Author Topic: [กระทู้เก่ามาเล่าใหม่] การภาวนาในเวลาทำงาน โดย คุณสันตินันท์  (Read 3872 times)

Offline หงส์น้อยบ้านโค้งดารา

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *
  • Posts: 118
  • คะแนนความนิยม: +4/-0
  • Gender: Male
เขียนเมื่อ วัน เสาร์ ที่ 17 มิถุนายน 2543 16:33:17

ช่วงที่ผมหัดใหม่ๆ นั้น ต้องทำงานในหน่วยงานที่เครียดมาก
ผมใช้วิธีฉกฉวยโอกาสปฏิบัติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

พอตื่นนอนตอนเช้าก็รีบดูจิต
อาบน้ำ ทานข้าว ก็ดูจิต
ขึ้นรถเมล์ไปทำงาน หรือขึ้นรถบริการไปทำงานก็ดูจิต
ลงจากรถ เดินเข้าที่ทำงานก็ดูจิต
ส่วนเวลาทำงาน ต้องคิดอย่างจดจ่อกับงาน ช่วงนี้ไม่มีปัญญาดูจิต
แต่พอเหนื่อย พอเครียด พอขี้เกียจ หรืออยากให้งานเสร็จเร็วๆ ก็ดูจิต

พักทานข้าวกลางวันก็ดูจิต
ทานเสร็จแล้วหลบไปเข้าวัดใกล้ที่ทำงานนั่งภาวนา
ตอนเดินไปวัดและเดินกลับมาทำงานช่วงบ่าย ก็เดินจงกรมเอา
ตอนพักเหนื่อย เดินไปเข้าห้องน้ำ ก็ดูจิต
แวะคุยเล่นกับคนอื่น ก็พยายามคุยเล่นไป ดูจิตไป
เห็นความรื่นเริงซุกซนของตนเอง
ตอนกลับบ้าน รอรถเมล์ ขึ้นรถเมล์ ก็ดูจิต
กลับบ้านอาบน้ำ ทานข้าว ดูข่าว ภาวนา ก็ดูจิต
หลับ ก็หลับไปกับการดูจิต
กลางคืนเกิดตื่นมาเข้าห้องน้ำ ก็ดูจิต
ถ้าโมหะยังคลุมจิตอยู่ จะไม่ยอมนอนอีก ต้องต่อสู้เอาชนะให้ได้ก่อน

ผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า
เวลาทำงานวันหนึ่งๆ กับเวลาที่ไม่ได้ทำงานนั้น
เวลาทำงานน้อยกว่า(สำหรับคนทั่วๆ ไป)
อย่างเวลาทำงานวันละ 8 ชั่วโมงนั้น
ลองนับเวลาทำงานจริงๆ ไม่กี่ชั่วโมงหรอกครับ
(แค่เวลานั่งโต๊ะ เปิดลิ้นชัก หยิบเอกสาร เปิดคอมพิวเตอร์ ก็หมดไป 5 นาทีแล้ว)

ดังนั้น ถ้าเราทอดทิ้งการปฏิบัตินอกเวลาทำงาน
แล้วไปสนใจว่าตอนทำงานจะปฏิบัติได้อย่างไร
อาจจะเป็นความพลาดของเราแล้วครับ
คือเราหลอกตนเองว่า เราไม่มีเวลาปฏิบัติเพราะต้องทำงาน


ถ้าเวลาทำงานก็ตั้งใจทำไป แต่มีโอกาสเมื่อไรรีบเจริญสติเมื่อนั้น
ดูทีหรือว่าจะเอาดีในการปฏิบัติไม่ได้เลย

******************************************************************

เหตุผลที่เหนื่อยมากเมื่อหัดเจริญสติใหม่ๆ
ก็เนื่องจากหลายปัจจัยประกอบกัน


ข้อแรกก็คือ พวกเราส่วนมากไม่ได้ฝึกสมาธิ หรือทำสมถะกันมาก่อน
จิตจึงไม่มีความตั้งมั่น

เมื่อจะให้ตั้งมั่น ก็ต้องเร่งกำลังของสติขึ้นมาชดเชยความด้อยของสมาธิ
คือต้องพยายามเพ่ง จ้อง ควบคุม ตั้งใจมากๆ
แต่ถ้าใครมีกำลังของ(สัมมา)สมาธิมาก่อน
การจะให้มีสติสัมปชัญญะก็เป็นเรื่องง่าย
เพราะสัมมาสมาธิ เป็นเครื่องทำสติให้บริสุทธิ์เพราะอุเบกขา

