Dhammada on Android
available now on
Google Play Store
คำชี้แจง
    Dhammada.net เป็นเว็บไซต์ของกลุ่มลูกศิษย์ที่ภาวนาตามแนวดูจิตได้จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สวนสันติธรรม หรือ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แต่อย่างใด     จึงขอชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันกับข้อเท็จจริง     ขอแสดงความนับถือ     Dhammada.net

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

Latest Clips

คลังเก็บ

จะปล่อยวางเป็นต้องเห็นไตรลักษณ์

mp3 for download :จะปล่อยวางเป็นต้องเห็นไตรลักษณ์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : กายก็แสดงไตรลักษณ์ใช่มั้ย ดูกายเพื่ออะไร เพื่อให้เห็นไตรลักษณ์ ดูเวทนาก็เห็นไตรลักษณ์ ดูสังขารปรุงดีปรุงชั่วก็เห็นไตรลักษณ์ ดูวิญญาณดูจิตดูใจ ก็เห็นไตรลักษณ์ เห็นไตรลักษณ์ก็คือเห็นความจริง (หมายถึง เห็นความจริงร่วมของทุกๆสิ่งที่เป็นกาย เป็นเวทนา เป็นสังขาร เป็นวิญญาณ – ผู้ถอด)

เพราะเห็นตามความเป็นจริงจึงเบื่อหน่าย เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายความยึดถือ เพราะคลายความยึดถือจึงหลุดพ้น หลุดพ้นจากอะไร หลุดพ้นจากความยึดถือในรูปในนามนี่เอง จิตเข้าถึงความสงบสุข สันติสุขที่แท้จริง คำว่าสันติๆ นั้นแหละคือคำว่า “นิพพาน” (เป็นคำไวพจน์ หมายถึง เป็นคำคนละคำที่เขียนหรือเรียกหรือหมายถึงสิ่งเดียวกัน – ผู้ถอด) ในนิพพนมีอะไรอยู่ ในนิพพานมีบรมสุขอยู่ มีความสุขอยู่ สันติมีที่ไหนความสุขก็มีที่นั่น แต่ในโลกที่เที่ยวหาสันติไม่เคยมีสันติหรอก สันติอยู่ที่จิตนี่เองนะ ถ้าฝึกเจริญศีลสมาธิปัญญาแก่รอบ จะเข้าถึงสันติภายในใจของเรานี่เอง

เพราะฉะนั้นภาวนานะ แม้ว่าโลกจะแตกเราก็มีความสุขของเราอยู่ได้ เพราะเรามีสันติสุข


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันเสาร์ที่ ๗ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
FILE : 560907B
CD : สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๕๑
ระหว่างนาที่ที่ ๖ วินาทีที่ ๒ ถึง นาทีที่ ๗ วินาทีที่ ๔

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

เมื่อมีความอยากก็มีความยึดถือ มีความยึดถือก็มีความทุกข์

mp3 for download : เมื่อมีความอยากก็มีความยึดถือ มีความยึดถือก็มีความทุกข์

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :อะไรเป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน ก็ตัณหา-ความอยาก เป็นปัจจัยให้เกิดความยึดถือ เพราะอยากถึงยึด เพราะเขามีความอยากจึงมีความยึด ความอยากนั้นเกิดจากว่า เรารู้สึกว่านำความสุขมาให้ หรือไม่นำความทุกข์มาให้ สิ่งที่มากระทบเรานี้

ถ้าเรารู้สึกว่ามันนำความสุขมาให้ เราก็อยากให้มันอยู่นานๆ หรือหากมันยังไม่มาก็อยากให้มันมา มันมาแล้วก็อยากให้มันอยู่ตลอด ถ้ารู้สึกว่ามันนำความทุกข์มาให้ เราก็อยากให้มันไม่มา มาแล้วก็อยากให้มันไปเร็วๆ ตัวเวทนานะ ความรู้สึกสุขรู้สึกทุกข์ก็เลย เป็นปัจจัยให้เกิดความอยาก พอมันสุขก็อยากให้มันมา มาแล้วก็อยากให้มันอยู่นานๆ มันทุกข์ขึ้นมา ก็อยากให้มันไม่มา ถ้ามันมาก็อยากให้มันไปเร็วๆ

อาศัยเวทนานะเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา อาศัยตัณหาคือความอยากก็ทำให้เกิดความยึด มีความยึดขึ้นมานะ ก็ไปหยิบฉวยเอาตัวทุกข์ขึ้นมา กายนี้ใจนี้โดยตัวของมันเองนะ เป็นตัวทุกข์

สติปัญญาของเราไม่พอที่จะเห็นว่ามันเป็นตัวทุกข์ เราเห็นว่ามันเป็นของดีของวิเศษเราจึงเข้าไปยึดมัน แต่ถ้าวันใดเราเห็นความจริงว่ากายนี้ใจนี้เป็นตัวทุกข์ เห็นของไม่ใช่ของดีของวิเศษอย่างที่เคยนึกเคยคิดไว้ ถ้าเห็นความจริงตรงนี้ได้นะ ความยึดถือจะหมดไป ความอยากความยึดก็จะหมดไป


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 551208B
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๑๐ ถึงนาทีที่ ๔ วินาทีที่ ๑๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ความทุกข์แปรไปตามกำลังของความยึดถือ

mp3 for download : ความทุกข์แปรไปตามกำลังของความยึดถือ

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ขอขอบคุณภาพจาก บ้านจิตสบาย
retouched by Dhammada.net

หลวงพ่อปราโมทย์ :จริงๆแล้วการปฏิบัติธรรมนะ เอา Basic เลย มันไม่มีอะไรหรอก มันคือการเรียนรู้ความเป็นจริงของตัวเราเอง สิ่งที่เรียกว่าตัวเราก็คือกายกับใจของเรานี่แหละ ถ้าเราเรียนรู้ความจริงได้นะ เราจะหมด ถ้าไม่หมดนะก็ลด ความยึดถือกายยึดถือใจลงได้ ถ้าเรายึดถือมากก็ทุกข์มาก ยึดถือน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่ยึดถือก็ไม่ทุกข์ ใจของเรามันทุกข์ขึ้นมาได้เนี่ย ก็เพราะว่ามันเข้าไปยึดถือสิ่งต่างๆ ส่วนร่างกายที่เป็นทุกข์น่ะ เป็นไปตามธรรมชาติของมัน มีร่างกายแล้วถึงอย่างไรก็ทุกข์

ร่างกายของพระอรหันต์ก็ทุกข์เหมือนที่พวกเราทุกข์นั้นแหละ แต่จิตใจเนี่ย ท่านรู้ความจริงมากก็ไม่ยึดถือ ท่านก็ไม่ทุกข์ พระอนาคามีท่านยังยึดถือจิตอยู่ แต่ว่าไม่ยึดถือกาย ร่างกายเจ็บป่วยแปรปรวนอะไรก็ไม่เดือดร้อน แต่ถ้าจิตไม่มีสมาธิอะไรอย่างนี้ ยังเดือดร้อน ยังพยายามรักษาจิตอยู่ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ก็ยังคงยึดถือขันธ์ ๕ เหมือนที่พวกเรายึดนี่แหละ แต่ท่านยึดน้อยกว่า ของเรายึดมาก ถ้าเราเห็นว่าขันธ์ ๕ ของเรา ร่างกายจิตใจของเรา เป็นของดีของวิเศษ หวงแหนมาก รักมาก อยากให้มันอยู่อย่างนี้แหละ อมตะนิรันดร อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราคงที่อยู่ในสิ่งที่ดี ถ้ามีของไม่ดีมาก็อยากให้มันพ้นไปเร็วๆ

ความอยากนั้นเป็นต้นตอให้เกิดความยึดถือ เนี่ยเราจะเรียนนะ จนกระทั่งวันหนึ่งมันไม่ยึด ไม่ยึดไม่ทุกข์ ตัวที่ทำให้เข้าไปยึดถือสิ่งต่างๆนั้นน่ะคือ ความยึดถือ มีชื่อเรียกว่า “อุปาทาน”


