Author Topic: [กระทูููู้้้้เก่่ามาเล่าใหม่] ที่ใดมีสัมมาสมาธิ-ที่นั้นมีสติสัมปชัญญะ ที่ใดมีสติสัมปชัญญะ-ที่นั้นมีส  (Read 3289 times)

Offline หงส์น้อยบ้านโค้งดารา

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *
  • Posts: 118
  • คะแนนความนิยม: +4/-0
  • Gender: Male
เขียนไว้เมื่อ วัน เสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2543 18:36:12

เห็นข้อเขียนของ คุณพัลวัน อยู่แว้บๆ ว่า
"ฝึกสติสัมปชัญญะ ยากกว่าฝึกสมาธิ"
นับว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจครับ จึงนำมาตั้งเป็นกระทู้ใหม่

อันที่จริงการฝึกสติสัมปชัญญะนั้น ยากกว่าการฝึกสมาธิบางประเภท
และเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับการฝึกสมาธิบางประเภท

ถ้าเป็นมิจฉาสมาธิ ประเภทสงบแบบมีราคะและโมหะชุ่มแช่เอิบอาบนั้น
ยอมรับครับว่า ทำได้ง่ายกว่าการฝึกสติสัมปชัญญะมาก
เพราะการจมแช่กิเลส เป็นเรื่องที่จิตคุ้นเคยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
แม้ไม่มีพระพุทธเจ้า สภาวะอย่างนี้ก็มีเป็นสาธารณะ
ส่วนการเจริญสติสัมปชัญญะ เป็นสิ่งที่หากได้ยากในสังสารวัฏนี้
มีแต่ในยุคสมัยที่มีพระศาสนาเท่านั้น จึงจะมีคำสอนชนิดนี้
ดังนั้น ผู้ร่อนเร่ในสังสารวัฏ จึงมีโอกาสคุ้นกับมิจฉาสมาธิ
ได้มากกว่าจะคุ้นกับสติสัมปชัญญะ
ด้วยเหตุนี้ พอนั่งทำความเพียรไม่นาน
ส่วนมากจิตก็จมแช่ลงในความซึมเซาหรือสุขสบาย
แล้วก็ติดอยู่เพียงนั้นเอง

ส่วนสัมมาสมาธินั้น เป็นเครื่องอบรมขัดเกลาส่งเสริมสติสัมปชัญญะ
เพราะการเจริญสัมมาสมาธินั่นแหละ
คือเครื่องทำสติสัมปชัญญะให้บริสุทธิ์หมดจด
ซึ่งเรื่องนี้พระศาสดาทรงสอนไว้ในเรื่องสัมมาสมาธิ
และผมเคยนำมาเขียนไว้หลายคราวแล้ว
สมาธิที่เกื้อกูลต่อสติสัมปชัญญะนี้เอง
คือสภาพที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่า สมาธิอบรมปัญญา
เพราะสัมปชัญญะนั้นเอง คือตัวปัญญาสัมมาทิฏฐิ
ดังนั้นจะกล่าวว่า ที่ใดมีสัมมาสมาธิ ที่นั้นมีสติสัมปชัญญะ ก็กล่าวได้

ทีนี้เมื่อมีสติสัมปชัญญะแล้ว
สติสัมปชัญญะนั้นเอง ก็กลับมาเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงสัมมาสมาธิ
ดังคำที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ปัญญาอบรมสมาธิ
เพราะสัมปชัญญะคือตัวปัญญานั่นเอง
จิตที่มีปัญญาเห็นอารมณ์ตามความเป็นจริง ก็ย่อมง่ายที่จะตั้งมั่น
เพราะจิตไม่หลงใหลแส่ส่ายไปตามอำนาจของกิเลสตัณหา
ดังนั้นจะกล่าวว่า ที่ใดมีสติสัมปชัญญะ ที่นั้นมีสัมมาสมาธิ ก็ได้เหมือนกัน

กระทู้นี้เขียนเพียงย่อๆ นะครับ
เพราะเดี๋ยวนี้พวกเรารู้เรื่องธรรมะกันมากอยู่แล้ว
« Last Edit: Sat 9 Oct 10, 23:05:10 by หงส์น้อยบ้านโค้งดารา »
หัดรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^

Offline ภูหนาว

  • Jr. Member
  • **
  • Posts: 36
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • Gender: Male
  • นักรู้
ภิกษุทั้งหลาย ! เธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส อย่าได้ประมาท เธอทั้งหลายอย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจในภายหลังเลย

Offline หลี่จิ้ง

  • Global Moderator
  • Full Member
  • *
  • Posts: 56
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • Gender: Male
  • Dhammada.net คือความเรียบง่าย คือธรรมะ คือธรรมดา
นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
ขอนอบน้อมแด่ท่านผู้หลุดพ้นแล้ว ขอนอบน้อมแด่วิมุตติธรรมของท่านผู้หลุดพ้นแล้ว