Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

V-Clip : จิตไม่ถึงฐานติดสมถะ และกรรมฐานจากการกวาดบ้าน

จิตไม่ถึงฐานติดสมถะ และกรรมฐานจากการกวาดบ้าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

จิตที่มีสัมมาทิฏฐิมีแนวโน้มไปสู่นิพพาน เว้นแต่จะไปติดขัดอยู่กลางทาง เปรียบเหมือนท่อนไม้ลอยน้ำ

เปรียบเหมือนท่อนไม้ลอยน้ำ

เปรียบเหมือนท่อนไม้ลอยน้ำ

mp 3 (for download) : จิตที่มีสัมมาทิฏฐิมีแนวโน้มไปสู่นิพพาน เว้นแต่จะไปติดขัดอยู่กลางทาง เปรียบเหมือนท่อนไม้ลอยน้ำ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: พระพุทธเจ้าท่านเคยเทียบ บอกว่าจิตของเราเนี่ย ที่แสวงหาความหลุดพ้นเนี่ยนะ เหมือนท่อนไม้ลอยอยู่ในแม่น้ำคงคา ท่านไม่ยกว่าเป็นแม่น้ำเจ้าพระยานะ ท่านยกแม่น้ำคงคา บอกว่า ท่านชี้ให้พระดูท่อนไม้ลอยน้ำ ท่านบอกว่าไม้ท่อนนี้นะ ถ้ามันลอยไปเรื่อยๆ มันไม่ไปติดฝั่งซ้าย ไม่ไปติดฝั่งขวา ไม่ไปเกยตื้น ไม่ไปติดเกาะอะไรอย่างนี้นะ ไม่ไปถูกมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกอมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกเกลียวน้ำวน ไม่เน่าใน ไม่ผุพังเสียเอง ถึงวันหนึ่งมันจะไปสู่ทะเล

จิตซึ่งมีสัมมาทิฎฐิ สิ่งที่พวกเราเรียนจากหลวงพ่อคือตัวสัมมาทิฎฐินั่นเอง จิตซึ่งมีสัมมาทิฎฐิรู้ทิศทางว่าเราจะทำอะไรเพื่ออะไรจะทำอย่างไร ระหว่างทำไม่หลงไม่เผลอ จิตมันมีสัมมาทิฎฐิอยู่อย่างนี้ ระดับเบื้องต้นซึ่งเรียกว่า “สัมปชัญญะ” รู้ทิศทาง รู้แนวทาง จิตที่มีสัมมาทิฎฐินั้นนะ มีแนวโน้ม น้อมโน้ม โน้มเอียง ลาดลุ่ม ไปสู่นิพพาน เหมือนท่อนไม้นี้ไหลตามน้ำไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ไปติดฝั่งซ้ายฝั่งขวา เกยตื้น ไม่ถูกมนุษย์ อมนุษย์ จับไว้ ไม่เน่าใน ไม่ถูกน้ำวนดูดไปนะ ไม้ท่อนนี้ต้องไปถึงทะเล

จิตซึ่งมีสัมมาทิฎฐิ จิตของเรานี้ไม่ต้องไปทำอะไรมัน อย่าไปเกยอยู่ที่ไหนก็แล้วกัน มันจะไหลไปสู่นิพพานเอง จะไหลไปสู่มรรคผลนิพพานเอง เพราะฉะนั้นไม่ใช่ต้องทำอะไร แต่อย่ามัวไปเกยตื้นอยู่ที่ไหนซะล่ะ

คำว่าติดฝั่งซ้าย ติดฝั่งขวา ก็คือไปหลงในสิ่งที่เป็นคู่ๆ เช่นอายตนะภายในภายนอกนี่คู่หนึ่ง ตัวอย่างนะ ไปติดในความสุข หรือไปติดในความทุกข์ ติดในความทุกข์ก็คือเกลียดทุกข์ รักสุขเกลียดทุกข์อะไรอย่างนี้ ใจก็ยังดิ้นอีก เนี่ยติดในสิ่งที่เป็นคู่ๆ ติดความดี ความเลว เจออะไรเลวๆแล้วทนไม่ได้ ทุรนทุราย อยากจะให้โลกนี้ดี สวยงามอย่างเดียว อะไรอย่างนี้ จิตก็วุ่นวายติดในสิ่งที่เป็นคู่ๆ