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
แผนที่ : 1 2 3
แสดงธรรมที่ วัดสวนสันติธรรม
วันศุกร์ที่ ๑๑ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนฉันเช้า
File: 551208B
CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๘
ระหว่างนาทีที่ ๐ วินาทีที่ ๒ ถึงนาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๙

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

จะเป็นวิปัสสนาได้ ต้องเห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม

mp3 (for download) : จะเป็นวิปัสสนาได้ ต้องเห็นไตรลักษณ์ของรูปนาม

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

หลวงพ่อปราโมทย์ : การเจริญปัญญานั้นต้องเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกายของใจ ถ้าไม่เห็นไตรลักษณ์ของกายของใจ ไม่ใช่วิปัสสนากรรมฐาน

ทำไมเราต้องมาเห็นไตรลักษณ์ของกายของใจ ก็เพื่อเราจะได้ถอดถอนความยึดถือในกายในใจ เราเห็นว่าร่างกายเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวเรา เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก วันหนึ่งมันก็ไม่ยึดถือร่างกาย เห็นจิตใจไม่เที่ยงเป็นทุกข์ไม่ใช่ตัวเรา ถึงวันหนึ่งมันก็ไม่ยึดถือจิตใจ ไม่ยึดถือในรูปธรรมนามธรรมทั้งหลาย พอจิตไม่ยึดในรูปในนาม จิตก็หลุดพ้นจากรูปนาม ก็บรรลุมรรคผลนิพพานไป

จะเห็นความจริงได้ก็ต้องเห็นไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์ของรูปนาม ถ้าไม่เห็นไตรลักษณ์จิตจะไม่ปล่อย ที่ไม่ปล่อยก็เพราะไม่เบื่อ ถ้าเห็นความเป็นจริง เห็นไตรลักษณ์ เพราะเห็นตามความเป็นจริงจึงเบื่อหน่าย เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายกำหนัดคลายความยึดถือ เพราะคลายกำหนัดจึงหลุดพ้น เพราะหลุดพ้นจึงรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์คือการประพฤติปฎิบัติธรรมทำเสร็จแล้ว กิจที่ต้องทำ ทำเสร็จแล้ว กิจใหม่(เพื่อความเป็นอย่างนี้-ผู้ถอด)ไม่ต้องทำ ไม่มีอะไรต้องทำอีก

เนี่ยจะไปสู่จุดนี้ได้ก็ต้องเห็นตามความเป็นจริง เห็นไตรลักษณ์ของรูปของนาม


หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
เมื่อวันศุกร์ที่ ๒o เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

File: 550120
CD : สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๔๓
ระหว่างนาทีที่ ๒ วินาทีที่ ๕ ถึงนาทีที่ ๓ วินาทีที่ ๓๖

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

ทางวิปัสสนา (๑๘) รักหวงแหนในสิ่งใด ก็ต้องเป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น

mp3 for download : ทางวิปัสสนา (๑๘) รักหวงแหนในสิ่งใด ก็ต้องเป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

ทางวิปัสสนา

ทางวิปัสสนา

หลวงพ่อปราโมทย์ : พอเราหมดความยึดถือในกายเราจะไม่ทุกข์เพราะกาย หมดความยึดถือในจิตจะไม่ทุกข์เพราะจิตอีกต่อไป เรารักอะไร เรา(เป็น)ทุกข์เพราะสิ่งนั้น ไม่ว่าเรารักอะไร เราจะเป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้นเสมอ

ยกตัวอย่างเรามีคนรักสักคนหนึ่ง ว่าหวานแหววมากนะ ทุกข์มั้ย ความจริงทุกข์นะ เพราะเราสูญเสียอิสรภาพไป เราสูญเสียอิสรภาพไปนานนะ รักมากจนแต่งงานกันนะ เสียอิสรภาพนานๆ นี่คิดถึงอิสรภาพอีกแล้ว ไม่อยากได้อีกแล้ว ทุกข์อีกแล้ว เนี่ยเฝ้ารู้ลงไปนะ เรียนรู้ลงไป วันหนึ่งสติปัญญาแก่รอบพอนะ เราจะได้อิสรภาพที่แท้จริงนะ เราจะเป็นอิสระ ที่ว่าหลุดพ้นๆน่ะนะ หลุดพ้นจากพันธนาการทั้งปวง

