนาตัวเองขึ้นมาแล้วในบ้านจะร่มเย็นเป็นสุข

mp3 (for download): พัฒนาตัวเองขึ้นมาแล้วในบ้านจะร่มเย็นเป็นสุข

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

พัฒนาตัวเองขึ้นมาแล้วในบ้านจะร่มเย็นเป็นสุข

พัฒนาตัวเองขึ้นมาแล้วในบ้านจะร่มเย็นเป็นสุข

หลวงพ่อปราโมทย์ : ธรรมะต้องได้รับการรักษาสืบทอดไปนะ หน้าที่ของชาวพุทธ ศาสนาของเราร่อแร่เต็มทีแล้ว เรามีแต่พุทธแต่ชื่อนะ พุทธแต่ทะเบียนบ้าน ไม่มีศีลมีธรรม บ้านเมืองไม่มีศีลมีธรรม ร้อนทุกหย่อมหญ้าแล้ว

เราไปเปลี่ยนสังคมใหญ่ยังไม่ได้ เราเปลี่ยนตัวเราเองก่อนนะ เปลี่ยนสังคมย่อยๆในบ้านเรา พัฒนาตัวเองขึ้นมาแล้วในบ้านเราร่มเย็นเป็นสุข ต่อไปในที่ทำงานเราร่มเย็นเป็นสุข แผ่ความร่มเย็นแผ่ความสว่างค่อยๆกระจายออกไป เรามันคนตัวเล็กตัวน้อยนะ ไม่ได้มีอิทธิพลอำนาจอะไรทำได้ใหญ่โตนะ พัฒนาตัวเองพัฒนาคนรอบๆตัวเรา อยู่ไปท่ามกลางความเร่าร้อนนี้แหละ อยู่กับมันให้ได้ อยู่ด้วยสติด้วยปัญญา โลกนี้ทุกข์นะ ไม่ดีวิเศษหรอก ทางพ้นทุกข์ก็มีอยู่แล้ว อยู่ที่ทำเอา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
แสดงธรรมเมื่อ วันพุธที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔

CD: แสดงธรรมเทศนานอกสถานที่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
File: 540810A
ระหว่างนาทีที่ ๘๔ วินาทีที่ ๑๔ ถึง นาทีที่ ๘๕ วินาทีที่ ๑๕

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

อย่าขี้เกียจนะ หยุดเมื่อไหร่จะถอยหลัง

mp3 for download : อย่าขี้เกียจนะ หยุดเมื่อไหร่จะถอยหลัง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

อย่าขี้เกียจนะ หยุดเมื่อไหร่จะถอยหลัง

อย่าขี้เกียจนะ หยุดเมื่อไหร่จะถอยหลัง

หลวงพ่อปราโมทย์ : ที่ฝึกอยู่ใช้ได้แล้วนะ อย่าขี้เกียจเท่านั้นแหละ ดูไปเรื่อยๆอย่าเว้นวรรคนะ การปฏิบัติเหมือนพายเรือทวนน้ำ ถ้าเว้นวรรคหยุดเมื่อไหร่นะ จะถอยหลัง แล้วก็พอถอยหลังนะ รวบรวมแรงมาพายอีก ทวนน้ำขึ้นไปอีกสักพักนะ เดี๋ยวก็หยุดแล้วถอยหลังอีก พอถอยหลังหลายๆหนแล้วนะ จะหมดแรง หมดกำลังใจที่จะปฏิบัติ

มันเหมือนเราพายเรือทวนน้ำจะขึ้นแก่งสักอันหนึ่ง ต้องฮึดๆ ฮึดๆ นะ สู้ตาย ดูเรื่อยๆอย่าหยุด พอมันขึ้นไปได้แล้ว เฮ่อ..พ้นแก่งที่หนึ่งแล้วค่อยยังชั่วแล้ว น้ำจะค่อยๆอ่อนลงๆ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๑ หลังฉันเช้า

CD: ๒๔
File: 510324B
ระหว่างนาทีที่ ๓๖ วินาทีที่ ๓๑ ถึงนาทีที่ ๓๗ วินาทีที่ ๐๗

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เมื่อต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก

mp3 (for download): เมื่อต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.


พ่อปราโมทย์ : วันนี้เรามาพบกันในงานศพ ก็เป็นโอกาสของการฟังธรรม ชาวพุทธเราจะไม่ปล่อยชีวิตให้ล่วงเลยไปเปล่าๆ หน้าที่ของชาวพุทธก็ต้องศึกษาธรรมะ มาพบกันในโอกาสงานศพก็ต้องพูดธรรมะกัน

ธรรมะนี้เป็นเครื่องถอดถอนความเศร้าโศกออกจากจิตใจ คนที่เรารักตาย จิตใจของเราเศร้าโศกเป็นเรื่องธรรมดา ห้ามไม่ได้ ใครๆก็กลัวตายเพราะเราไม่มั่นใจว่าตายแล้วชีวิตจะเป็นอย่างไร ชีวิตหลังความตายมีหรือไม่มีก็ไม่รู้นะ แต่กลัวไว้ก่อน กลัวไม่มีนั่นแหละ ถ้ามีก็กลัวไม่ดี

ถ้าเราเตรียมความพร้อม หัดพัฒนาจิตใจของเราให้ดี มีศีลมีสมาธิมีปัญญา สะสมไป เราไม่กลัวความตาย ความตายไม่ได้น่ากลัวอะไร มันน่ากลัวสำหรับคนซึ่งไม่มั่นใจในคุณงามความดีของตัวเอง ถ้ามั่นใจในคุณงามความดีของตัวเองแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย เราจะเผชิญความตายด้วยความองอาจกล้าหาญ

ในส่วนของคนแต่ละคนนะ ที่จะตายก็ต้องเตรียมความพร้อม พวกเราญาติมิตรลูกหลานก็ต้องเตรียมความพร้อม บางคนก็ร้องห่มร้องไห้เสียอกเสียใจ ทำไมต้องเสียใจ เพราะไม่อยากให้ตาย ก็เลยคิดว่าความตายของคนที่เรารักเนี่ยทำให้เราเศร้าโศก ความจริงแล้วความตายของใครก็ไม่ได้ทำให้เราต้องเป็นทุกข์นะ เราเป็นทุกข์เพราะใจเราไม่ยอมรับความจริงว่าเขาต้องตาย เราอยากให้เขาอยู่นานๆ เราทุกข์เพราะความอยากของเราเอง ไม่ใช่ทุกข์เพราะผู้ตาย

เพราะฉะนั้นถ้าเราเข้าใจตรงนี้นะ คนที่เรารักตายนั่นก็คือสภาวะธรรมดา ยังไงวันหนึ่งก็ต้องพลัดพราก เราไม่พลัดพรากจากเขา ก็เขาพลัดพรากจากเรา ก็ต้องมีข้างหนึ่งล่ะ ยังไงก็ต้องพลัดพรากจากกันนะ ตายพร้อมๆกันก็ยังต้องพลัดพรากจากกันอีก ถ้าเข้าใจความจริงของชีวิต เกิดมาแล้วยังไงเราก็หนีความตายไม่พ้นนะ หนีความพลัดพรากจากคนที่เรารักไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับความจริง ถ้าเรายอมรับความจริงไม่ได้เราก็มีความทุกข์ ยังยอมรับความตายไม่ได้ พอมีความตายเกิดขึ้นเราก็ทุกข์ ใจเราอยาก อยากให้เขาไม่ตาย พอเขาตายแล้วเราก็ทุกข์ อยากให้ฟื้นเขาไม่ยอมฟื้นก็ทุกข์อีก

เพราะฉะนั้นจริงๆเราทุกข์เพราะความอยากของตนเอง ไม่ใช่ทุกข์เพราะว่าเขาตายหรอกนะ เพราะฉะนั้นเรามาฝึกจิตฝึกใจของเรา ให้ข้ามพ้นความอยากไป ไม่ใช่เฉพาะอยากเรื่องให้คนตายแล้วฟื้นหรืออยากให้คนไม่ตาย อยากอะไรก็ตามเถอะ ความอยากอะไรเกิดขึ้นทีไรความทุกข์ก็เกิดขึ้นทุกที มีความอยากทีไรก็มีความทุกข์ทุกทีแหละ