ไปเกยตื้น ก็คือไปติดในผลประโยชน์ทั้งหลาย ถ้าเป็นพระก็เรียกว่าไปติดลาภสักการะ ติดครอบครัวโน้น ตระกูลนี้ อะไรอย่างนี้ ไปถูกมนุษย์จับไว้ อย่างพวกเรา คุณสุเมธ ถูกมนุษย์จับไว้ ถูกมนุษย์เป็นร้อยๆเลยนะ คุณสุเมธก็ห่วง มาหรือยัง มาหรือยัง กลัวเขาไม่ดี นี่เรียกว่าถูกมนุษย์จับไว้ ถูกอมนุษย์จับไว้ เช่น อยากดัง อยากมีชื่อเสียง อยากเด่น นี่ถูกอมนุษย์จับไว้ หรือติดใน อยากขึ้นสวรรค์นะ ไปเป็นเทวดาเป็นพรหมอะไรอย่างนี้ นี่เรียกว่าถูกอมนุษย์จับไว้

ไปหลงลาภสักการะ นี่ก็ไปเกยตื้นไว้ ถูกอมนุษย์จับก็หลงชื่อเสียง เป็นอาจารย์กรรมฐานดัง หลงอย่างนี้เสร็จเลยนะ ไปนิพพานไม่ได้ ถูกน้ำวนก็คือหลงอยู่ในกาม วันๆคิดแต่จะหาความสุขทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือความเพลิดเพลินทางใจ นี่เรียกว่ากามทั้งหมดเลย ตา หู จมูก ลิ้น กาย เรียกว่ากามคุณ ทางใจเรียกว่ากามธรรม เช่นเราคิดเพลิดเพลินไปในกาม นี่คิดเอาเอง ก็เป็นกามเหมือนกัน บางคนก็ชอบคิดใช่มั้ย ฝันๆ แหมมีความสุข คิดไปในอดีต แก่หน่อยก็คิดไปในอดีตใช่มั้ย เด็กๆก็ฝันไปในอนาคต อะไรอย่างนี้ นี่ก็หลงๆไปนะ

พวกเน่าในคือพวกทุศีล พวกไม่มีศีล ๕ ศีล ๕ จำเป็น อย่าดูถูกเด็ดขาดนะ ศีล ๕ จำเป็นที่สุดเลย ขาดศีล ๕ อย่าพูดเรื่องมรรคผลนิพพานเลย ศีล ๕ จำเป็นมาก แต่ถ้าทำผิดศีลไปแล้วอย่ากังวล ตั้งใจระวังรักษาเอาใหม่ อย่าให้การทำบาปอกุศลที่ทำไปแล้ว มากดถ่วง ทำให้เราพัฒนาตัวเองต่อไปไม่ได้ เพราะเรา สมมุติว่าเราทำผิดศีลอะไรมาอย่างนี้ ยังไงก็ไม่มากเท่าที่พระองคุลีมาลเคยทำใช่มั้ย เราฆ่าคนไม่ได้พันคนหรอก ทำไมท่านไปได้ ใช่มั้ย เพราะฉะนั้นถ้าเราผิดศีลแล้วเรา ก็อย่าทำอีก นะ อย่าให้กังวลใจ