แต่ถ้ายังรักใคร่ผูกพันหวงแหน ในสิ่งใดก็ต้องทุกข์เพราะสิ่งนั้น มีบ้านก็ทุกข์เพราะบ้าน บางคนไปซื้อบ้าน ผ่อนส่งตั้งนาน หวังว่าซื้อบ้านแล้วจะได้อยู่ตลอดชีวิต มีความสุข อยู่ไม่ได้จริงนะ เดี๋ยวบ้านก็ชำรุดทรุดโทรมต้องซ่อมต้องพังมีภาระมากมาย น้ำจะมาใช่มั้ย ต้องต่อสู้ จะท่วมหรือไม่ท่วมอะไรอย่างนี้ ท่วมเสียรู้แล้วรู้รอดไปเลยยังทำใจได้ง่าย ท่วมหรือไม่ท่วมยังกลุ้มใจหนัก มีรถยนต์ก็กลุ้มใจ น้ำจะมาจะทำยังไง เอารถไปใส่ถุงอะไรอย่างนี้ ทำอะไรต่ออะไรสารพัดเลย กินไม่ได้นอนไม่หลับนะ กลัวรถลอยตามน้ำไปอีก อะไรอย่างนี้ มีแฟนก็กลุ้มใจ มีลูกก็กลุ้มใจ

รักอะไรก็ทุกข์เพราะอันนั้น แล้วเรารักอะไรมากที่สุด เรารักตัวเอง ถ้ามีตัวเอง ทุกข์ที่สุดเพราะรักที่สุด เพราะฉะนั้นล้างความเห็นผิดว่ามีตัวเราได้ ก็พ้นทุกข์นั้นแหละ นี่แหละเส้นทางแห่งความพ้นทุกข์

0409.33m57-35m51

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา
ศรีราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่ ห้องสุวรรณภูมิบอลรูม ชั้น ๒ อาคารบี
บจก. เตียวฮงสีลม บางพลี
วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ระหว่างเวลา ๑๓:๐๐ – ๑๕:๐๐ น.

File: 550409.mp3 (ไทย)
File: 550409.mp3 (สหรัฐอเมริกาและยุโรป)
เสียงพระธรรมเทศนา ระหว่างนาที่ ๓๓ วินาทีที่ ๕๗ ถึง นาทีที่ ๓๕ วินาทีที่ ๕๑

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่

อัตตวาทุปาทาน

mp3: (for download) อัตตวาทุปาทาน

Audio clip: Adobe Flash Player (version 9 or above) is required to play this audio clip. Download the latest version here. You also need to have JavaScript enabled in your browser.

โยม: หลวงพ่อครับ อยากให้หลวงพ่อช่วยอธิบายครับว่า การบังคับ หมายถึงว่ามีตัวตนที่บังคับได้ และก็ตัวตนที่บังคับไม่ได้

หลวงพ่อปราโมทย์: ตัวตนไม่มีนะ ไม่มีสักอย่างเดียว ทั้งตัวตนที่บังคับได้ ตัวตนที่บังคับไม่ได้ ตัวตนไม่มี มีแต่ขันธ์

โยม: บางครั้งเราไม่เข้าใจว่า อย่างเช่น บางเรื่องเราเข้าใจว่ามันบังคับไม่ได้ อย่างสมมุติว่าเราสั่งให้มือขยับอย่างนี้

หลวงพ่อปราโมทย์: อันนี้ เพราะว่ารูปมันเคลื่อนไหวได้เพราะจิตสั่ง การที่จิตสั่งเป็นเหตุอันหนึ่งให้เกิดรูป รูปบางอย่างเกิดจากจิตเรียก ‘จิตตชรูป’ รูปที่เกิดจากจิต เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่ารูปทุกอย่างที่สั่งได้