ทีนี้ห้ามใจไม่ให้อยากมันห้ามไม่ได้ เราต้องมาพัฒนาใจของเราให้มันฉลาด ทำไมใจเรามีความอยาก มันหวังว่ามันจะได้สิ่งที่ดีๆ หวังว่าจะไม่พลัดพรากจากสิ่งที่ดีๆ มันมีความอยากมีความหวังอยู่อย่างนี้ ห้ามมันไม่ได้

แต่ถ้ามาเรียนรู้ความจริงของชีวิต ชีวิตของเราไม่ใช่ของดีของวิเศษอะไรนักหรอก ร่างกายจิตใจที่ประกอบกันเป็นตัวเรานะ คนตายเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ถึงวันหนึ่งก็ต้องทิ้งไป เราเองวันหนึ่งก็ต้องทิ้งไป ร่างกายนี้ที่เรารักเราหวงแหนนี้ ยังหนุ่มยังสาวเราก็ว่ามันดี พออยู่ไปนานๆแล้วรู้เลยมันมีแต่ทุกข์ทั้งนั้นเลย ในร่างกายของเราถูกความทุกข์บีบคั้นอยู่ทั้งวันทั้งคืน แต่คนที่ไม่มีปัญญาก็มองไม่เห็น มันทุกข์ยังไง เดี๋ยวก็หิวเดี๋ยวก็หนาวเดี๋ยวก็ร้อนนะ เดี๋ยวก็อย่างโน้นเดี๋ยวก็อย่างนี้ นานๆเข้าก็ป่วยหนักๆสักทีหนึ่ง อะไรอย่างนี้

ถ้าเรามีสติ มีปัญญา เรารู้ลงในร่างกายเราบ่อยๆ เราเห็นร่างกายนี้มีแต่ความทุกข์ ยกตัวอย่างคนไม่สบายก็มีความทุกข์เยอะ เราอยากให้ญาติของเราไม่ตายเนี่ย เขาไม่สบายมาตั้งนานแล้ว เราอยากให้เขาทุกข์นานๆหรือเปล่า? เราอยากให้เขาอยู่อย่างเดียวนะไม่ได้อยากให้เขาทุกข์นะ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เป็นความอยากที่ขัดกับความจริงน่ะ ก็เขาไม่สบายเขาอยู่นานเขายิ่งทุกข์มากเลยนะ ถ้าเราเข้าใจตรงนี้เราก็ไม่กังวลหรอก เขาตายก็สมควรตายแล้่ว

หลวงพ่อตอนนั้นยังไม่บวชนะ ตอนเตี่ยของหลวงพ่อตาย มีทำกงเต๊กด้วยหลวงพ่อชอบที่สุดเลยเรื่องทำกงเต๊กเนี่ย มันส์มากเลย เสียดายเขาไม่นิมนต์มาดูกงเต๊ก เตี่ยตายแทนที่เราจะเศร้าโศกนะ จิตมันร่าเริงนะ จิตใจมันร่าเริงมันยอมรับความจริงน่ะว่า วันหนึ่งเขาต้องตาย เขาอยู่แล้วเขาทรมานมากกว่าเขาตายอีก ทีนี้บางทีก็เป็นความเห็นแก่ตัวของเรานะ เราพยายามยื้อคนที่ป่วยหนักๆไม่ให้ตายเนี่ย เรากลัวความพลัดพราก ถ้าเราเมตตาสงสารเขาบางทีก็ต้องปล่อยให้เขาตายนะ ตามธรรมชาตินี้ดีที่สุดเลย ไปปั๊มพ์มากๆทรมานมาก เหนื่อย เหนื่อยทุกฝ่าย เราก็ลุ้นไม่ให้เขาตาย สุดท้ายก็ตาย

อยู่ที่ใจเรานะ ใจเราค่อยเรียนรู้ความจริงลงไป ชีวิตนี้ไม่ใช่ของวิเศษวิโสอะไรที่จะต้องหวงแหนมากมาย ชีวิตนี้เต็มไปด้วยความทุกข์น่ะ ถ้าเรารู้สึกนะ คอยรู้สึกอยู่ในร่างกาย เห็นร่างกายมีแต่ความทุกข์ มาคอยดูจิตดูใจของเรา ใจเราไม่เคยเต็มอิ่มเลย ใจเราก็มีแต่ความทุกข์เต็มไปหมดเลย เพราะวันหนึ่งความอยากเกิดขึ้นตั้งมากมาย ความอยากเกิดขึ้นทีไรความทุกข์เกิดขึ้นทุกที ไปสังเกตดูนะ สังเกตดูว่าจริงหรือไม่จริงว่าความอยากเกิดขึ้นแล้วความทุกข์จะตามมา

ถ้าคนที่สติปัญญาไม่มากพอก็คิดว่าถ้าอยากนะยังไม่ทุกข์ ต้องไม่สมอยากก่อนถึงจะทุกข์ แต่ถ้าคนมีสติมีปัญญามากขึ้นหัดภาวนา ดูของจริง ในจิตในใจของตนเอง จะรู้เลยว่าในทันทีที่ความอยากเกิดขึ้น จิตมีความเครียดเกิดขึ้นแล้ว มันจะทุกข์น่ะ อยากแล้วมันก็ลุ้นใช่มั้ยว่าจะได้อย่างที่อยากมั้ย

เพราะฉะนั้นเรามาเฝ้ารู้อยู่ที่ใจเรานะ จะเห็นเลยว่าในใจนี้เต็มไปด้วยความอยาก เพราะฉะนั้นใจนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ เพราะฉะนั้นทั้งกายทั้งใจที่ประกอบขึ้นมาเป็นคนนะ ประกอบเป็นสัตว์ทั้งหลายนี้ เป็นตัวทุกข์ทั้งหมดเลยนะ เรามาคอยรู้คอยดูอยู่ นี่เป็นวิธีปฏิบัติธรรม

การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องอะไรที่ลึกลับ ไม่ใช่เรื่องการไปนั่งหลับหูหลับตาอะไรมากมายนะ ทำสมาธิทำไปเหมือนกันไม่ใช่ไม่ทำ ทำพอให้จิตใจมีเรี่ยวมีแรง พอจิตใจมีเรี่ยวมีแรงแล้วต้องมาดูความจริงของร่างกาย มาดูความจริงของจิตใจ ความจริงของร่างกาย ร่างกายมีแต่ความทุกข์เยอะแยะไปหมดเลยนะ ความจริงของจิตใจก็คือมีความทุกข์เยอะแยะไปหมดเลย เนี่ยเฝ้ารู้ลงไปๆแล้วเราจะรู้เลยว่า สิ่งที่ดำรงชีวิตอยู่นี้ไม่มีอะไรนอกจากตัวทุกข์ทั้งนั้น ถ้าเราเห็นได้อย่างนี้เราจะไม่กลัวตาย

สิ่งที่มีชีวิตอยู่ตอนนี้ก็คือตัวทุกข์นะ เวลาจะตายก็คือตัวทุกข์มันจะตาย มันไม่ใช่ของดีของวิเศษมันกำลังจะตาย เราจะเห็นเลยว่าตัวทุกข์มันจะตาย ถ้าตัวทุกข์มันจะตายเราจะไปกลุ้มใจทำไม

พระอรหันต์นะ ถึงเวลาวันที่จะตายเนี่ย จะผ่องใสมากเลยนะ จะผ่องใสเป็นพิเศษเลย เพราะตัวทุกข์มันกำลังจะตายละ สมน้ำหน้ามันนะ นี่จิตใจจะห้าวหาญเหมือนนักรบที่กล้าหาญมากๆ ได้ยินเสียงกลองศึกแล้วคึกคัก ไม่ใช่เข่าอ่อนใจฝ่อนะ ไม่เหมือนอย่างพวกเราหลายคนเลยใจฝ่อ เคยเห็นมั้ยคนจะตายร้องไห้ ไม่อยากตายๆ