ถ้าหากจิตใจเราไม่ได้ติดในสิ่งเหล่านี้ ที่กล่าวมานี้นะ ๗ ประการ ไปนับเอาเองก็แล้วกัน เจ็ดประการนี้ถ้าเราไม่ติดนะ แล้วเรามีสัมมาทิฎฐิ เรารู้แล้วว่าการปฏิบัตินี่เราต้องรู้กายรู้ใจตัวเอง ด้วยจิตที่เป็นกลาง รู้ลงปัจจุบัน รู้แล้วไม่ไปแทรกแซง รู้จนเห็นความจริงของเขา ว่าเขาไม่เที่ยง เขาเป็นทุกข์ เขาเป็นอนัตตา รู้จนไม่ยึดถืออะไร นี่ถ้าเรารู้ มีสัมมาทิฎฐิอย่างนี้นะ แล้วเราไม่ไปติด ๗ ข้อนั้นนะ ยังไงก็นิพพาน

นี่ไม่ใช่หลวงพ่อพูดเองนะ พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้ เราก็สำรวจตัวเองนะ เราไปติดอะไรบ้าง ติดฝั่งซ้าย ติดฝั่งขวามั้ย ไปเกยตื้นมั้ย ไปเกยตื้นยกตัวอย่าง บางคนภาวนา พวกที่ติดสมถะนั้นแหละ พวกเกยตื้น วันๆก็ไปสร้างภพที่ละเอียด ปราณีต ว่างๆ ทำให้ดูก็ได้… เนี่ย แล้วก็ไปอยู่ในความว่าง เหมือนอยู่คนละโลกกัน นะ เห็นมั้ย เสียงยังเปลี่ยนเลย…

อย่างนี้เกยตื้น กี่ปีกี่ชาติก็อยู่ตรงนี้แหละ นะ ใ้ช้ไม่ได้ ไปดูเอานะ แล้วสำรวจตัวเอง ที่พวกเราได้จากหลวงพ่อกับได้จากพรรคพวกรุ่นพี่ ต้องเรียกว่ารุ่นพี่นะ เขาเป็นซือเฮีย ซือเจ๊ ใช่มั้ย ถึงเราอายุ ๕๙ แล้ว เด็กๆพวกนี้ก็ยังเป็นซือเฮีย ซือเจ๊

เนี่ย อาศัยการได้ฟังธรรมนะ เรารู้ว่าเราจะทำอะไร ทำเพื่ออะไร จะทำอย่างไรแล้ว แล้วก็รู้ไปเรื่อย ปฏิบัติไปเรื่อย นะ อย่าไปเกยตื้น อย่าไปติดอะไรอยู่ที่ไหนซะ สำรวจตัวเองเป็นระยะๆ การสำรวจตัวเองว่าไปติดไปข้องอะไรใน ๗ ประการนั้นไว้ ก็เรียกว่าโยนิโสมนสิการ สำรวจตัวเองไปเรื่อย เรื่อย เรื่อย ในที่สุดใจนี้ก็จะไหลไปถึงมหาสมุทร ใจนี้แหละจะบรรลุพระนิพพานโดยตัวของเขาเอง ไม่ใช่เราไปเสือกไสไม้นี้ไปสู่มหาสมุทรนะ มันไหลไปเอง

จิตนี้เหมือนกัน ถ้ามีสัมมาทิำฎฐิแล้วไหลไปสู่นิพพานเอง สิ่งที่เราทำขึ้นมาไม่ใช่ช่วยใ้ห้มันไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราทำก็คือ ๗ อย่างนั้นแหละ เพราะฉะนั้นเลิกซะ แล้วก็รู้กายอย่างที่เขาเป็น รู้กายอย่างที่เขาเป็น ไปเรื่อยๆ


สวนสันติธรรม
CD: ธรรมเทศนา ๔ วันในสวนสันติธรรม
Track: ๘
ระหว่างนาทีที่ ๑๐ วินาทีที่ ๔๙ ถึง นาทีที่ ๑๗ วินาทีที่ ๓๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ขณะแรกที่ออกจากสมาธิ เป็นนาทีทองของคนทำสมาธิ