โยม: ขออีกคำถามครับ ก็คือว่า บางครั้ง ไปดูว่า บางครั้งจิตเป็นผู้รู้ จิตเป็นผู้นึก บางครั้งเป็นผู้จำ ระหว่างที่ดู บางครั้งเราเห็นว่าหลังจากเกิดกิเลสแล้ว ก็จะมี… มองไปดูอีกทีหนึ่งมันมีตัวตน เห็นตัวตนแทรกมาเป็นระยะๆ

หลวงพ่อปราโมทย์: ใช่ๆ

โยม: ครับ คราวนี้บางทีก็เป็นตัวตนใหญ่ ตัวตนเล็ก บางทีก็มองไม่ชัดไม่เห็น บางครั้งก็ตั้งใจเข้าควานๆเพื่อไปหามันว่ามันอยู่ตรงไหน

หลวงพ่อปราโมทย์: ถ้าควานอยู่ไม่เห็นหรอกเพราะว่าเราเอาตัวตนเที่ยวหาตัวตน มองไม่เห็น ถูกต้องแล้ว เพราะฉะนั้นตัวตนจริงๆไม่มีหรอก จิตเราไปสำคัญว่ามีขึ้นมาเอง เป็นทิฎฐิ เป็นมิจฉาทิฎฐิ ไม่มีจริง เหมือนภาพฝัน เหมือนภาพลวงตา

โยม: ตัวนี้เป็นทิฎฐิหรืออุปาทานครับ

หลวงพ่อปราโมทย์: ใจมันไปสำคัญผิดว่ามีตัวตน มันอุปาทานในสิ่งต่างๆ แลัวมันก็ยึดในวาทะว่ามีตัวตน เพราะฉะนั้นไม่มีนะ ว่า ความยึดอุปาทานในตัวตน ไม่มี มีแต่คำว่า ‘อัตตวาทุปาทาน’ อัตตะ วาทะ มีวาทะว่ามีตัวตน แล้วไปยึดในวาทะอันนี้ เพราะฉะนั้นตัวตนจริงๆไม่มีให้ยึดหรอก แต่เราไปยึดในความคิดความเห็นว่ามีตัวตน แล้วไปสำคัญมั่นหมาย เอาสภาวธรรมซึ่งเราไปรวบมาแล้ว แล้วไปสำคัญหมายว่าเป็นตัวเป็นตน เรียกว่า ‘สัญญาวิปลาส‘ วิปลาสไป ทั้งๆที่ไม่มี

โยม: คือ มันเป็นสภาวะที่ผุดขึ้นมาเท่านั้นเอง

หลวงพ่อ: ใช่ มันผุดขึ้นมาตามหลังความคิดมา พอเราคิดนะ โดยเฉพาะถ้าคิดแล้วกิเลสเจือนะ จะโผล่ได้เร็วและแรง ถ้าคิดไปในทางเป็นกุศลนะ ก็โผล่เหมือนกันนะ โผล่มานุ่มนวล เบาๆ แหม ฉันเป็นคนดี นี่ฉันทำบุญใส่บาตร ฉันดี

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรี่ราชา ชลบุรี

แสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
เมื่อวันอังคารที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หลังฉันเช้า

CD: สวนสันติธรรม แผ่นที่ ๒๕
File: 510415B
Time: นาทีที่ ๑๗ วินาทีที่ ๒๕ ถึง นาทีที่ ๑๙ วินาทีที่ ๔๒

เว็บไซต์ Dhammada.net
เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการอนุญาตจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ให้สามารถดำเนินการถอดข้อความพระธรรมเทศนาในลักษณะข้อความสั้นได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓

ชี้แจงการรับกิจนิมนต์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่นี่

สมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับแจ้งข่าวสารและธรรมะทุกวันจาก Dhammada.net ได้ ที่นี่

ติดตั้ง Dhammada Application for Android ที่นี่

คู่มือการใช้งาน อ่านได้ ที่นี่