70
« on: Sun 28 Oct 12, 13:51:23 »
ความจริงแล้ว เราไม่ควรที่จะตั้งเป้าภาวนาเพื่อจะไม่ให้เจอกับสภาวะอย่างโน้น สภาวะอย่างนี้ หากแต่เราภาวนาก็เพื่อให้รู้ว่า สภาวะทั้งหลายล้วนแต่แปรปรวนเปลี่ยนแปลง มีเหตุก็เกิด หมดเหตุก็ดับ บังคับไม่ได้ แม้แต่ตัวใจของเราเอง เราก็ยังสั่งไม่ได้ ยังบังคับไม่ได้ เพราะหากว่าสั่งได้ เราคงสั่งให้ใจไม่กลัว หรือไม่ให้เกิดอาการดังที่เล่ามาให้ฟังได้นะครับ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนแต่เป็นผลจากการกระทำของเราทั้งสิ้นครับ เมื่อเราทำ เราก็ต้องเป็นผู้รับผลของการกระทำ เมื่อผลของการกระทำนั้นมาถึงตัวเรา เราก็ได้แต่เยียวยาหรือรักษาผลอันเกิดจากรรมนั้นๆไปครับ เราไม่สามารถจะสร้างกรรมใดมาหักล้างกรรมเก่าที่เรายังไม่ได้รับ เราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ แต่หากเป็นกรรมที่เราเคยรับไปแล้ว แล้วยังคงหลงเหลือเศษกรรมอยู่บ้าง ตรงนี้ หากเราทำคุณงามความดี เช่น การมีสติ เราก็อาจไม่ต้องรับเศษของผลกรรมนั้นอีก ก็จะคล้ายว่าผลของเศษกรรมนั้นก็จะละลายหายสูญไปเอง เหมือนเศษไม้ที่ผุพังไปเองไปตามกาลเวลานั่นล่ะครับ
ดังนั้น เวลาที่เกิดความกลัวนะครับ จิตใจกระวนกระวาย ดิ้นรนหนี ให้รู้ทันจิตใจที่กระวนกระวาย ไม่ใช่การพยายามข่มใจเป็นไม่กลัวนะครับ