mp 3 (for download) : ขณะแรกที่ออกจากสมาธิ เป็นนาทีทองของคนทำสมาธิ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์: บางคนชอบทำสมาธิก็ทำสมาธิไปไม่ห้าม แต่พอออกจากสมาธินี่ให้มีสติรู้ทันจิตตั้งแต่ขณะแรกที่ออกจากสมาธิ ตัวนี้สำคัญที่สุดนะ  ขณะแรกที่ออกจากสมาธิเป็นนาทีทองของคนทำสมาธิ ในขณะที่อยู่ในสมาธินั้นเป็นที่พักผ่อน ไม่เกิดสติปัญญาอะไร แต่ขณะที่จิตถอยออกจากสมาธิให้มีสติรู้ทันความเปลี่ยนแปลงของจิตเลย จิตตะกี้มีปิติ ออกมาแล้วไม่มี จิตตะกี้มีสุข ออกมาแล้วไม่มี จิตตะกี้สงบเฉยๆ พอออกมาแล้วฟุ้งซ่าน

เพราะฉะนั้น นาทีทองอยู่ตรงที่ถอยออกจากสมาธินะ สำหรับคนที่ทำสมาธิ แต่ถ้าออกจากสมาธิแล้วก็ยังทำหน้าอย่างนี้ทั้งวันนะ นี่ หลวงพ่อทำให้ดูนะ แล้วคิดว่าปฏิบัติอยู่ทั้งวัน นี่หลงผิดอยู่ทั้งวันนะ โมหะครอบอยู่ทั้งวันแล้วไปคิดว่าวิปัสสนาจริงๆ เราจะเจริญสติต้องทำซึมไว้ ทำยากนะ ลืมไปนานแล้ว (โยมหัวเราะ) นี่ เชิญด่าเลยนะ ไม่โกรธหรอก ด่าสามวันก็ไม่โกรธนะ มันไม่ใช่ไม่มีกิเลสนะ มันคือกรรมฐานที่เอาหินทับหญ้าไว้เฉยๆ กรรมฐานโง่นะ เพราะฉะนั้น ถ้าออกจากสมาธิแล้วอย่าให้ค้างอยู่ ออกแล้วออกเลย ดูความเปลี่ยนแปลงของจิตของใจไปเรื่อยๆ

สวนสันติธรรม
CD: ธรรมเทศนา ๔ วัน ในสวนสันติธรรม
File: 501017B.mp3
Time: 46.26 – 47.56

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

การปฏิบัติธรรมคล้ายขับรถ บางเวลาก็ต้องเหยียบคันเร่ง บางเวลาก็เหยียบเบรก

mp 3 (for download) : การปฏิบัติธรรมคล้ายขับรถ บางเวลาก็ต้องเหยียบคันเร่ง บางเวลาก็เหยียบเบรก

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ :

สมัยก่อนครูบาอาจารย์ท่านสอนสมาธินะ พอจิตใจเราสงบ เช่น เราพุทธโธ หรือ หายใจ จิตใจสงบแล้วมักจะขี้เกียจขี้คร้าน เพราะมีความสุข ท่านจะไล่ให้ออกมาพิจารณากาย หรือ ออกมาเจริญสติข้างนอกนี้ คนที่ติดในความสุข ความสงบ พอตัวเองออกมาทำงาน ไม่ชอบนะ มันเหนื่อย เหนื่อย มันคล้ายๆเรานอนมานานแล้วเลยขี้เกียจออกจากบ้าน พอออกมาแล้วรู้สึกเหนื่อยมาก รู้สึกร้อนมาก แต่พอเราออกมาทำงานไปเรื่อยๆ บางทีทำงานไปช่วงหนึ่ง เพลินกับงาน ไม่ยอมพักแล้ว คราวนี้เพลินกับงาน ครูบาอาจารย์ก็จะบอกว่า “ไปเพิ่มสมถะหน่อยช่วงนี้ ทำความสงบบ้าง พักบ้าง ให้จิตทำงานทั้งวันทั้งคืนไม่ดี ไม่มีแรง”