หลวงพ่อเคยเจอคนหนึ่งนะ ไม่อยากตายๆ สุดท้ายมันตายนะ คนที่เขามีหูมีตาก็บอกว่า มันไม่ยอมไปไหนเลยมันเฝ้าศพอยู่อย่างนั้นน่ะ หวังว่าจะมีหมอมารักษาให้มันฟื้นได้อีก พยายามลองไปนอนทับศพนะ พยายาม กะว่าถ้าลงไปนอนพอดีแล้วจะลุกขึ้นมาได้ ขืนมันลุกขึ้นมานะ คนที่กำลังร้องไห้รักมันอยู่นะจะวิ่งหนีหมดศาลาเลย มันไม่รักจริงหรอก เนี่ย ถ้าลุกขึ้นมาเอามั้ย รักนักหนา.. ลุกขึ้นมาไม่เอาแล้ว ไปฮวงซุ้ยเหอะ ไป

เพราะฉะนั้นมาเรียนรู้นะ มาเรียนรู้ความจริงของชีวิตนะ มาเรียนรู้ความจริงของชีวิตแล้วเราจะไม่กลัวตาย เราจะไม่เศร้าโศกเพราะความตาย เรารู้เลยว่า ที่เราเศร้าโศกที่เห็นคนตายที่เห็นคนที่รักตายนั้น จริงแล้วเราเศร้าโศกเพราะว่าใจเราอยากนั้นเอง อยากให้เขาอยู่ อยากให้เขามีชีวิตอยู่นานๆ อยากให้เขาไม่ตายอะไรอย่างนั้น เป็นความอยากที่ไร้เดียงสา ใครๆมันก็ตายกันทั้งนั้นแหละ ถ้าเข้าใจอันนี้ก็ไม่กล้วแล้ว คนที่เรารักจะตายมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ตัวเราจะตายก็เป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะตัวเรานะมีแต่ตัวทุกข์นะ ตัวทุกข์จะตายจะไปเสียดายทำไม

เพราะฉะนั้นอยู่ที่สติปัญญานะ จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่อยู่ที่ใครอื่นหรอก จะหวังว่าคนที่เรารักจะอยู่กับเราตลอดไป เราถึงจะไม่ทุกข์ อย่างนี้หวังไม่ได้ ไม่จากตายก็จากเป็น ยังไงก็จาก เพราะฉะนั้นเราฝึกฝนใจของเราไปเรื่อย ต่อไปใจเรามีความสุขนะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร

แสดงธรรมเมื่อ วันพุธที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔

CD: แสดงธรรมเทศนานอกสถานที่ วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร
File: 540810B
ระหว่างนาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๒๓ ถึง นาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๑๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

หาต้นทางได้ แล้วการปฎิบัติจะไม่ยาก

mp3 for download : หาต้นทางได้ แล้วการปฎิบัติจะไม่ยาก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หาต้นทางได้ แล้วการปฎิบัติจะไม่ยาก

หาต้นทางได้ แล้วการปฎิบัติจะไม่ยาก

หลวงพ่อปราโมทย์ : ฟังเหมือนยากนะ ไม่ยากเลย ทำต้นทางให้ได้ มันยาก กว่าที่คนๆหนึ่งจะขึ้นต้นทางได้ แต่คนที่เดินอยู่บนเส้นทางนี้ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ลัดสั้น เพราะธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมของมหาบุรุษ เป็นธรรมที่ไม่เนิ่นช้า ลัดสั้น

สติปัฏฐานนั้น ผู้ใดทำถูกนะ ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี ต้องเห็นผล คนในครั้งพุทธกาลบารมีแก่กล้า ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี นะ เป็นพระอรหันต์ หรือได้พระอนาคา ของเรารุ่นนี้ ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี ได้โสดาก็บุญนักหนาแล้วนะ เพราะอินทรีย์เราอ่อนกว่าคนยุคโน้นเขานะ เพราะฉะนั้นอดทนนะ พากเพียรไป รู้กายรู้ใจ รู้กายรู้ใจ อย่าลืมกายอย่าลืมใจ กายมีอยู่ก็คอยรู้สึกไว้ จิตใจมีอยู่คอยรู้สึกไว้
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันจันทร์ที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๑ หลังฉันเช้า

CD: ๒๕
File: 510428B
ระหว่างนาทีที่ ๙ วินาทีที่ ๐๓ ถึงนาทีที่ ๙ วินาทีที่ ๕๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ไม่มีของฟรี ไม่มีของฟลุ๊ก มีแต่ต้องทำเอาเอง

mp3 (for download): ไม่มีของฟรี ไม่มีของฟลุ๊ก มีแต่ต้องทำเอาเอง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ไม่มีของฟรี ไม่มีของฟลุ๊ก มีแต่ต้องทำเอาเอง

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าฝึกไปเรื่อยๆเราจะเห็น คอยตามรู้กาย คอยตามรู้ใจ รู้เรื่อยๆ ถึงวันหนึ่งก็จะรู้ความจริงของกายของใจ ว่ามันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันบังคับไม่ได้ เนี่ย ให้หัดรู้สึกไป ความรู้สึกใดๆแปลกปลอมขึ้นในใจ คอยรู้เรื่อยๆนะ รู้ไปเรื่อยๆ

ถ้ารู้ไปเรื่อยๆต่อไปก็เห็นความจริง ว่า อ้อ.. ทุกอย่างชั่วคราว ความสุขชั่วคราว ความทุกข์ชั่วคราว โลภ โกรธ หลง ก็ของชั่วคราว อะไรๆก็ชั่วคราวหมดเลย จะเห็นอย่างนี้ เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก เจ็ดวัน เจ็ดเดือน เจ็ดปี นะ ต้องดูซ้ำๆ ทำไมดูครั้งเดียวไม่พอ เพราะว่าวาสนาบารมียังไม่พอ กำลังไม่พอนะ

ถ้าคนซึ่งอินทรีย์เขาแก่กล้าแล้วนะ เขาดูนิดๆหน่อยๆเขาก็หลุดพ้นได้ ยกตัวอย่างสมัยพุทธกาล มีบางท่านฟังธรรมะ ๒-๓ ประโยค ก็หลุดพ้นแล้ว ของเราไปอ่านธรรมะที่ท่านสอน ซ้ำแล้วซ้ำอีกนะ ก็ยังไม่บรรลุ แล้วก็ไม่ใช่ว่า ในสมัยพุทธกาล ทุกคนต้องบรรลุเร็ว บางคนก็บรรลุยาก ลำบาก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะง่ายเหมือนกันหมด คนที่เขาง่ายเพราะเขาเคยยากมาแล้ว เขาลำบากมาแล้ว

ไม่มีของฟรีนะ ไม่มีของฟลุ๊คนะ มีแต่ต้องทำเอาทั้งสิ้นเลย วิธีทำก็คือ รู้สึกตัวไว้ ศัตรูของความรู้สึกตัวคือใจลอย หลงไปในโลกของความคิด คิดๆ คิดๆ ทั้งวันทั้งคืน ทั้งหลับทั้งตื่น มีแต่เรื่องคิด เวลาที่เราไปคิด เราลืมกายลืมใจ เรียกว่าไม่ได้ปฏิบัติวิปัสสนา เพราะฉะนั้นให้รู้สึกกาย ให้รู้สึกใจ จนเห็นความจริงของกายของใจ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมศาลาลุงชินครั้งที่ ๑๔
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๐

CD: แสดงธรรมที่ศาลาลุงชินครั้งที่ ๑๔
File:
500916
ระหว่างนาทีที่  ๑๑ วินาทีที่ ๐๓ ถึง นาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๔๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

