สนทนากับลุงถนอม > คุยกัน ประสานักภาวนา

วิธีออกจากการเจริญสติ

(1/1)

Aporn:
สวัสดีคะคุณลุง  _/|\_ มีปัญหาอีกแล้วค่ะ  :-[ ขออนุญาตเล่านิดหนึ่งว่า เวลานั่งเจริญสติจะไปที่วัด ซึ่งที่นั่นจะมีที่วิเวก หนูจะไปเจริญสติที่นั่น ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น (แบบว่าเย็นไม่รู้ตัว) ต่อมาได้ยินเสียงพระ-เณรมาเรียก ซึ่งเค้าบอกว่า ต้องเรียกกันนานทีเดียว (หนูไม่ได้ยินค่ะ) พอได้ยินก็ลืมตาทันที จึงทำให้เกิดอาการจะเป็นลม ใจเต้นเร็วมาก เหนื่อย และดวงตาไม่สามารถจับภาพที่มองเห็นได้ชัดเจน และไม่สามารถพูดกับใครได้ชั่วขณะ จนกว่า อาการเหล่านี้จะหายไป จะแก้ไขอย่างไรดีคะ หนูว่าต้องมีอะไรผิดไปแน่ๆ..ปล. หนูจะไปส่งการบ้านวันที่ 18 นี้ค่ะ หวังว่าจะไม่ถูกดุ  :-[

ลุงถนอม:
ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาที่ตั้งใจจะไปส่งการบ้านนะครับ เพราะจะได้เกิดความมั่นใจ ว่าที่ปฏิบัติอยู่นี้ไม่ออกนอกทาง หรือหากมี(ถ้าจะมีนะครับ) ก็จะได้รับการแก้ไขได้ทันท่วงทีครับ  _/|\_

มาต่อกับคำถามนะครับ


--- Quote ---สวัสดีคะคุณลุง  _/|\_ มีปัญหาอีกแล้วค่ะ  :-[ ขออนุญาตเล่านิดหนึ่งว่า เวลานั่งเจริญสติจะไปที่วัด ซึ่งที่นั่นจะมีที่วิเวก หนูจะไปเจริญสติที่นั่น ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น (แบบว่าเย็นไม่รู้ตัว) ต่อมาได้ยินเสียงพระ-เณรมาเรียก ซึ่งเค้าบอกว่า ต้องเรียกกันนานทีเดียว (หนูไม่ได้ยินค่ะ
--- End quote ---

ครับ เมื่อเข้าสมาธิลึกๆแล้วก็จะเป็นเช่นนี้ครับ เพียงแต่ว่า สมาธิชนิดนี้ เป็นสมาธิสงบชนิดที่ใจไหลไปรวมกับอารมณ์ (ในที่นี้คือ ไหลไปรวมกับตัวบริกรรม เช่นลมหายใจ หรือคำบริกรรม) หรือว่าเป็นสมาธิชนิดที่มีจิตตั้งมั่นครับ (แต่ถ้าให้เข้าใจเอาเอง ก็จะเข้าใจเอาว่า เป็นสมาธิชนิดที่จิตไหลไปรวมกับอารมณ์ ขาดความรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ ถ้าเป็นลักษณะนี้ ก็คือ เข้าฌานตามนิยามของหลวงปู่เทสก์ หรือสมาธิทั่วๆไปที่มีในทุกศาสนาครับ)


--- Quote ---พอได้ยินก็ลืมตาทันที จึงทำให้เกิดอาการจะเป็นลม ใจเต้นเร็วมาก เหนื่อย และดวงตาไม่สามารถจับภาพที่มองเห็นได้ชัดเจน และไม่สามารถพูดกับใครได้ชั่วขณะ จนกว่า อาการเหล่านี้จะหายไป
--- End quote ---

เป็นอาการที่จิตถอยออกจากสมาธิเร็วเกินไป เป็นอย่างนี้ล่ะครับ ต่อไปให้ค่อยๆถอยออกมานะครับ ปกติแล้ว ถ้ามีคนมาเรียกจนได้ยิน จิตจะถอยออกจากฌานได้เองอยู่แล้วนะครับ แค่ปล่อยจิตเขา เขาก็ถอยออกมาเองอยู่แล้ว หายใจแรงขึ้นอีกนิด ขยับตัวเล็กๆน้อยๆ จิตก็จะถอยออกมาเร็วขึ้นได้อยู่แล้วครับ แต่ถ้าลืมตาทันทีล่ะก็ อาการจะเป็นอย่างที่เห็นน่ะครับ ยกเว้นว่าเป็นผู้ที่เข้าออกฌานได้อย่างรวดเร็วชำนาญช่ำชองที่เรียกกันว่า วสี น่ะครับ ถ้าอย่างนั้นจะไม่เป็นไร (แต่ก็ต้องฝึกออกแบบนี้ไปก่อน จนถึงช่วงหนึ่งเมื่อชำนาญ ก็ใช้เวลาน้อยลงจนแทบไม่ใช้เวลาเลย)