การปฏิบัติธรรมคล้ายๆขับรถนะ บางเวลาก็ต้องเหยียบคันเร่ง บางเวลาก็เหยียบเบรก ขาที่เหยียบคันเร่งกับขาที่เหยียบเบรกขาเดียวกัน ใช่ไหม ไม่ใช่เหยียบคันเร่งพร้อมกับเหยียบเบรก บางเวลาเราก็ต้องทำความสงบเข้ามา บางวันสงบมากแล้วนะ ก็ต้องออกมารู้กายรู้ใจ ฝืนๆมัน มันไม่อยากดู ไม่อยากรู้ เพราะว่ามันไม่สบาย

เคยอ่านประวัติท่านอาจารย์มหาบัว ท่านเล่า เคยอ่านไหม ท่านอยู่กับหลวงปู่มั่น บอกว่า ช่วงแรกๆไปอยู่กับหลวงปู่มั่นนะ เช้าๆหลวงปู่มั่นจะถามว่า “ท่านมหาท่านภาวนาเป็นอย่างไร ท่านบอกว่า มีความสุข ความสงบ” ทุกวันรายงานอย่างนี้ นานๆไป หลวงปู่มั่นท่านก็ดุเอานะว่า เอาแต่ความสุข ความสงบไม่ได้ ให้ออกมาพิจารณา ออกมารู้กายรู้ใจ ก็รู้ไปเถอะ พอท่านออกมาพิจารณา ท่านเริ่มต้นด้วยพิจารณากาย พิจารณาไปเรื่อย แล้วก็เพลิดเพลิน เช้าๆหลวงปู่มั่นมาถามอีก ท่านก็บอก หมู่นี้มีปัญญาดี เจริญปัญญา ทุกวันพูดแต่เจริญปัญญานะ ลืมสมถะอีก ท่านบอกจิตของท่านมันโลดโผน

เพราะฉะนั้น เราต้องดูตัวเองนะ ช่วงไหนควรเจริญปัญญา ช่วงไหนควรทำสมถะ สมถะเป็นที่พักผ่อนนะ ที่ดีไม่ใช่ไม่ดีนะ บางคนได้ยินหลวงพ่อพูด เจริญสติในชีวิตประจำวัน นึกว่าหลวงพ่อบอกไม่ต้องทำสมถะ เราทำเท่าที่เราทำได้ บางคนทำอย่างไรมันก็ทำไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย ก็ไหว้พระสวดมนต์ไว้ก็ยังดีนะ ได้สมถะนิดๆหน่อยๆ

สวนสันติธรรม CD: 16
File: 25491104.mp3
Time: 25.55-28.33

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ล้มกระดานวันละครั้ง

mp 3 (for download): ล้มกระดาน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: ช่วงที่ผ่านมาเคยเพ่ง แล้วก็ล้มกระดาน ปฏิบัติใหม่ ทีนี้มันล้มกระดานบ่อยมากครับ ประมาณอาทิตย์ละครั้งราวๆนี้

หลวงพ่อปราโมทย์: เหรอ เอาให้ได้วันละครั้ง

โยม: (หัวเราะ) ก็เลยจะขอคำแนะนำจากหลวงพ่อ…

หลวงพ่อปราโมทย์ : แนะแล้วนะ เอาวันละครั้ง ตื่นขึ้นมาก็เริ่มต้นใหม่ เรามีชีวิตใหม่ทุกวัน ชีวิตเมื่อวานที่ฝึกมาแล้ว ปฏิบัติมาแล้ว ลืมมันไปซะ เรามีชีวิตอยู่กับปัจจุบันไปเรื่อย เริ่มต้นใหม่ไปเรื่อยๆ ล้มกระดานตลอดเลย

โยม: รู้สึกมันผิดทุกวันครับ

หลวงพ่อปราโมทย์: ถูกต้อง นั่นแหละถูกละ ถ้าถูกเมื่อไหร่อริยมรรคก็เกิด เพราะงั้นจิตมันเดินผิดตลอด สังเกตมั้ย ไม่ปรุงอย่างนี้มันก็ปรุงอย่างโน้น สิ่งที่เราเรียกว่าการปฏิบัติ จริงๆแล้วคือการปรุงแต่งทั้งหมดเลย งั้นให้เราตามรู้ รู้ทันความปรุงแต่งไปเรื่อย วันหนึ่งมันก็หมดความปรุงแต่งไปเอง พอมันรู้ทันแล้วว่าไอ้นี่ก็ปรุงๆๆ ปรุงอย่างนี้นึกว่าถูกนะ ดูไปสักพักอ้าวผิดอีกแล้ว ไปปรุงอย่างอื่น คิดว่าอย่างนี้จะถูก ถูกอีกก็ผิดอีก