หน้าที่ของชาวพุทธ

mp3 (for download): โอวาทหลวงพ่อแด่ชาวพุทธทุกคน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

รอยพระพุทธบาท

รอยพระพุทธบาท

หลวงพ่อปราโมทย์ : พวกเราต้องช่วยกันนะ ช่วยกัน ฟังธรรมะแล้วค่อยๆสังเกตลงในกายในใจของตัวเอง ช่วยตัวเองก่อนนะ ต่อๆไปก็จะได้ช่วยคนรอบๆตัวเรา ในภาพรวมก็จะได้ช่วยสังคมให้มันร่มเย็น อย่างน้อยสังคมนี้ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ ยังมีจุดที่เย็นๆเหลืออยู่สักจุด สองจุด เล็กๆก็ยังดีนะ อยู่ในบ้านเราน่ะ ค่อยๆฝึกไป

ชาวพุทธทุกวันนี้ร่อยหรอสุดขีดแล้วนะ ศาสนาพุทธตกอยู่ในอันตรายที่น่ากลัวที่สุดแล้ว ศาสนาพุทธแท้ๆที่สืบทอดจากคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเถรวาทเหลือนิดเดียวแล้ว เหลืออยู่ไม่กี่ประเทศ เหลือยู่ในเมืองไทย ในลังกา ในพม่า อะไรอย่างนี้

ในเมืองไทยแล้ว จริงศาสนาพุทธแทบจะเรียกได้ว่าสูญไปแล้ว หรือเกือบๆจะสูญไปแล้ว เราอย่าภูมิใจว่ามีชาวพุทธเก้าสิบกว่าเปอร์เซนต์ เก้าสิบกว่าเปอร์เซนต์นั้นเป็นคนไม่มีศาสนาต่างหาก (คนเหล่านี้-ผู้ถอด)อะไรก็ได้ ขอให้รวยก็แล้วกัน ใช่มั้ย พร้อมจะนับถืออะไรก็ได้ เอาอะไรมาห้อยก็ได้นะ ไหว้มันหมดแหละ หมู หมา กา ไก่ วัวสามขาก็ไหว้ ใช่มั้ย อะไรๆเกิดขึ้นมาเราก็นับถือหมด เทวดงเทวดา มนุษย์สร้างเทวดาแล้วมนุษย์ก็กลัวเทวดา แล้วมนุษย์ก็ไปไหว้เทวดา เราขายพระพุทธเจ้าได้นะ ขอให้รวยก็แล้วกัน

เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วเราไม่ใช่ชาวพุทธ คนส่วนมากไม่ใช่ชาวพุทธ พวกเรานี้ชาวพุทธนะ เพราะพวกเราศึกษาธรรมะ ถ้าคนไหนไม่ได้ศึกษาธรรมะไม่ใช่ชาวพุทธหรอก เป็นชาวพุทธแต่ชื่อ เป็นพุทธในทะเบียนบ้านหรือในบัตรประชาชน ไม่ใช่พุทธตัวจริง พุทธตัวจริงมีนับตัวได้เลย นับจำนวนได้เลย มีไม่เท่าไหร่หรอก หลวงพ่อกะว่าคงมีเพียงระดับหลักหมื่นเท่านั้นมั้ง คือพุทธที่ต้องศึกษาธรรมะนะ ถ้าเป็นพุทธเฉยๆ พุทธตามบรรพบุรุษอะไรอย่างนี้ มันไม่ใช่หรอก

ทุกวันนี้สติปัญญาของคนตกต่ำลงเรื่อยๆ ยกตัวอย่างคนสมัยโบราณคนนับถือเทวดา นับถือเทพใช่มั้ย พอเกิดพระพุทธเจ้าขึ้นมา คนไม่ได้นับถือเทวดา คนนับถือธรรมะ ธรรมะคืออะไร ธรรมะคือความจริง คนยอมรับความจริง ดำรงชีวิตสอดคล้องกับความเป็นจริงแล้วก็ไม่ทุกข์ ไม่ใช่ให้คนอื่นช่วย คนเรารู้เลยว่า เราช่วยตัวเองได้ เราต้องพึ่งตัวเอง เราทำอะไรเราก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น

มนุษย์พอเปลี่ยนจากเชื่อเทวดา เชื่อเทพเจ้า มาเชื่อในธรรมะ มนุษย์ก็จะไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต หรือใครมาบงการ เราจะเชื่อกรรม กรรมคือการกระทำของเราเอง กำหนดชีวิตของเราเอง

เนี่ยถ้าเราทำกรรมฐานนะ รู้สึกกายรู้สึกใจ เราจะรู้เลย ชีวิตเราเปลี่ยนจริงๆนะ มันเปลี่ยนจริงๆ เราทำกรรมชั่ว เราก็เดือดร้อนจริงๆ มนุษย์ที่พัฒนาแล้วนะ พัฒนาทางสติปัญญาแล้วจะไม่เชื่อเรื่องอำนาจภายนอกนะ แต่ยอมรับเรื่องกรรมและผลของกรรมซึ่งเราทำเอง

แล้วมนุษย์ถ้าอยากให้มีสติปัญญามากขึ้น ก็ต้องศึกษาธรรมะ เรียกว่าไตรสิกขา ศึกษาเรื่องศีล ศึกษาเรื่องจิต ศึกษาเรื่องการเจริญปัญญา เมื่อศึกษาแจ่มแจ้งแล้ว จิตใจก็ไม่ยึดถืออะไร จิตใจดำรงชีวิตสอดคล้องอยู่กับธรรมะล้วนๆเลย คราวนี้ จิตธรรมะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่แยกจากกัน เนี่ยมีความสุขล้วนๆ นี่เป็นพัฒนาการที่สูงที่สุดแล้วที่มนุษย์เคยมีมา แต่พวกเราเคยมีสิ่งเหล่านี้ เรากำลังสูญเสียไป

ยกตัวอย่างเราเคยมีพระพุทธเจ้า ต่อมาเราก็ลดลงมาเหลือพระพุทธรูป ท่านพุทธทาสท่านเคยพูดไว้นานแล้ว แล้วท่านทายไว้ด้วย ต่อไปไม่ใช่พระพุทธรูป ต่อไปจะนับถือรูปเจว็ดต่างๆนะ ซึ่งไม่ใช่อะไรที่เป็นศาสนาพุทธ

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้นนะ แล้วก็จะเกิดต่อไปอีก หน้าที่ของเราทุกคน ทุกคนมีความสำคัญนะ สำคัญต่อตนเอง สำคัญต่อครอบครัว สำคัญต่อสังคมที่แวดล้อมอยู่ และสำคัญที่จะสืบทอดศาสนาต่อไปอีก ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานได้มีโอกาสฟังธรรมะ เหมือนที่พวกเรามีโอกาส

เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาธรรมะ วิธีรักษาธรรมะที่ดีที่สุด คือ การศึกษาธรรมะ จนธรรมะเข้าไปสู่ใจของเรา ธรรมะที่ต้องศึกษาให้รู้เรื่อง คือเรื่องของวิปัสสนากรรมฐาน เรื่องสมถกรรมฐานเป็นของง่าย ถึงไม่มีพระพุทธเจ้าก็มีสมถกรรมฐาน

เพราะฉะนั้นต้องฟังเรื่องวิปัสสนา ก็คือการที่เรามีสติ รู้เนื้อรู้ตัวขึ้นมาแล้วคอยรู้กายอย่างที่มันเป็น รู้จิตใจอย่างที่มันเป็น รู้มากเข้าๆนะ จนเห็นผลของการปฏิบัติ เมื่อเราเห็นผลแล้วเนี่ย เราจะเชื่อมั่น ศรัทธา ในศาสนาพุทธอย่างแน่นแฟ้น เชื่อในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่นแฟ้น คนที่จะเชื่ออย่างแน่นแฟ้นก็คือคนที่เห็นผลของการปฏิบัติแล้ว คือพระโสดาบันขึ้นไป