ถ้าใครรู้ตัวว่าขาดกำลังหนุนของสมถะ
ขอให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนไปหัดรู้ตัว หรือหัดดูจิต
เพราะอาจจะเหนื่อยมากไป จนท้อใจ
ให้ลองเดินจงกรมเล่นๆ เรื่อยๆ ไป
เท้ากระทบพื้น ก็รู้ความรู้สึกที่เท้ากระทบพื้นไปเรื่อยๆ
แต่อย่าเพ่งที่เท้า หรืออย่าให้จิตเผลอไปอยู่ที่เท้า หรือไปคิดเรื่องเท้า
ให้เดินสบายๆ รู้ความรู้สึกที่เท้ากระทบพื้นไปอย่างสบายๆ
เมื่อจิตมีกำลังแล้ว จะเกิดกำลังรู้ตัว
พอที่จะดูจิตหรือเจริญสติปัฏฐานใดๆ ต่อไปได้


เหตุที่เหนื่อยอีกประการหนึ่งก็คือ ความไม่ชำนาญในการ รู้
การจะให้รู้โดยไม่เผลอ หรือไม่เพ่ง เป็นจุดพอดีที่ทำยากมาก
ยิ่งพยายามทำ ก็ยิ่งผิด

แต่ถ้าไม่ระมัดระวัง ไม่พยายาม ก็ต้องเผลอ เพราะเผลอมาหลายกัปป์แล้ว
หรือถ้าจะไม่ให้เผลอ ก็ต้องเพ่งเอา ซึ่งส่วนมากก็เพ่งแบบเผลอๆ อีก
คือเพ่ง แต่ไม่รู้ตัวว่ากำลังเพ่งอยู่
ความรู้ตัวจึงเหมือนการที่เราต้องประคองตัวอยู่บนปลายเสาเล็กๆ
จะให้สบายเหมือนยืนอยู่บนพื้นกว้างๆ ไม่ได้แน่

อันที่จริงเราอย่าไปพยายามสร้างความรู้ตัวขึ้นมา
เอาแค่ว่าเผลอก็รู้ว่าเผลอ เพ่งก็รู้ว่าเพ่ง
พอไม่เผลอและไม่เพ่งแล้ว ก็รู้ตัวขึ้นมาเอง
พอฝึกมากเข้า ชำนาญเข้า เราจะพบว่า
ในขณะที่รู้ตัวนั้น จิตใจเบิกบาน สบายโดยอัตโนมัติ
แต่ในขณะที่หลงที่เผลอ ซึ่งเคยคิดว่าเป็นความสบายมาแต่ก่อนนั้น
มีสภาพไม่ผิดกับการนั่งกอดขยะกองใหญ่เอาไว้ทีเดียว


***************************************************


หัดรู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง

Offline nitivit

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 73
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • Gender: Male
  • ดูอย่างเดียว
การภาวนาที่ผมคิดว่าจะได้ปฏิบัติจนเป็นนิสัยคือตอนขับรถครับ ;D
คือตอนที่ขับรถจะรู้สึกว่าหงุดหงิดบ่อย ทำให้ได้ดูจิตบ่อยตั้งแต่ตอนเริ่มภาวนาแรก ๆ
หลัง ๆ เข้าก็เลยเป็นความเคยชินที่พอนั่งในรถจะดูจิตตัวเองโดยอัตโนมัติ
(แต่ถ้านั่งจะเริ่มเข้าสมาธิเพราะจิตจะนิ่ง ๆ ไม่รู้เพราะอะไร??)

ขอบคุณครับสำหรับบทความดี ๆ _/|\_
"สติจำเป็นในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ" หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

Offline เด็กน้อย

  • Full Member
  • ***
  • Posts: 62
  • คะแนนความนิยม: +0/-0
  • นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา
การภาวนาที่ผมคิดว่าจะได้ปฏิบัติจนเป็นนิสัยคือตอนขับรถครับ ;D
คือตอนที่ขับรถจะรู้สึกว่าหงุดหงิดบ่อย ทำให้ได้ดูจิตบ่อยตั้งแต่ตอนเริ่มภาวนาแรก ๆ
หลัง ๆ เข้าก็เลยเป็นความเคยชินที่พอนั่งในรถจะดูจิตตัวเองโดยอัตโนมัติ
(แต่ถ้านั่งจะเริ่มเข้าสมาธิเพราะจิตจะนิ่ง ๆ ไม่รู้เพราะอะไร??)

ขอบคุณครับสำหรับบทความดี ๆ _/|\_

_/l\_ _/l\_ _/l\_ ขออนุโมทนา สาธุนะคะ ^^
 

หนูก็เหมือนกันค่ะ อิอิ ตอนขี่รถจะหงุดหงิดง่ายมากเลยคะ
บ้างครั้งหงุดหงิดไป ก็ภาวนา มรณัง เม ภวิสสติไปด้วยค่ะ
แบบว่าเวลาอยู่บนท้องถนนนี่เหมือนชีวิตแขวนอยู่บนเส้ยด้ายเลยค่ะ อิอิ

ขอขอบคุณพี่หงษ์น้อยสำหรับบทความดีๆเช่นกันค่ะ ^^

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ^^