CD สวนสันติธรรม ๒๓

๕๑๐๑๒๗

6min42-7min44

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

มิจฉาสมาธิเป็นอย่างไร?

MP3 (for download): มิจฉาสมาธิเป็นอย่างไร?

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อ: ส่วนมิจฉาสมาธิ ที่เกิดร่วมกับจิต เกือบทั้งหมดนะ จิตเนี่ยมันไหลเข้าไปเกาะนิ่งๆอยู่กับตัวอารมณ์ ไปจับตัวอารมณ์ แน่นๆอยู่ที่ตัวอารมณ์ ยกตัวอย่างเวลาเราเดินจงกรม จิตมันไปเกาะอยู่ที่เท้า เท้าขยับ เท้ายก เท้าย่าง อะไรนี่รู้หมดเลย จิตมันเกาะอยู่ที่เท้า อันนั้นไม่เรียกว่ามีสัมมาสมาธิ แต่มันเป็นมิจฉาสมาธิ จิตมันไหลไปเกาะอยู่ที่เท้า จิตไปแช่อยู่ที่ตัวอารมณ์ การที่จิตไปแช่อยู่กับตัวอารมณ์นะ ภาษาแขกมีชื่อว่า ‘อารัมมณูปนิชฌาน’ การเพ่งตัวอารมณ์ การเพ่งตัวอารมณ์เป็นการทำสมถกรรมฐาน ฉะนั้นบางคนเพ่งเท้าไปเรื่อยนะแล้วตัวลอย ตัวเบา ตัวโคลง ตัวใหญ่ ตัวหนัก มีสารพัดตัวนะ บางทีก็มีตัวอะไรมาไต่ รู้สึกวูบๆวาบๆ รู้สึกขนลุกขนพอง นี้เป็นอาการของสมถะ อาการของปีติทั้งสิ้นเลย ทำไมเกิดปีติ เกิดขึ้นมาได้ เพราะว่าไปเพ่งเท้าไว้ เพ่งตัวอารมณ์นะ เป็นสมถะ

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ดูจิตด้วยการบริกรรมพุทโธ

MP3: ดูจิตด้วยการบริกรรมพุทโธ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: สวดมนต์แล้วก็จะบริกรรมพุทโธค่ะ ไม่ทราบว่าเหมาะกับจริตไหมคะ

หลวงพ่อปราโมทย์: เหมาะนะ แต่ต้องรู้ว่าเราพุทโธนะ เราดูจิตเป็นหลัก พุทโธเป็นตัวรองเท่านั้นเอง พุทโธเพื่อจะรู้ทันจิต เพราะฉะนั้น พุทโธแล้วจิตเราเป็นอย่างไรเราคอยรู้ทันจิตไว้ ไม่ใช่พุทโธให้จิตนิ่งนะ ของคุณพุทโธแล้วจิตมันน้อมไปสู่ความนิ่งมากไป

โยม: อย่างนี้ต้องไปดูกายเพิ่มด้วยใช่ไหมคะ

หลวงพ่อปราโมทย์: ยังไม่ต้องหรอกนะ

โยม: ดูแต่จิต

หลวงพ่อปราโมทย์: รู้ทันก่อนนะ พุทโธไปๆ แล้วจิตนิ่งลงมารู้ว่าจิตนิ่ง พุทโธแล้วจิตแอบไปคิดรู้ว่าจิตแอบไปคิด พุทโธแล้วคอยรู้ทันจิตไว้

