เจตนาสูตร
ผู้สมบูรณ์ด้วยศีลไม่ต้องทำเจตนาว่าขอให้ใจไม่เร่าร้อน เพราะบุคคลผู้มีศีลใจย่อมไม่เร่าร้อนโดยธรรมดาอยู่แล้ว
เมื่อใจไม่เร่าร้อนใจย่อมมีความปราโมทย์คือความปลื้มใจเกิดขึ้นโดยธรรมดา
เมื่อใจปราโมทย์ใจย่อมมีปีติ คือ ความอิ่มใจ เกิดขึ้นโดยธรรมดา
เมื่อใจมีปีติกายย่อมสงบโดยธรรมดา
เมื่อกายสงบใจย่อมเสวยความสุขเป็นธรรมดา
เมื่อใจมีความสุขใจย่อมตั้งมั่นเป็นธรรมดา
เมื่อใจตั้งมั่นย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริงเป็นธรรมดา
เมื่อรู้เห็นตามความเป็นจริงแล้วย่อมเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัดเป็นธรรมดา
เมื่อเบื่อหน่ายคลายกำหนัดไม่ต้องตั้งใจว่าขอให้เกิดวิมุตติญาณทัสสนะคือความรู้แจ้งว่าจิตหลุดพ้น เมื่อเบื่อหน่ายย่อมรู้แจ้งเป็นธรรมดา
ความรู้แจ้งว่าจิตหลุดพ้นจากอาสวะจึงเริ่มต้นจากการเป็นผู้มีศีล เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล
พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ว่า..
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายย่อมหลั่งไหลไปสู่ธรรมทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายย่อมยังธรรมทั้งหลายให้บริบูรณ์ เพื่อจากเตภูมิกวัฏอันมิใช่ฝั่งไปถึงฝั่ง คือ นิพพานด้วยประการดังนี้แลฯ"
RT @Sophony