เพราะฉะนั้นพวกเราอย่าประมาทนะ ศรัทธาของพวกเราส่วนใหญ่ซึ่งเป็นปุถุชนนี้ ยังเป็นศรัทธาที่ยังกลับกลอกได้ ตอนนี้นับถือพุทธนะ แต่อีกหน่อยอาจจะไม่นับถือก็ยังได้นะ เพราะฉะนั้นต้องพากเพียรศึกษาลงมาในกายในใจนี้ ถ้าศึกษาจนเริ่มเห็นผลแล้วนะ ให้เอาไปตัดคอซะถ้าไม่บอกว่าพระพุทธเจ้าโกหกเนี่ย ยังไงก็ไม่ยอม เพราะว่ารู้แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ พระพุทธเจ้าไม่ได้โกหก ธรรมะที่ท่านสอนเป็นของจริงล้วนๆ ปฏิบัติแล้วพ้นทุกข์จริงๆ เห็นได้ด้วยตนเองจริงๆ

เพราะฉะนั้นพวกเราพากเพียรไปนะ

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมศาลาลุงชินครั้งที่ ๑๔
แสดงธรรมเมื่อ วันอาทิตย์ที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๐

CD: แสดงธรรมที่ศาลาลุงชินครั้งที่ ๑๔
File:
500916
ระหว่างนาทีที่  ๒๔ วินาทีที่ ๔๘ ถึง นาทีที่ ๓๐ วินาทีที่ ๑๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

อิทธิบาท ๔ ธรรมะที่ให้ความสำเร็จ

mp 3 (for download) : อิทธิบาท ๔ ธรรมะที่ให้ความสำเร็จ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

อิทธิบาท ๔ ธรรมะที่ให้ความสำเร็จ

อิทธิบาท ๔ ธรรมะที่ให้ความสำเร็จ

หลวงพ่อ : พอมาเจอหลวงปู่ดูลย์ ท่านบอกให้ดูจิต พอได้ยินคำว่าดูจิตมันตื่นเต้น เราทำไมไม่เคยดูจิตตัวเอง ทำไมเราไม่เคยรู้จิต เราก็มาตามดู รู้สึกแต่ละวันไม่เคยเหมือนกันเลย แต่ละวันไม่เคยเหมือนเลย บางวันสุข บางวันทุกข์ บางวันดี บางวันร้าย เดี๋ยวโลภ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหลง หมุนเวียนเปลี่ยนแปลง ใหม่ๆก็อยากให้มันดี อยากให้มันสุข อยากให้มันสงบ หาทางเข้าไปจัดการ วันไหนจัดการได้ก็กูเก่ง-กิเลสเกิดอีกแล้ว วันไหนจัดการไม่ได้กูแย่-นี่ก็กิเลสอีกแล้ว

ฝึกอยู่ 3 เดือน ไปหาหลวงปู่อีก หลวงปู่บอกมัวแต่หลงไปยุ่งอยู่กับการแก้อาการ ใช้ไม่ได้ ก็เลยมาตามรู้ตามที่เขาเป็น มันสนุกที่ได้รู้ การที่เราได้สนุกที่ได้รู้กาย สนุกที่ได้รู้ใจ เรียกว่ามีฉันทะ มีความสุขที่ได้ทำอะไรสักอย่างหนึ่ง คือในการปฏิบัติต้องมีฉันทะ คือมีความพอใจ มีความสุข ที่จะได้รู้จิตรู้ใจตัวเอง หรือบางคนรู้กาย ก็มีความสุขที่จะได้รู้กาย

เมื่อมีความสุขที่ได้รู้จิตรู้ใจ รู้กาย มันจะเกิดวิริยะขึ้นเอง จำไว้นะเกิดเอง (หมายถึง ไม่ได้จงใจบังคับให้เกิด – ผู้ถอด) ถ้ามีฉันทะแล้ววิริยะเกิดเอง จะขยันดู เพราะมันมีความสุขที่ได้ดู ทุกครั้งที่ดู ทุกครั้งที่มีสติ ทุกครั้งที่รู้สึกตัว มันก็เกิดความสุขผุดขึ้นมาในโดยอัตโนมัติ อัตโนมัตินะไม่ใช่แกล้งทำให้สุข จะมีความสุขทันทีเลย เพราะจิตเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
เพราะฉะนั้นเราฝึกจนสติเกิด จิตเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน มีความสุข มีความสุขแล้วจะขยันดู ยิ่งดูยิ่งมีความสุขนะ ดูไปเรื่อยๆ วิริยะเกิด จิตใจก็จะจดจ่อ คอยจะเรียนรู้ตนเอง เรียกว่า จิตตะ วันๆเคล้าเคลียแต่เรื่องการปฎิบัติ เรียกว่าวิมังสาเวลาทำงานก็เหมือน เอ้อ.. ทำๆไป พออยู่ไปวันๆนะ แต่โตเร็ว หลวงพ่อทำงานหลายแห่งนะ แต่โตเร็วมากเลย เพราะเวลาเราทำ เราสมาธิเยอะ จิตใจมันจดจ่อ

ยกตัวอย่าง เวลาทำงานเมื่อก่อนอยู่องค์การโทรศัพท์ ยังมีมามั้ยวันนี้ อ้อ..มา บางวันนะ เจ้านายหลายคน ผู้อำนวยการ รองหลายคน มาล้อมโต๊ะไว้เลย ให้เราคีย์ คีย์ใส่คอมพ์เลยนะ ไม่มีร่างนะ คีย์ใส่คอมพิวเตอร์เสร็จ พรินท์ออกมาเลย เซ็นเลย ทำงานได้เร็วขนาดนั้นถ้าใจมีสมาธิ แต่ว่าทำเล่นๆไปอย่างนั้นแหละ งานหลักของเราจริงๆนะคืองานภาวนา เราเรียนรู้แล้วสนุกที่ได้เรียนรู้กาย สนุกที่ได้เรียนรู้ใจ

เหมือนบางคนสนุกที่จะเล่นไพ่ใช่มั้ย เล่นทั้งคืน สามีห้ามก็ไม่ฟัง ทำได้ บางคนอ่านเพชรพระอุมา อ่านทั้งคืนอ่านได้นะ แล้วแต่นะบางคนอ่านกำลังภายใน ดูทั้งคืนได้ อะไรที่ชอบจะทำได้นาน หรือชอบดูบอลใช่มั้ย หน้าบอล ตาจะโหลๆ เวลามีบอลน่ะ บอลโลก หน้าจะเหี่ยวๆ ตาโหลๆ เพราะอะไร เพราะมีความสุข

เพราะฉะนั้นถ้าเรามีฉันทะนะ เราจะมีความสุขที่จะปฏิบัติ เราจะขยันปฎิบัติ จิตใจจะจดจ่อ จิตใจจะเคล้าเคลียการปฏิบัติ นี่เรียกว่ามีอิทธิบาท อิทธิบาทเป็นธรรมะที่ให้ความสำเร็จ ความสำเร็จจะเกิดอย่างรวดเร็วเลย ไม่เนิ่นช้า ๗ วันมีนะ ๗ เดือนก็มี ๗ ปี ยังไม่เห็นตัว

เพราะฉะนั้นต้องหัดนะ หัดไปให้มีความสุข อย่าเคร่งเครียด

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันศุกร์ที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๐ หลังฉันเช้า

CD: ธรรมเทศนา ๔ วันในสวนสันติธรรม
Track: ๖
ระหว่างนาทีที่ ๘ วินาทีที่ ๕๙ ถึง นาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๒๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ธรรมะไม่ยาก แต่ต้องตั้งใจจริงและจริงใจ

mp3 (for download): ธรรมะไม่ยาก แต่ต้องตั้งใจจริงและจริงใจ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ธรรมะไม่ยาก แต่ต้องตั้งใจจริงและจริงใจ

