บันทึก ตุลาคม ๒๕๕๕

[ลุงถนอม]

ความหลงอยู่ในความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ไม่รู้จักการพัฒนา ไม่ต่างอะไรกับการเดินทางไปสู่หุบเหวในป่ารักชัฏ

[ลุงถนอม]

การทำความดีอย่าหยุดที่การทำทาน แต่ควรฝึกฝนให้มีความคุ้นเคยที่จะทำความดีทั้งสิบประการ จะได้เป็นการเสริมบารมีแท้จริง

[ลุงถนอม]

เมื่อไม่หัดดูกิเลสในใจ แล้วลงมือภาวนา สิ่งที่ได้ก็คือ การเติบโตของ Self ไปพร้อมๆกับสีลัพตปรามาส เพราะจะอาศัยความภาคภูมิใจไปตัดสินการปฏิบัติ

[ลุงถนอม]

จะเปลี่ยนใจคนอื่นที่ไม่รักเรามารักเราทำไม เหนื่อยเปล่า? ไม่มีอะไรประกันว่าจะทำได้สำเร็จ เพราะเราก็มีวิบากของเราที่ต้องรับ เขาก็มีวิบากของเขาที่ต้องรับ

เปลี่ยนใจเราให้เมตตาต่อคนอื่นไม่เหลือพยาบาทไว้ให้ใครจะดีกว่า เพราะเป็นคุณงามความดีแท้จริง มีอยู่ในคุณงามความดีที่พึงเจริญ ที่เรียกว่า บารมีสิบประการ

[ลุงถนอม]

คนเรา หากจะมีสักอย่างเหลือไว้เป็นคุณค่า ก็อย่าลืมที่จะมี "สัจจะ" เพราะอย่างน้อย ก็ทำให้เป็นคนที่เชือถือได้ จะทำการสิ่งใดในอนาคตก็ยังมีโอกาสได้พบกับความสำเร็จ

[ลุงถนอม]

เราจะรู้สึกเสมอๆว่า ชีวิตไม่เคยมีความพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ความจริงแล้ว ชีวิตไม่เคยพอดีอย่างใจปราถนา หากแต่พอดีกับเหตุพอดีกับปัจจัยเสมอๆ

[ลุงถนอม]

ไม่มีสิ่งใด ตบตากาลเวลาได้ "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" จึงเป็นภาษิตที่พิสูจน์ตนเองว่าเป็นจริงเสมอมา

[ลุงถนอม]

เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิด ฝรั่งเขาอวยพรกัน แต่เราชาวพุทธรู้ว่า พรคือความประเสริฐให้กันไม่ได้ ต้องทำเอาเอง เราจึงมีธรรมเนียมขอขมากันในโอกาสพิเศษเพื่อความไม่พยาบาท เพื่อความสมัครสมานสามัคคี เพื่อความสำรวมระวัง ในกาย วาจา ใจ ต่อไป เรามาเปลี่ยนการอวยพรในวันคล้ายวันเกิด มาเป็นการขอขมาและให้อภัยกันในวันคล้ายวันเกิดกันเถิด

[ลุงถนอม]

วันคล้ายวันเกิด เราทำทานกันหลายอย่าง ปล่อยนกปล่อยปลา ตักบาตร เลี้ยงอาหารผู้ด้อยโอกาส ฯลฯ. แต่เรามักลืมทำ "อภัยทาน" กัน เรามาขอขมา-ให้อภัยในวันคล้ายวันเกิดกันเถอะ

[ลุงถนอม]

ความหวังที้สร้างขึ้นตามกระแส ไม่ดูพื้นฐานความเป็นจริงของตน ไม่ทบทวนและประเมินความรู้ความสามารถที่มี จะนำพาชีวิตของตนไปสู่ความยากลำบากที่อาจฟื้นฟูได้ยาก กลับมาเริ่มต้นใหม่ก็อาจสายเกินไป

[ลุงถนอม]

คิดบวกทำให้มีความสุข แต่หากคิดใคร่ครวญด้วยข้อมูลครบถ้วนตามความเป็นจริง จะตัดสินใจทำการใด จะเป็นการตัดสินใจที่มีผลยังยืน

[ลุงถนอม]

ชะตาชีวิต ไม่ได้กำหนดเพียงเพราะความคิด หากถูกกำหนดด้วย การคิด การพูด การทำ ดังนั้น พึงดำเนินชีวิตด้วยความมีสติ เพราะนั่นคือการทำให้ชีวิตมีแต่กุศลเกิดขึ้นเนืองๆ ย่อมส่งผลให้ชีวิตมีความสุขอย่างแท้จริงตลอดไป

[ลุงถนอม]

สติ ฝึกให้เกิดขึ้นเนืองๆได้ง่ายๆ แค่รู้ทันความรู้สึกสุข ความรู้สึกทุกข์ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น เท่านั้นเอง เป็นสติที่เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะเป็นสติที่เกิดขึ้นเนืองๆ จะคิด จะพูด จะทำ ก็ย่อมเป็นกุศล เป็นกุศลที่เกิดขึ้นเนืองๆเพราะมีสติเกิดขึ้นเนืองๆ

[ลุงถนอม]

คิดบวก ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นบวกจริง เพราะอาจเป็นบวกของเราแต่เป็นลบของคนอื่น แต่การมีสติรู้ทันจิตเป็นกุศลจริง เมื่อรู้ทันจิตเนืองๆ สติก็เกิด ความมีศีลก็เกิด ความมีสมาธิก็เกิด ความมีปัญญาก็เกิด ชีวิตย่อมดำเนินอยู่ในความรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน

[ลุงถนอม]

ภาษิต "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" พิสูจน์ตนเองอยู่เสมอๆ