โยม: ค่ะ เพราะตอนนี้จะรู้สึกเหมือนกันว่าเครียดๆ ตึงๆ

หลวงพ่อปราโมทย์: นั่นแหละ มันน้อมใจให้ตึงๆ นิ่งๆ ไว้ ไปกดจิตให้นิ่งนั่นแหละ ไปพุทโธแล้วทำจิตให้นิ่ง อย่าไปให้นิ่ง พุทโธแล้วก็ปล่อยให้จิตทำงานแล้วเราคอยรู้ทันไปเรื่อยๆ พุทโธเป็น background เราดูจิตเป็นตัวหลัก ไม่ใช่พุทโธเพื่อให้จิตสงบ ของคุณไปพุทโธมุ่งให้จิตมันนิ่ง ก็เลยเครียดขึ้นมา

โยม: ถ้าเรารู้แบบเบาๆ นี่คือจิตมันจะตื่นขึ้นมาเองใช่ไหมคะ

หลวงพ่อปราโมทย์: ดูเบาๆ ถ้าจงใจเบาๆ ก็แกล้งเบาก็ไม่ใช่อีกนะ แต่ถ้าจ้องไว้นี่ผิดแน่นอน ถ้าเบาๆ นี่อาจจะถูกหรืออาจจะผิดก็ได้ เพราะฉะนั้นคุณพุทโธไป แล้วคุณก็รู้ทันจิตไป ไม่ใช่พุทโธเพื่อให้จิตนิ่ง แต่พุทโธเพื่อรู้ทันจิต จิตเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงปล่อยให้เขาเคลื่อนไหวไปแล้วก็คอยรู้เอา

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ดูจิตด้วยอานาปานสติ

MP3: ดูจิตด้วยอานาปานสติ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม : คุณแม่ทำอานาปานสติมา ๓๐ ปีแล้วค่ะ

หลวงพ่อ: นานกว่าหลวงพ่อ หลวงพ่อทำมา ๒๒ ปี

โยม: แล้วก็มาเริ่มฝึกดูจิตตามแนวหลวงพ่อประมาณ ๖ - ๗ เดือน อยากจะทราบว่าคุณแม่ยังติดเพ่งอยู่หรือเปล่าคะ

หลวงพ่อ : นิดหน่อย ยังมีนิดหน่อยนะ เพราะฉะนั้นเวลาเราทำอานาปานสติเราปรับนิดหนึ่ง แต่เดิมเราทำอานาปานสติแล้วจิตเราไหลไปอยู่ที่ลม มันไปสงบอยู่ที่ลม เราเปลี่ยนใหม่ เราทำอานาปานสติแล้ว เราเห็นร่างกายหายใจไปเรื่อย เราลืมตานะ นั่งดูร่างกายนี้หายใจไป ใจเราเป็นแค่คนดู ต่อไปไม่ว่าทำอะไรนะก็จะมีใจเป็นคนดูเรื่อยๆ ความสุขความทุกข์เกิดก็มีใจเป็นคนดู โลภโกรธหลงเกิดก็มีใจเป็นคนดู ฝึกไปเรื่อยนะมันจะมีใจเป็นคนดูเรื่อยๆ ฝึกอย่างนี้ได้ไหม ฝึกไปนะร่างกายก็ของถูกดู

โยม : ลืมตาด้วยใช่ไหมคะ

หลวงพ่อ : ลืมตาไว้ หลับตาเดี๋ยวมันเคลิ้มเข้าข้างในเหมือนที่มันเคยชิน พยายามลืมตาไว้นะ แล้วก็เดินนะ เดินอยู่ก็เห็นร่างกายมันหายใจไป ยืนเดินนั่งนอนทำในทุกๆอิริยาบถ อย่านั่งนาน นั่งแล้วซึม

*หมายเหตุ*

คลิปธรรมะคือเสียงเทศน์บางช่วงของลพ.ปราโมทย์ จัดเป็นหมวดหมู่และตอบคำถามเฉพาะเรื่อง จึงไม่ใช่ข้อสรุปของการสอนธรรมะของท่าน

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่