ธรรมะไม่ยาก แต่ต้องตั้งใจจริงและจริงใจ

หลวงพ่อปราโมทย์ : การที่เราจะศึกษาธรรมะนะมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่เราต้องตั้งใจจริง ต้องจริงใจที่จะศึกษา ในความเป็นจริงไม่ว่าเราจะทำอะไร ต้องทำจริงๆ ถึงจะได้ผล ถ้าเราจะศึกษาธรรมะนะเราต้องมีความจริงใจกับธรรมะ ธรรมะเป็นของจริงไม่ใช่ของเล่นๆ ถ้าเราเข้าใจในธรรมะแล้ว ธรรมะจะคุ้มครองเรา คุ้มครองเราจากความชั่ว คุ้มครองเราจากความทุกข์ทั้งหลาย

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่บริษัท AIA
แสดงธรรมเมื่อ วันพุธที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔

CD: แสดงธรรมนอกสถานที่ บริษัท AIA
File: 540420
ระหว่างนาทีที่  ๐ วินาทีที่ ๒๐ ถึง นาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๕๓

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ ทำวันสองวันแล้วเลิก

mp3 (for download) : ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ

ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฎิบัติ

หลวงพ่อปราโมทย์ : ฆราวาสมีจุดอ่อนที่ความต่อเนื่อง ฆราวาสชอบเว้นวรรคการปฏิบัติ ทำไปวันสองวันแล้วก็เลิก หายไปเป็นเดือนแล้วมาทำใหม่นะ ไม่ได้กินหรอกนะ มันต้องสู้ตาย ประเภทดูไปเรื่อยๆตั้งแต่ตื่น ยกเว้นเวลาที่เราทำงานที่ต้องคิด ยกตัวอย่างเด็กๆไปเรียนหนังสือ ต้องไปฟัง(ครูสอน)ให้รู้เรื่อง ไม่ใช่เวลาไปเจริญสติ แล้วเวลาที่เหลือรู้กายรู้ใจไป เราผู้ใหญ่ทำมาหากินต้องคิด เวลาคิดทำมาหากินก็คิดไป เวลาที่เหลือเนี่ย รู้กายรู้ใจตัวเองไป


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี
ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เมื่อวันอังคารที่ ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๙ หลังฉันเช้า

CD สวนสันติธรรมแผ่นที่ ๑๑
ลำดับที่ ๒
File: 490103B
นาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๐๔ ถึงนาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๓๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

กลัวภาวนาไม่ดี

Mp3 for download: 500707B_dontbeafraid

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

กลัวภาวนาไม่ดี

กลัวภาวนาไม่ดี

หลวงพ่อปราโมทย์ : ใจถึงๆหน่อย อย่ากลัวไม่ดี อย่ากลัวไม่บรรลุมรรคผลนิพพาน ความกลัวความกังวลนั้นเป็นโทสะ ถ้าตราบใดที่มันยังครอบครองพื้นที่ในจิตใจของเราอยู่ สติจะไม่เกิด เกิดไม่ได้เลย สติไม่เกิดร่วมกับอกุศล

ถ้าเราไม่กลัวมันนะ เราเห็นใจมันกลัว ไม่ใช่เรากลัว แต่ใจมันกลัว ใจเราเป็นแค่คนดู เราเห็นว่ามันกลัว ความกลัวมันจะแสดงไตรลักษณ์ให้ดู เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปเลย เพราะเราไม่เข้าไปแทรกแซง

เพราะฉะนั้น จิตใจจะปรุงแต่งอะไรก็ได้ ดีก็ได้ ชั่วก็ได้ สุขก็ได้ ทุกข์ก็ได้ หยาบก็ได้ ละเอียดก็ได้ วิ่งไปข้างใน วิ่งไปข้างนอก หรือเป็นกลางๆก็ได้ ให้รู้ด้วยความเป็นกลางไป รู้สภาวะทุกอย่างตามที่เขาเป็นแหละ ไม่ต้องไปอยากให้เขาเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เราจะเห็นสภาวะทั้งหลายเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีตัวเราในนั้นเลย


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
เมื่อวันเสาร์ที่ ๗ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๐
CD สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๑
File: 500707B
ระหว่างนาที่ที่ ๙ วินาที่ที่ ๔๗ ถึงนาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๔๘

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การภาวนาไม่ต้องรีบร้อน แต่ต้องสม่ำเสมอ

mp 3 (for download) : การภาวนาไม่ต้องรีบร้อน แต่ต้องสม่ำเสมอ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ :พวกเราก็ฝึกไปนะ วันนี้ยังทุกข์อยู่ ไม่เป็นไร อนาคตต้องให้ดีกว่านี้ให้ได้ ต้องเดินใกล้ มรรค ผล นิพพาน เข้าไปทุกวันๆ ไม่ต้องรีบเดินก็ได้นะ ถ้ารีบเดิน รีบจ้ำๆ จะตกถนนทุกรายเลย แต่ต้องทำสม่ำเสมอ รู้สึกกาย รู้สึกใจ ทำทุกวันสม่ำเสมอ ความสม่ำเสมอดีกว่าความรีบร้อน

ต้องสม่ำเสมอ มีวินัยในตัวเอง รักษาศีลไว้ก่อน มีศีล ๕ ศีล ๕ จำเป็นที่สุด ถ้าไม่มีศีล จิตจะไม่มีความสงบเลย เพราะฉะนั้นถ้าจิตใจเรามีสุขมีความสงบแล้วนะ มีสติคอยรู้ความเปลี่ยนแปลงของกาย มีสติรู้ความเปลี่ยนแปลงของใจ วันหนึ่งจะเข้าใจความเป็นจริงของกายของใจ ตัวความเข้าใจนั้นแหละเรียกว่า “วิปัสสนาปัญญา” เข้าใจความเป็นจริงของกายของใจว่ามันเป็นไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

เมื่อมันเข้าใจความเป็นจริงนะ จิตจะคลายความยึดถือ ไม่ยึดในกายไม่ยึดถือในใจ พอไม่ยึดถือมันก็หลุดพ้นออกไป ขันธ์ส่วนขันธ์นะ จิตที่พ้นจากความยึดถือขันธ์ก็อยู่ต่างหาก ไม่เกี่ยวข้องกัน ภาวนาแล้ววันหนึ่งพวกเราจะถึงความสิ้นทุกข์ ต้องอดทนนะ วันนี้ยังทุกข์อยู่ไม่เป็นไร ฝึกไปเรื่อย.. วันหนึ่งต้องพ้นทุกข์ให้ได้ ถึงจะสมเป็นลูกพระพุทธเจ้า


CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๓๐
File: 520621.mp3
ระหว่างชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๒ วินาทีที่ ๐ ถึง ชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๓ วินาทีที่ ๑๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

จุดอ่อนของฆราวาส คือ ไม่อดทน และไม่ต่อเนื่อง

mp 3 (for download) :จุดอ่อนของฆราวาส คือ ไม่อดทน และไม่ต่อเนื่อง

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

จุดอ่อนของฆราวาส คือ ไม่อดทน และไม่ต่อเนื่อง

หลวงพ่อปราโมทย์: เมื่อก่อนเขียนไว้ บอกว่า อะไรนะ หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา จะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถ้าถึงวันนนั้นนะ เราจะระหกระเหินอีกแสนนาน

ลงมือแต่วันนี้นะ ลงมือเจริญสตินะ ไม่ใช่ลงมือทำอย่างอื่น อย่างอื่นทำมาเยอะแล้ว ลงมือเจริญสติ หัดรู้สึกกาย หัดรู้สึกใจ กายเป็นอย่างไรรู้มันไป จิตเป็นอย่างไรรู้มันไป ฝึกอยู่อย่างนี้แหละ เดี๋ยววันหนึ่งก็จะเข้าถึงความบริสุทธิ์หลุดพ้นเป็นลำดับ ลำดับไป ต้องสู้นะ เส้นทางนี้ต้องอดทน