อย่าลืมขอคำแนะนำจากหลวงพ่อเรื่องการเข้าออกสมาธิด้วยนะครับ อย่าเชื่อลุงถนอมมากนักนะครับ แล้วก็ถามท่านเรื่องสมาธิที่เข้านี้ด้วย ว่าเป็นสมาธิชนิดใด ถ้าเป็นสมาธิชนิดที่มีจิตตั้งมั่น ก็อุ่นใจ เพราะจะเกื้อหนุนการภาวนาได้ดีมากๆในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเป็นสมาธิชนิดที่จิตตั้งแช่ในอารมณ์ การเจริญสติใจชีวิตประจำวัน จำเป็นที่จะต้องตามรู้ตามดูกายให้มากเข้าไว้ ไม่งั้นจะทำให้กลายเป็นคนที่เรื่อยๆเปื่อยๆเฉื่อยชาในสายตาของคนอื่น หรือไม่ก็กลายไปเป็นคนที่เก็บตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และตาหูก็จะขวางพร้อมจะแว้งกัดใครก็ได้หากเข้ามาขวางทาง

ต้องสอบถามหลวงพ่อดูนะครับ (แต่ถ้าจะให้เข้าใจ จะเข้าใจว่า ว่าจะเป็นคนที่เลือกเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครเสียมากกว่า)

ส่งการบ้านแล้วได้ความว่าอย่างไร แวะเวียนมาเล่าสู่กันฟังด้วยครับ ขอให้เจริญในธรรมครับ  _/|\_

Aporn:
หนูไม่เคยมีอาการตาขวาง  ;D  ;D  ;D (หัวเราะน้ำตาไหล) หนูจะมีสติรู้ตัวดีอยู่ค่ะ ช่วงหลังมานี้หนูไม่ได้ใช้คำบริกรรมเลยคะ พอคู้บัลลังก์ได้ ก็ดูลมหายใจ อยู่กับกายอย่างเดียว มีแล่นแว๊บๆ บ้างแต่ก็ดึงกลับมาอยู่ที่กายได้เร็วมาก  แต่แปลกที่ไม่ได้ยินเสียงเรียก เหมือนกันแว๊บแรกไม่ได้ยินค่ะ ต่อมาจะได้ยินแต่ได้ยินไกลๆ และเสียงก็ค่อยๆ ใกล้ และชัดเจนจนลืมตาทันที

อาการแปลกอีกอย่างคือ ตอนหลับตานั่งเจริญสติในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เวลาได้ยินเสียงผู้คนคุยกันหนูจะฟังได้ศัพท์ดีอยู่ ต่อมาเสียงนั้นเริ่มห่างไป เริ่มฟังไม่ได้ศัพท์ ต่อมาเสียงนั้นเปลี่ยนเหมือนเสียงเพลงลอยลมเรื่อยๆ และห่างไกลออกไปจนไม่ได้ยินอะไรอีกเลยค่ะ อาการนี้เป็นปกติดีอยู่ใช่มั้ยคะ

ส่วนปกติแล้วหนูเป็นคนไม่ค่อยชอบอยู่ในที่ชุมชนที่มีคนคุยกันมากๆ เพราะช่วงหลังๆ เวลาเข้ากลุ่มกับผู้คนมากๆ มักจะมีแต่การพูดคุยกันเรื่องของชาวบ้านเป็นหลัก บางคนก็เล่าแต่ความทุกข์ที่ประสบ บางคนก็ชอบชวนไปดูหมอ กินยาวิเศษ ชวนตระเวณทำบุญ ขอเงินบริจาคสร้างนู้นนี่ ที่หนักๆ ก็ชอบชวนมานอนวัด  :-[ อะไรประมาณนี้ หนูคิดว่ามันเสียเวลาปฏิบัตินะคะ หลายปีมานี้ก็เลยหลีกๆ ออกมาหาที่วิเวกที่เราจะภวนาได้ หนูไม่ได้มีความเชื่อว่าไปนอนวัดแล้วจะปฏิบัติได้ดี  :P (ตัวกูเกิดขึ้นแร้ววว)  ขอบคุณคุณลุงอีกครั้งนะคะ  _/|\_

ลุงถนอม:
ไม่ค่อยตาขวางเพราะปลีกวิเวกมาได้สิครับ ลองคลุกคลีมากๆดู จะเห็นกิเลสอีกพวกหนึ่ง พวกโทสะเข้ามาในใจไม่น้อยเลย

อาการทางสมาธิที่บอกมา เหมือนกับอาการของจิตที่เข้าฌานนะครับ เข้าฌานแบบจิตสงบ ไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวอยู่

แนะนำว่า ต้องขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากหลวงพ่อปราโมทย์นะครับ อย่างน้อยจะได้ทราบแน่ชัดว่า เป็นการเข้าสมาธิแบบใดกันแน่ หากเป็นการเข้าสมาธิชนิดให้จิตได้พักผ่อน จะได้รู้ว่า ออกจากสมาธิแล้ว ต้องมาขยันดูกายที่เคลื่อนไหว (สัมปชัญญบรรพ ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน) หรือ ดูร่างกายยืนเดินนั่งนอน (อิริยาบถบรรพ ในกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน) ให้มากขึ้นน่ะครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ _/|\_

Navigation

[0] Message Index

Go to full version