อดทนอย่างแรกเลย อดทนต่อคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ ต้องอดทน อดทนอันที่สองนะ อดทนต่อความยากลำบากทางร่างกาย อย่างบางทีจะมาเรียนใช่มั้ย ต้องตื่นนอน ต้องเบิ่งตาใช่มั้ย มันตื่นไม่ขึ้น ต้องทรมาน อุตส่าห์มา พากเพียรมา เหน็ดเหนื่อย มาเรียนได้ชั่วโมงกว่าๆ ขับรถกลับบ้านไปละ เสียเวลาไปหนึ่งวันแน่ะ เหนื่อย

ต้องอดทนต่อความลำบากทางกาย อดทนต่อกิเลส นี้ตัวสำคัญเลย ต้องอดทนต่อกิเลสตัณหาที่มันจะมายั่วยวนให้เราไม่ปฏิบัติ มายั่วยวนให้เราเลิกรู้กายรู้ใจ ตัวนี้ต้องอดทนมากเลย อาศัยความอดทนนี้นะ ถึงจะผ่านไปได้ เรียนให้รู้หลักแล้วอดทน ปฎิบัติไปด้วยความอดทน รู้กายรู้ใจไป จุดอ่อนของฆราวาสนะ คือไม่อดทน ไม่ต่อเนื่อง ทำบ้างหยุดบ้าง เหยาะๆแหยะๆ อยากได้ของดีนะแต่เหยาะแหยะ ไม่ได้กินหรอกนะ

รัชกาลที่ ๖ ท่านแต่งกลอน บอกอะไรนะ ไม่คิดสอยมัวแต่คอยดอกไม้ร่วง ใช่มั้ย คงชวดดวง บุปผชาติ สะอาดหอม ไม่คิดสอยนะ นั่ง..เมื่อไหร่จะบรรลุ.. บรรลุอะไร บรรลุโมหะสิ ต้องสู้นะ ขี้เกียจ ก็อย่าไปปล่อยให้ความขี้เกียจครอบงำ ขี้เกียจได้ แต่ต้องปฏิบัติ ลุกขึ้นมาเดินจงกรม ลุกขึ้นมาไหว้พระสวดมนต์ ยืน เดิน นั่ง นอน ต้องรู้สึกตัว ต้องเข้มแข็งนะ ต้องอดทนนะ ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ อย่ามาพูดเลยว่าจะอยากได้ มรรค ผล นิพพาน ไม่ได้อยากจริง อยากแต่ปาก อยากแต่เวลามาพูดเอาใจหลวงพ่อนะว่า หนูอยากนิพพาน พูดเอาใจเรา ลับหลังเราไปช็อปปิ้งเพลินเลย ใช่มั้ย ต้องสู้นะ ต้องเด็ดเดี่ยว ไม่มีอะไรสำคัญเท่าอดทนเลย


สวนสันติธรรม
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๓
Track: ๑๑
File: 510202.mp3
ระหว่างนาทีที่ ๒๓ วินาทีที่ ๕๗ ถึง นาทีที่ ๒๖ วินาทีที่ ๒๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

พวกเราต้องอดทน โดยเฉพาะอดทนต่อความอยากได้ผล

mp 3 (for download) : พวกเราต้องอดทน โดยเฉพาะอดทนต่อความอยากได้ผล

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

พวกเราต้องอดทน

พวกเราต้องอดทน

หลวงพ่อปราโมทย์ : พวกเรามีบุญ เกิดในแผ่นดินที่ยังมีธรรมะอยู่ อดทนนะ อดทน พากเพียรเข้า หลวงพ่อไม่ใช่คนเก่งหรอก แต่หลวงพ่อเป็นคนที่ทนมากเลยในการฝึกตัวเอง อาศัยความอดทน ตามรู้ตามดู อดทนที่สำคัญอันหนึ่งก็คือ ทนต่อความอยากได้ผลสำเร็จ ตัวนี้ยากที่สุดเลยนะ ต้องภาวนาจนวันหนึ่งน่ะมันถอดใจเลยว่า โอ้..ไม่มีปัญญาแล้ว ไม่สามารถทำให้ผ่านด่านอันนี้ได้แล้วนะ ใจมันยอมรับความจริงแล้วว่า ไม่มีทางทำเลยนะ สู้จนหมดสติหมดปัญญาเลยนะ มันถึงจะผ่านได้ เป็นเรื่องแปลกจริงๆนะ

ถ้ายังมีแรงต่อสู้อยู่ ยังไม่ผ่านหรอก แต่อาศัยแรงที่ต่อสู้นั้น มาเจริญสติ มารู้กายรู้ใจไปนี่แหละ ถึงวันที่เขาพอนะ เขาจะหยุดความปรุงแต่งลงชั่วขณะนะ ถ้าหยุดลงได้จริงๆนะ จิตพรากออกจากความปรุงแต่งได้จริงๆ แล้วไม่เข้ามาปนกันอีกนะ ก็หมดธุระกันตรงนั้น ขันธ์ส่วนขันธ์นะ จิตส่วนจิต ไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ไม่ได้ยึดถือจิตไว้ด้วย

ไม่ใช่ธรรมะที่เหลือวิสัยที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะทำได้ อดทนนะ อดทน อดทนต่อความขี้เกียจ อดทนต่อความอยากดี อยากบรรลุเร็วๆ คอยรู้ทันเข้า


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน) ครั้งที่ ๓๒
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒
CD: ศาลาลุงชิน ครั้งที่ ๓๒
File: 520816.mp3
ระหว่างชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๓ วินาทีที่ ๓๗ ถึง ชั่วโมงที่ ๑ นาทีที่ ๑๔ วินาทีที่ ๕๖

 

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เราสาวกพระพุทธเจ้านะ ไม่ใช่สาวกอาจารย์

mp3 for download: เราสาวกพระพุทธเจ้านะ ไม่ใช่สาวกอาจารย์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: กราบนมัสการหลวงพ่อค่ะ รู้สึกที่ผ่านมาสองวันจะดีกว่าวันนี้ วันนี้ค่อนข้างฟุ้งน่ะค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์: วันนี้อยากกลับบ้านแล้ว

โยม: ก็จะกราบลา จะมากราบลาหลวงพ่อค่ะ ก็ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มีโอกาสมาอยู่วัดน่ะค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์: โอ้.. วัดมีเยอะแยะ เดี๋ยวจะมีอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะอยู่วัด เจอทุกรายนะ ครั้งนี้ได้อยู่นานเลย

โยม: ก็ จะตามรู้ตามดูอยู่คะ แล้วก็จะไม่ขี้เกียจ แล้วก็จะไม่ประมาทค่ะ

หลวงพ่อปราโมทย์: ดี โอ้.. สาธุเลย อย่างนี้ชอบมาก เอ้า.. คนนี้แหละ ที่ว่าเป็นมะเร็งน่ะ ที่ว่าจะตายแล้ว หลวงพ่อบอก เอาร่างกายถวายเป็นพุทธบูชาไปเลย นี่อยู่มาตั้งปีกว่าแล้วยังไม่ตายเลย ท่าทางแข็งแรงกว่าเก่าอีก

โยม: แต่ วันนี้ ฟุ้งมากเจ้าค่ะ เพราะว่าไม่อยากกลับ แล้วก็ คิดไปคิดมา อีกสิบปีก็คงไม่มีโอกาสนั้น ก็เลยจะมากราบเรียนหลวงพ่อว่า จะสัญญากับหลวงพ่อว่า จะปฎิบัติตามที่หลวงพ่อสอนทุกอย่าง แล้วก็จะยึดมั่นในพระธรรมสั่งสอนของหลวงพ่อ แล้วก็ของพระพุทธเจ้า

หลวงพ่อปราโมทย์: โอ้..ของพระพุทธเจ้าขึ้นก่อนนะ อย่าเอาสาวกใหญ่กว่าพระพุทธเจ้านะ

โยม: ค่ะ จะทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าและของหลวงพ่อ

หลวงพ่อปราโมทย์: โอ้.. อย่างนี้สิ ฟังแล้วรื่นหู… พวกเราต้องตั้งหลักนะ เราสาวกพระพุทธเจ้านะ ไม่ใช่สาวกอาจารย์ อาจารย์เป็นเหมือนพี่เลี้ยงน่ะ มาถ่ายทอดให้เท่านั้นเอง

โยม: แต่ขอถวายการปฏิบัติบูชา แด่พระพุทธเจ้า และท่านอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

หลวงพ่อปราโมทย์: สาธุ สาธุ อย่างนี้ชื่นใจ ไปทำต่อนะ ไป


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม
บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
แสดงธรรมเมื่อ วันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๒ หลังฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๓
File: 521204B.mp3
ลำดับที่ ๔
ระหว่างนาทีที่ ๑๓ วินาทีที่ ๕ ถึง นาทีที่ ๑๔ วินาทีที่ ๕๘

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

คนจริงถึงจะได้ของจริง คนใจเสาะไม่ได้ของจริงหรอก

mp3 (for download) : คนจริงถึงจะได้ของจริง คนใจเสาะไม่ได้ของจริงหรอก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

คนจริง ถึงจะได้ของจริง

คนจริง ถึงจะได้ของจริง

หลวงพ่อปราโมทย์ : ก่อนนี้ไปเรียน ต้องเรียนเอาเองนะ อยากเรียน ครูบาอาจารย์ถึงสอน เดี๋ยวนี้ต้องอ้อนวอน ฝึกไปเถอะ ฝึกแล้วมีความสุขนะ พูดหยาบๆ บอกว่า “ห่วยแตก” นะ ใจถึงๆ หน่อย ธรรมะของจริงนะ คนจริงถึงจะได้ของจริง คนใจเสาะไม่ได้ของจริงหรอก


CD สวนสันติธรรมแผ่นที่ ๙
ลำดับที่ ๓
File: 480618A
นาทีที่ ๑๖ วินาทีที่ ๑๙ ถึงนาทีที่ ๑๖ วินาทีที่ ๓๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

สิ่งที่ทำให้หลวงพ่อปลาบปลื้ม

mp3 (for download) : สิ่งที่ทำให้หลวงพ่อปลาบปลื้ม

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

สิ่งที่ทำให้หลวงพ่อปลาบปลื้ัม

สิ่งที่ทำให้หลวงพ่อปลาบปลื้ัม

หลวงพ่อปราโมทย์ : ทุกวันนี้สิ่งที่หลวงพ่อปลาบปลื้มมีอันเดียว มีลูกศิษย์ที่ปฏิบัติบูชา มีลูกศิษย์ที่ขยันภาวนา นอกนั้นไม่ได้ทำให้เราปลื้มสักอย่างเลย เฉยๆ เพราะฉะนั้น ขยันนะ ขยันภาวนาเข้า

CD สวนสันติธรรมแผ่นที่ ๒๓
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๑
File: 25510412
นาทีที่ ๓๐.๒๘ ถึงนาทีที่ ๓๐.๔๕



เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ต้องอดทน เส้นทางนี้ใครทำใครได้ ทำแค่ไหนก็ได้แค่นั้น

เส้นทางนี้ใครทำใครได้ ทำแค่ไหนก็ได้แค่นั้น

เส้นทางนี้ใครทำใครได้ ทำแค่ไหนก็ได้แค่นั้น

mp3 (for download) : ต้องอดทน เส้นทางนี้ใครทำใครได้ ทำแค่ไหนก็ได้แค่นั้น

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : ถ้าอยากพ้นโลกก็ต้องจริงจังมากกว่านั้นหน่อย ต้องมีระเบียบมีวินัยในการปฏิบัติ ทุกวันต้องปฏิบัติให้ได้ แบ่งเวลาเอาไว้เลย ทุกวันต้องไปนั่งสมาธิ เดินจงกรม ไปไหว้พระสวดมนต์ ทำในรูปแบบ

ทำในรูปแบบก็คือ หัดเจริญสติในรูปแบบ เราจะมาเจริญสติในชีวิตประจำวันอย่างเดียวนี่ ส่วนมากสมาธิจะไม่พอ จิตจะไม่มีกำลัง เรามาทำในรูปแบบเช่น เดินจงกรมไป เห็นร่างกายมันเดิน ใจเป็นคนดูไปเรื่อยๆนะ ตัวรู้ตัวดูของเรามันจะเด่นขึ้นมา มีเรี่ยวมีแรงขึ้นมา คราวนี้ก็มาเจริญสติในชีวิตประจำวันได้ทั้งวันเลย ทุกวันก็ซ้อมในรูปแบบนะ ใจของเราก็จะเป็นผู้รู้ผู้ดูตั้งมั่นขึ้นมา

ต้องอดทนมาก กว่าจะข้ามภพข้ามชาติได้ คนหนึ่งๆนี่ไม่มีลูกฟลุ๊ค ไม่มีของฟรี ไม่มีของฟลุ๊ค มีแต่ต้องลงทุนลงแรง ทุกสิ่งยุติธรรมที่สุด ใครทำใครได้ ใครไม่ทำไม่ได้ ทำแค่ไหนก็ได้แค่นั้น ถ้าแค่เจริญสติดูจิตในชีวิตประจำวัน ไปวันหนึ่งๆนะ ถึงเวลาก็ไปคลุกอยู่กับโลก เราก็อยู่กับโลกได้อย่างมีความสุขมากกว่าคนทั่วๆไป ถ้าอยากได้มรรคผลนิพพานในชีวิตนี้ก็ต้องเข้มงวดมากกว่านั้น

CD ศาลาลุงชินครั้งที่ ๓๑
แสดงธรรมที่ศาลาลุงชิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
File : 520709
ระหว่างนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๑๘ ถึงนาทีที่ ๒๕ วินาทีที่ ๓๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

กลัวความชั่ว แต่อย่ากลัวความทุกข์

mp3 (for download) : กลัวความชั่ว แต่อย่ากลัวความทุกข์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

กลัวความชั่ว แต่อย่ากลัวความทุกข์

กลัวความชั่ว แต่อย่ากลัวความทุกข์

หลวงพ่อปราโมทย์ : พวกเราอย่ากลัวทุกข์นะ พวกเราอย่ากลัวทุกข์ กลัวความชั่ว กลัวความชั่วนะ อย่ากลัวทุกข์  อย่ากลัวปัญหาในชีวิต  ปัญหาในชีวิตเกิดตลอดเวลา พอมีปัญหาแล้วเนี่ย ถ้าเราภาวนาไม่เป็น ใจมันจะทุกข์ ความทุกข์เกิดขึ้น ก็อย่ากลัวมัน เรียนรู้มัน   คนพ้นทุกข์ได้ ก็เพราะรู้ทุกข์แจ่มแจ้ง พระพุทธเจ้าถึงสอนว่า ทุกข์น่ะ ให้ “รู้”    สมุทัยคือความอยากน่ะ ให้ “ละ”

ของเรากลับข้างนะ เราอยากละทุกข์  กลับหัวกลับหางเลย  เราอยากใช่ไหม อยากอะไร อยากละทุกข์   ท่านให้ “รู้” ทุกข์ แต่เราจะ “ละ” ทุกข์ กลับหัวกลับหางนะ ฉะนั้นเราไม่พ้นหรอก ถ้าเราอยากพ้นทุกข์จริงๆนะ  เรียนรู้ทุกข์ไป ทุกข์อยู่ทีกาย เรียนรู้อยู่ที่กาย   ทุกข์อยู่ที่ใจ เรียนรู้อยู่ที่ใจ เรียนรู้ลงไปเรื่อย จนปัญญามันเกิด มันค่อยพ้นเป็นลำดับๆ ไป ต้องเห็นทุกข์นะ จึงจะเห็นธรรม

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่  ๓๔
File: 530228A
ระหว่างนาทีที่ ๒๓ วินาทีที่ ๔๖ ถึงนาทีที่ ๒๔ วินาทีที่ ๕๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

Page 5 of 7« First...34567